ประเทศที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลก ยังคงเป็นประเทศที่ครองอันดับ 1 มาเป็นเวลานาน แต่ด้วยสถานการณ์โลกที่ไม่แน่นิ่ง ทำให้หลายประเทศตกลำดับไป ในขณะที่สถานการณ์เหล่านั้นก็ผลักให้ผู้มั่งคั่งในบางประเทศร่ำรวยขึ้น
มหาเศรษฐีมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก โดยในการจัดอันมหาเศรษฐีประจำของ Forbes ครั้งที่ 36 นี้มีมหาเศรษฐีจาก 75 ประเทศ หรืออาณาเขต จาก 6 ทวีปติดโผเข้ามา ในปีนี้เรามีมหาเศรษฐีทรัพย์สิน 10 หลักทั้งหมด 2,668 คน โดยปีที่แล้วมีถึง 2,755 คนด้วยกัน แต่ 10 ประเทศที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลก ก็ได้แซงหน้าประเทศอื่นๆ มาอย่างลอยตัว
ทำไมตัวเลขถึงน้อยลงไปน่ะหรือ นั่นก็เป็นเพราะสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่เริ่มมาจากจีนส่งผลให้ซัพพลายเชนและการผลิตติดขัด อีกทั้งยักษ์ใหญ่แห่งจีนทั้งหลายก็ล้มไปหลายเจ้าหลังจากทางจีนเริ่มมีมาตรการบริษัทเทคโนโลยีที่เข้มข้นขึ้น อีกทั้งยังมีประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและรัสเซียอีกด้วย
มหาเศรษฐีจีนที่เงินไหลออกจากกระเป๋าเยอะที่สุดมีทั้ง Colin Huang อดีตประธานแห่ง Pinduoduo, Ma Huateng ประธานยักษ์ใหญ่แห่งโลกอินเทอร์เน็ต Tencent Holdings และ Jack Ma แห่ง Alibaba ถึงแม้จะมีจำนวนมหาเศรษฐีน้อยกว่าปีที่แล้ว 87 คน แต่ด้วยจำนวนมหาเศรษฐีถึง 539 คน ทรัพย์สินรวมเกือบ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ จีนก็ยังคงครองตำแหน่งประเทศที่มีมหาเศรษฐีพันล้านเยอะเป็นอันดับที่ 2 ในโลก
อีกหนึ่งประเทศที่จำนวนมหาเศรษฐีลดลงคือ รัสเซีย หลังจากที่ประธานาธิบดี Vladimir Putin เดินหน้าบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ นานาชาติก็พากันโต้กลับแทนจะทันตาเห็น ส่งผลให้ตลากรัสเซียล้มไม่เป็นท่า ในปีนี้ มหาเศรษฐีรัสเซียหายไปจากทำเนียบของ Forbes 34 คนเนื่องจากราคาหุ้นที่ไม่แน่นิ่ง เงินรูเบิลที่มูลค่าลดฮวบ และการคว่ำบาตรที่ส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ของเหล่ามหาเศรษฐีรัสเซีย โดยสินทรัพย์ของเหล่ามหาเศรษฐีรัสเซียรวมแล้วร่วงลงจาก 5.84 แสนล้านเหรียญในปีที่แล้วเป็น 3.20 แสนล้านเหรียญในปีนี้ ผู้ที่สูญเสียมากที่สุดมีทั้งเจ้าพ่อน้ำมัน Vagit Alekperov และ Alexey Mordashov อดีตผู้มั่งคั่งที่สุดในรัสเซีย

แต่ก็ใช่ว่าเหล่ามหาเศรษฐีพันล้านในทุกประเทศจะเจอกับเรื่องแย่ๆ กันเสียหมด ในปีนี้ มีเศรษฐีพันล้านจากสหรัฐอเมริกาทั้งหมด 735 คน แซงหน้าประเทศอื่นๆ โดยในปีที่แล้ว สหรัฐฯ มีจำนวนมหาเศรษฐีทั้งหมด 724 คน และพวกเขาเหล่านี้มีทรัพย์สินรวมกันถึง 4.7 ล้านล้านเหรียญเพิ่มจากปีที่แล้วที่มีทรัพย์สินรวมกันอยู่ที่ 4.4 ล้านล้านเหรียญ อีกทั้ง 8 ใน 10 มหาเศรษฐีโลกผู้มั่งคั่งที่สุดก็เป็นชาวอเมริกันอีกด้วย โดยเบอร์ 1 ของทำเนียบมหาเศรษฐีคือ Elon Musk ผู้มีทรัพย์สินอยู่ราวๆ 2.19 แสนล้านเหรียญ
อินเดียเป็นประเทศที่มีจำนวนมหาเศรษฐีมากเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมีชาวอินเดียตบเท้าเข้าทำเนียบเลข 10 หลักเพิ่มมา 26 คนในปีนี้ ส่วนไต้หวันก็กระโดดขึ้นมาอยู่อันดับ 10 ในปีนี้ ส่งออกเศรษฐีพันล้านหน้าใหม่มา 4 คนด้วยกัน
ประเทศที่ไม่เคยมีเศรษฐีพันล้านมาก่อน และพึ่งได้ส่งเศรษฐีพันล้านคนแรกเข้ามาสู่ทำเนียบนี้ในปีนี้มีทั้งหมด 4 ประเทศด้วยกัน นั่นก็คือ อุรุกวัย, เอสโตเนีย, บัลแกเรีย และบาร์เบโดสที่ส่งออกคนดังอย่าง Rihanna เข้ามาสู่ทำเนียบมหาเศรษฐีในปีนี้
ส่วนไทยมีมหาเศรษฐีมากเป็นอันดับที่ 20 ของโลก โดยในปีนี้มีจำนวนมหาเศรษฐีชาวไทยในทำเนียบ Forbes ถึง 28 คนด้วยกัน ในขณะที่ปีที่แล้วมีถึง 31 คน โดยบุคคลที่รวยที่สุดในไทยคือ ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) โดยเจ้าสัวธนินท์มีทรัพย์สินสุทธิ 1.35 หมื่นล้านเหรียญมูลค่าทรัพย์สินคำนวนโดยใช้ราคาหุ้น และอัตราการแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ ณ วันที่ 11 มีนาคม 2022
รายชื่อ 10 ประเทศ และอาณาเขตที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลก










บทความโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร แปลและเรียบเรียงจากบทความ The Countries With The Most Billionaires 2022 เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม: รวยไม่พอ: มหาเศรษฐีตกอันดับ ประจำปี 2022
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine