สัมผัสประสบการณ์ Bridgerton นอกจอที่เมือง Bath - Forbes Thailand

สัมผัสประสบการณ์ Bridgerton นอกจอที่เมือง Bath

Bridgerton ซีรีส์ย้อนยุคที่พาคุณย้อนเวลากลับไปสู่ยุค Regency ในอังกฤษกลับมาเยือนจออีกครั้งในเดือนมีนาคมนี้ และเมือง Bath ก็พร้อมพาคุณไปเดินถนนสายเดียวกับกับตัวละครเหล่านี้แล้ว

Bridgerton เรื่องราวสุดแสนโรแมนติกสะกดใจผู้คนนับล้านในซีซั่นแรก กลับมาพร้อมกับซีซั่นที่ 2 ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ฉากที่คุณเห็นมากมายในทั้งสองซีซั่นนั้นมีเมือง Bath อันสวยงามและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ในประเทศอังกฤษ และหากคุณกำลังเสาะหาประสบการณ์ย้อนยุคอยู่ล่ะก็ เราก็ได้รวบรวมจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจให้คุณได้ท่องเมืองแห่งโรงอาบน้ำโรมัน

พักผ่อนที่ Hotel Indigo Bath

Hotel Indigo Bath ซ่อนตัวอยู่ในบ้านแบบทาวน์เฮ้าส์สไตล์ยุค Georgia ในศตวรรษที่ 18 อันสง่างามเต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์และเสน่ห์ของเมืองแห่งนี้ และละแวกนี้ก็ยังเป็นที่รักในโลกวรรณกรรมด้วย

สัมผัสประสบการณ์ Bridgerton นอกจอที่เมือง Bath
Hotel Indigo Bath

ที่แห่งนี้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจที่ดีสำหรับแฟนคลับ Bridgerton ที่ต้องการความโรแมนติก เนื่องจากโรงแรมแห่งนี้มีห้องพัก Romance and Mischief ซึ่งเป็นห้องที่ตกแต่งเข้าธีมถูกตกแต่งด้วยสไตล์แบบ abstract ผสานกับกลิ่นอายยุค Georgia อีกทั้งยังให้ความรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปช่วง Debutant Season ในเมือง Bath

นอกจากนี้ภัตตาคาร ณ โรงแรม Hotel Indigo Bath ยังมีเมนูมังสวิรัติพร้อมเสิร์ฟ และทางโรงแรมก็ได้จัดทัวร์ให้คุณได้เดินไปตามจุดท่องเที่ยวในเมืองที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำเรื่องราวความรักยุค Regency อีกด้วย

เยี่ยมชม Royal Crescent 

Royal Crescent คือหนึ่งในสถานที่ที่ยูเนสโกยกให้เป็นมรดกโลกในเมือง Bath และถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ Bridgerton อีกด้วย บ้านตึกแถวแนว terraced house จำนวน 30 หลังถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง John Wood, the Younger โดยบ้านทั้ง 30 หลังเรียงรายกันเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวสวยงาม และแม้ภายในบ้านจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่ภายนอกยังคงเหมือนตอนที่ถูกสร้างเมื่อปี 1767 และ 1774 ไม่ผิดเพี้ยน

Royal Crescent (Photo Credits: Getty)

อีกที่ที่ห้ามพลาดคือ No.1 Royal Crescent ซึ่งเป็นอาคารแรกทางทิศตะวันออกของ Royal Crescent ที่เป็นบ้านของ Baron Featherington ที่เมือง London ในเรื่อง ส่วนนอกจอนั้น สถานที่แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ยังพร้อมมอบประสบการณ์ที่จะพาคุณไปดื่มด่ำกับทัวร์ที่จะพาคุณย้อนกลับไปสู่ปี 1776 และ 1796 อีกด้วย

ท่องพิพิธภัณฑ์ The Holburne Museum

พิพิธภัณฑ์ที่ซึ่งเป็นหอศิลป์สาธารณะแห่งแรกในเมือง Bath อย่าง The Holburne Museum เป็นที่พักของ Lady Danbury ในเรื่อง โดยพิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่บริเวณ Sydney Pleasure Gardens และมุ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตคนด้วยศิลปะและปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ก็เป็นสถานที่จัดแสดงงานศิลปะสำคัญมากมาย

The Holburne Museum

งานศิลปะ ณ ที่แห่งนี้ถูกรังสรรค์โดยมีคอลเล็กชั่นของ Sir William Holburne เป็นหัวใจหลัก ศิลปินบางคนที่มีผลงานจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีทั้ง Ramsay, Stubbs และ Gainsborough พิพิธภัณ์แห่งนี้ยังจัดโปรแกรมครีเอทีฟ, เวิร์คช็อป และการแสดงละครเวทีต่างๆ อีกด้วย

เดินเล่นที่ Beauford Square และ Trim Street

อย่าลืมที่จะสละเวลาเล็กน้อยมาเดินเล่นรอบๆ Beauford Square และ Trim Street ซึ่งเพียงไม่กี่ก้าว คุณก็จะจำได้ทันทีว่า ถนนเส้นนี้แหละคือที่ที่เหล่าตัวละครทั้งหลายมักมาเดินเล่น (และซุบซิบ) กัน 

Theatre Royal (Photo Credits: Getty)

Beauford Square นั้นอยู่หลัง Theatre Royal อันโด่งดัง ซึ่งรั้วเหล็กทรงแหลมของสถานที่แห่งนี้ก็ได้ปรากฏเป็นฉากหลังของบทสนทนาสำคัญในเรื่องอยู่เช่นกัน

ห้อง Assembly Rooms อันโอ่อ่า ที่ถูกออกแบบโดย John Wood, the Younger ในปี 1769 และตั้งอยู่ในกลางเมือง Bath นี้ถูกใช้ในฉากเต้นรำนับไม่ถ้วนในเรื่อง Bridgerton และ ณ ตอนนี้ สถานที่แห่งนี้ก็เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสาธารณะให้ผู้คนเข้าไปเยี่ยมชมได้แล้ว โดยโคมระย้า Whitefriars ที่ทำมาจากคริสตัล และศิลปะชั้นสูงที่ตกแต่งผนังห้องแห่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ตราตรึงใจผู้เข้ามาเยี่ยมชมส่วนมากที่สุด

แปลและเรียบเรียงจากบทความ Experience ‘Bridgerton’ In Real Life At Hotel Indigo Bath เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: สัมผัสประสบการณ์ House of Gucci นอกจอที่อิตาลี


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine