"สตาร์ทอัพ" มายาของเหล่าดาราคนดัง - Forbes Thailand

"สตาร์ทอัพ" มายาของเหล่าดาราคนดัง

FORBES THAILAND / ADMIN
07 Feb 2022 | 04:47 PM
READ 3220

เหล่าคนดังทั้งหลายเริ่มผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการกันมากขึ้น และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราได้เห็นพวกเขาเปิดกิจการ สตาร์ทอัพ” กันมากขึ้น แต่บริษัทเหล่านี้จะซื่อตรงขนาดไหน ก็ต้องคอยดูกันต่อไป

Savage X Fenty แบรนด์ชุดชั้นในของ Rihanna ได้รับเงินอัดฉีดไปถึง 125 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการระดมทุนรอบ Series C และในวันต่อมา Bloomberg ก็ได้รายงานว่า Skims แบรนด์ชุดกระชับสัดส่วนของ Kim Kardashian มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า เป็น 3.2 พันล้านเหรียญ หลังจากระดมทุนได้ถึง 240 ล้านเหรียญในการระดมทุนรอบล่าสุด

"สตาร์ทอัพ" มายาของเหล่าดาราคนดัง
Kim Kardashian ที่ Skim Pop-up Store ในเมือง Los Angeles (Photo Credits: Greg Swales for The New York Times)

ทั้งสองเศรษฐินีพันล้านก้าวเข้าสู่ทำเนียบ Forbes ด้วยรายได้จากธุรกิจของพวกเธอ และทั้ง Rihanna กับ Kardashian ก็ไม่รอช้า รีบโอ้อวดความเติบโตของบริษัทบนโซเซียลมีเดียและที่อื่นๆ กันใหญ่ แต่เช่นเดียวกับเหล่าผู้ประกอบการคนดังทั้งหลาย พวกเธอเก็บตัวขึ้นมาทันทีเมื่อถึงคราวที่ต้องเปิดเผยข้อมูลด้านการเงินสำคัญๆ 

โดยทั่วไปแล้ว ดาราเจ้าของธุรกิจมักจะปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าพวกเขาควักเงินจากกระเป๋าตัวเองลงทุนไปเท่าไร และรูดซิปปากแทบสนิทเมื่อถูกถามเรื่องตัวเลขยอดขาย 

บริษัทเอกชนทั้งหลายเหล่านี้อยู่ตรงรอยต่อของทาง PR และมันก็ง่ายขึ้นเมื่อมีชื่อคนใหญ่คนโตเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง” Sucharita Kodali นักวิเคราะห์รีเทลจาก Forrester กล่าว ทั้งนี้ เธอได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อพูดถึงมูลค่าบริษัทแล้ว บริษัทสตาร์ทอัพทั้งหลายก็มักจะโกหก โดยส่วนมากบวกเพิ่มไป 2 ถึง 10 เท่าใครจะไปรู้เธอเสริมเพราะไม่มีใครได้เห็นตัว Term Sheet นี่” 

ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ดาราทั้งหลายก็ยังคงใช้ชื่อเสียงของพวกเขาเป็นดาบ และเกราะป้องกันในการทำให้ สตาร์ทอัพ ของพวกเขาเป็นที่รู้จักมากขึ้น

สตาร์ทอัพคนดัง

ตัวอย่างในสมัยแรกๆ ก็อย่างเช่น Gwyneth Paltrow ที่เปิดตัว Goop แบรนด์ของเธอไปเมื่อปี 2008 และในการระดมทุนรอบ Series C อีกศตวรรษให้หลัง เธอก็ได้รับเงินระดมทุนไปถึง 50 ล้านเหรียญ อีกทั้ง แหล่งข่าวจำนวนมากยังคาดว่า Goop มีรายรับ 15 ถึง 20 ล้านเหรียญ แต่ถ้าบริษัทก็ปฏิเสธที่จะยืนยันตัวเลขดังกล่าว

Gwyneth Paltrow ในงาน goop Health Summit ณ 3Labs ในเมือง Culver City รัฐ California (Photo Credits: Neilson Barnard/Getty Images for goop)

ทุกวันนี้ Goop พึ่งการขายผลิตภัณฑ์โลกตะลึง เช่น Jade Egg (ซึ่งอ้างว่าสามารถเสริมพลังงานทางเพศได้หากผู้ใช้ใส่เข้าไปในอวัยวะเพศหญิงของตัวเอง) และเทียนกลิ่น “Keep Your Hands Off My Vagina” มากกว่าพึ่งชื่อเสียงจากอาชีพนักแสดงของเธอในการสร้างกระแสให้กับแบรนด์ซะอีก แต่เมื่อไรก็ตามที่พูดถึงการรายงานตัวเลขยอดขายต่อปี ทางบริษัทกลับไม่ยอมเปลือยหมดเปลือกเหมือนกับชื่อผลิตภัณฑ์ของพวกเขา

ส่วนนักร้องเพลงคันทรี Blake Shelton ผู้นั่งอันดับที่ 70 ในทำเนียบ Forbes Celebrity 100 มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าตัวที่เขาเป็นหนึ่งในโค้ชในรายการ The Voice ของช่อง NBC อย่างไรก็ตาม เมื่อปีที่แล้ว Rolling Stone ก็ได้รายงานว่าเขาขายแคตตาล็อคเพลงของเขาไปอย่างเงียบๆ ในมูลค่า 50 ล้านเหรียญ แต่เมื่อถามเกี่ยวกับดีลดังกล่าว Shelton ผู้ช่างพูดก็กลับสงบปากสงบคำซะเหลือเกิน

Blake Shelton กับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มของเขา ​(Photo Credits: Smithworks)

ณ ตอนนี้ เขากำลังเพ่งเล็งไปยังช่องทางสร้างรายได้ใหม่อย่างแบรนด์ hard seltzers ของเขาเอง แต่เขาก็ยังไม่ได้เปิดเผยว่าเขาได้ลงทุนไปเท่าไรในการเปิดตัว Smithworks ครั้งนี้

หลังจากถอยห่างออกมาจากพระราชกรณียกิจต่างๆ ในสหราชอาณาจักร เจ้าชาย Harry และ Meghan Markle ก็เดินสายออกสื่อตามแบบฉบับอเมริกันอย่างเต็มที่ และได้ประกาศว่าพวกเขาจะร่วมมือด้านคอนเทนต์กับ Netflix และ Spotify

อีกทั้ง พวกเขายังได้เซ็นสัญญากับ Harry Walker Agency เพื่อสร้างรายได้จากการออกตัวในที่สาธารณะในอนาคต แต่เมื่อให้พวกเขาเผยว่าดีลเหล่านั้นมีมูลค่าเท่าไร คู่รักอดีตสมาชิกราชวงศ์ก็ปิดปากแน่นเหมือนกันกับ The Firm ที่พวกเขาหนีออกมาไม่ผิด

บางคนก็โกหกซะเลย

น้องสาวต่างพ่อของ Kardashian อย่าง Kylie Jenner เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด โดยเมื่อปี 2019 ดาวรายการเรียลลิตี้และผู้ก่อตั้ง Kylie Cosmetics คนนี้ได้โอ้อวดว่าเธอมีรายรับถึง 360 ล้านเหรียญ และตัวเลขนั้นก็ผลักให้เธอเป็นเศรษฐีพันล้านผู้สร้างฐานะด้วยตัวเองที่อายุน้อยที่สุด ณ เวลานั้น

"สตาร์ทอัพ" มายาของเหล่าดาราคนดัง
Kylie Jenner (Photo Credits: Jamel Toppin for Forbes)

ในปีต่อมาบริษัทมหาชนอย่าง Coty ก็ได้ซื้อธุรกิจของเธอไปร้อยละ 51 ด้วยมูลค่าถึง 2.1 พันล้านเหรียญ หลังจากนั้นไม่นาน เอกสารของ Coty ก็เผยให้เห็นว่าความเป็นจริงแล้ว Kylie Cosmetics มีมูลค่าน้อยกว่าที่ Jenner บอกกับ Forbes ถึงครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้เธอตกทำเนียบมหาเศรษฐีพันล้านไป 

บุคคลสาธารณะผู้ซ่อนตัว

แล้วจะโกหก หรือปิดปากเงียบกันไปทำไม “SEC (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) ไม่ได้ควบคุมว่าบริษัทเอกชนจะพูดอะไรบ้าง และก็ไม่มีผู้คอยวางระเบียบด้วย Kodali กล่าวคอมมิวนิตี้ Venture Capital มีบทบาทใหญ่มากทีเดียวในการเผยแพร่คำโกหกหล่าวนั้น และก็ไม่มีใครตั้งคำถามใดๆ กับพวกเขาทั้งนั้น” 

"สตาร์ทอัพ" มายาของเหล่าดาราคนดัง
Jessica Alba (Photo Credits: Jamel Toppin for Forbes)

Kodali ผู้เชี่ยวชาญด้านอี-คอมเมิร์ซและพฤติกรรมผู้บริโภคกล่าวว่า จนกว่าบริษัทที่มีคนดังเป็นผู้ขับเคลื่อนจะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ มันก็ไม่มีวิธีที่จะประเมินว่าแบรนด์นั้นๆ มีรากฐานที่แข็งแรงหรือไม่ช่วงแรกๆ ของ Jessica Alba The Honest Co ก็ดูน่าเคารพอยู่หรอก Kodali ยังกล่าวต่ออีกว่า แต่สิ่งที่เป็นตัวยืนยันว่าบริษัทของเธอนั้นซื่อตรงคือเอกสารต่างๆ ที่มาจากการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์

ล่าสุด Kodali ยังชี้ให้เห็นอีกว่าการทุ่มเงินลงทุนถึง 50 ล้านเหรียญของ Roger Federer ในบริษัทรองเท้าผ้าใบ On Running เป็นตัวอย่างของธุรกิจที่มีคนดังหนุนหลังที่แข็งแกร่ง บริษัทแห่งนี้ก่อตั้งเมื่อปี 2010 และเข้าตลาดหลักทรัพย์ในเดือนกันยายน 2021 ด้วยมูลค่าบริษัท 11.3 พันล้านเหรียญการเติบโตของที่นี่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มาจากกระแส Kodali กล่าวฉันไม่ได้รู้เรื่องนี้จากหัวข่าว ฉันได้ยินเรื่องนี้จากคนที่คลั่งไคล้ในการวิ่ง แล้วก็พวกนักลงทุนทั้งหลาย เรื่องนี้แทบจะไม่ปรากฏในสื่อเลยจนกระทั่งมันเป็นเรื่องที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว” 

ในขณะเดียวกัน ยังไม่มีใครรู้ได้ว่าแบรนด์ Savage X Fenty กับ Skims จะประทับตราของตัวเองไว้ในตลาดชุดชั้นในนี้ในระยะยาวไว้ได้ขนาดไหน

Roger Federer เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับ On Running

Simeon Siegel นักวิเคราะห์รีเทลจาก BMO Capital Markets ชี้ให้เห็นว่าหลายแบรนด์กำลังพยายามหาประโยชน์ให้ตัวเองจากความไม่มั่นคงที่เห็นได้ชัดของ Victoria’s Secret ในส่วนแบ่งตลาดนี้ แต่บริษัทชุดชั้นในอย่างของ Rihanna ที่ถึงแม้ปัจจุบันจะมีทุนอยู่ถึง 310 ล้านเหรียญ ก็ยังคงไม่อยู่ในสนามแข่งเดียวกันกับ Victoria’s Secret” ที่ล่าสุด มีรายงานว่ามีรายรับปี 2021 มากกว่า 5 พันล้านเหรียญเลยด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ด้วยตัวเลขผู้ติดตามในโซเซียลมีเดียจำนวนมหาศาลของ Rihanna และ Kardashian ที่ต่างคนต่างมีผู้ติดตามเกือบถึง 300 ล้านรายนี้ ทั้งสองเองได้ใช้ชื่อเสียงของตัวเองเป็นลิฟท์ด่วนพิเศษสู่ความมั่งคั่งเรียบร้อยแล้ว

ฉันรวมพวกนี้ทั้งหมดไว้ในกลุ่มสตาร์ทอัพที่โอ้อวดธุรกิจตัวเองเกินจริงไปทั้งหมดนั่นแหละ และมันก็เกิดขึ้นเป็นระลอกๆ เมื่อไรก็ตามที่ภาคธุรกิจใดก็ตามจู่ๆ ก็เริ่มฮอตขึ้นมา Kodali กล่าวแต่คุณไม่สามารถซ่อนมันได้หากคุณก้าวเข้าตลาดหลักทรัพย์

แปลและเรียบเรียงโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร จากบทความ How Celebrities Use Fame To Fuel Their Startups—And Then Hide Behind It เผยแพร่บน ​Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: RentSpree สตาร์ทอัพสัญชาติไทย เจาะตลาดอเมริกา


ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine