The Tinder Swindler สิบแปดมงกุฎที่ซ่อนตัวอยู่ในแอปหาคู่ผู้ใช้ความรักเป็นเบ็ดล่อเหยื่อ ทิ้งความเจ็บช้ำและหนี้สินไว้มากมาย แต่ครอบครัว Leviev ที่สิบแปดมงกุฎรายนี้หลอกใครต่อใครว่าเป็นครอบครัวของเขากำลังจะเอาคืนอาชญากรคนนี้ให้สาสม
ก่อนที่เรื่องราวในสารคดี Netflix เรื่อง The Tinder Swindler หรือชื่อ Shimon Hayut จะเป็นที่ประจักษ์ต่อโลกใบนี้ Lev Leviev (หรือรู้จักกันในนาม The King of Diamonds) ก็ได้ก่อตั้ง LLD Diamonds ขึ้นมา บริษัทที่ขึ้นแท่นว่าเป็นบริษัทเอกชนที่ผลิตและเจียระไนเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก และผู้ครอบครองเหมืองหลายแห่งบริษัทนี้ก็กำลังดำเนินการไปตามปกติอย่างเป็นที่น่าพึงพอใจ
อย่างไรก็ตาม เมื่อหลายปีก่อน ก็เริ่มมีเรื่องซุบซิบเกี่ยวกับ Simon Leviev ลูกชายกระเป๋าหนักของ Lev ที่กำลังใช้ชีวิตอย่างโออ่า ไม่เคยอยู่กับที่ และสร้างปัญหาอยู่บ่อยครั้ง แต่หลังจากที่สารคดีลงฉายครั้งแรกในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ผู้คนมากกว่า 50 ล้านคนที่ได้รับชมภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ ก็ตระหนักรู้แล้วว่า ลูกชายคนนั้นไม่มีตัวตนอยู่จริง
ในปี 2017 Chagit Leviev ลูกสาวของ Lev และผู้นั่งเก้าอี้ซีอีโอแห่ง LLD Diamonds USA มีสายอันแปลกประหลาดที่ทำให้เธอกังวลไม่ใช่น้อยโทรเข้ามา ชายที่อยู่ปลายสายโทรมาหาเธอเพราะว่าเขากำลังนำเช็คจากบริษัทของเธอจำนวน 3 ใบ มูลค่า 350,000 เหรียญสหรัฐฯ ไปขึ้น
“มันน่าสงสัยมากๆ และฉันเลยถามเขาไปว่าช่วยส่งรูปเช็คพวกนั้นมาให้ฉันทีได้หรือไม่” เธอกล่าวในการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ “ฉันรู้สึกตกใจมาก เพราะเช็คเหล่านั้นมันดูเหมือนจริง และมีแม้กระทั่งชื่อกับที่อยู่ของบริษัทเรา” นอกจากนี้ เธอยังสับสนไม่ใช่น้อยเพราะเธอเป็นหัวหน้าบริษัทที่ตั้งอยู่ในกรุงนิวยอร์ก แต่ปลายสายนี้กลับโทรมาจากต่างประเทศ แถมอ้างว่าเช็คดังกล่าวเป็นเซอร์วิสซีอีโอแห่งบริษัทของเธอนาม Simon Leviev เป็นคนมอบให้ “ฉันอธิบายไปว่าไม่มีใครในบริษัทหรือครอบครัวชื่อนั้น และเขาก็ไม่ใช่ซีอีโอแน่ๆ”
ด้วยความตกใจที่เช็คนั้นเหมือนจริงสุดๆ เธอและครอบครัวก็โทรหาธนาคารโดยทันที ณ เวลานั้น พวกเขาไม่รู้เลยว่าการฉ้อโกงนี้ฝังรากลึกไว้แค่ไหน ส่วนเช็คทั้ง 3 ใบนั้น มีเลขบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้องกับทางบริษัทเลย “ดูเหมือนว่า เขากำลังใช้ข้อมูลบัญชีธนาคารของบางคนอื่น และในบัญชีนั้นก็ไม่มีเงิน”
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เธอรู้สึกหวั่นใจ และทางครอบครัวก็ได้ไปร้องทุกข์กับตำรวจอิสราเอล เธอบอกด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความคับข้องใจว่า คดีที่ไปร้องทุกข์ครั้งนั้น ถูกปิดไปเพียงไม่กี่เดือนต่อมา เธอมีเหตุผลที่ดีเลยว่าทำไมเธอต้องรู้สึกอยู่ไม่สุข เพราะตลอดช่วงเวลา 5 ปีจนถึงปี 2022 ที่ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ลงฉาย ตัวเธอเองและครอบครัวของเธอได้รับอีเมลและมีสายโทรเข้านับไม่ถ้วนจากผู้ซื้อชาวยุโรปจำนวนมากเรื่องค่าเครื่องบินส่วนตัว, ค่าเรือยอช์ต และเซอร์วิสรถหรูที่ยังไม่ได้จ่าย
“เขาทิ้งบิลที่ยังไม่จ่ายไว้เรียงรายเต็มไปหมด และเราก็ได้รับคำร้องเรียนให้ชำระการบริการเหล่านั้น” เธออธิบาย ในช่วงหลายๆ ปีนี้ เธอก็ได้ยินมาบ้างว่ามีชายชื่อ Simon อ้างว่าเป็นพี่ชายของเธอ “มันประหลาดนะ เพราะไม่มีใครในครอบครัวเราที่ใช้ชื่อนั้นเลย แต่เพราะพวกเรามีกัน 9 คนพี่น้อง มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสักเท่าไรที่จะมีคนสับสนช่ือเราบ้าง” ในตอนแรก เรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกกังวลมากเท่าไร แต่ต่อมา มันก็เริ่มชัดเจนแล้วว่า ปัญหากำลังเกิด
เมื่อถูกถามว่าครอบครัวเธอได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้อย่างไรบ้าง เธอก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และเงียบไปชั่วครู่ “มันน่ากลัวมากๆ ที่มีใครสักคนรู้ข้อมูลส่วนตัวของพวกเราเยอะขนาดนี้” เธอกล่าว
“มันไม่ใช่แค่ว่าเขามีข้อมูลตรงนั้นนะ แต่เขายังใช้ข้อมูลดังกล่าวหลอกลวงผู้เสียหายมากมาย เราเองก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกัน อัตลักษณ์ของเราถูกขโมยไปและถูกเอาไปใช้หลอกคน เขาเป็นอาชญากรระดับสูงมากประสบการณ์ ฉันเคยเห็นเอกสารปลอมของเขาจำนวนไม่น้อยและฉันก็แปลกใจสุดๆ ที่พวกมันเหมือนจริงเหลือเกิน ทั้งจดหมาย เช็ค หนังสือเดินทาง แลการโอนเงินผ่านธนาคารต่างๆ เอกสารเหล่านั้นละเอียดมาก เขายกระดับการฉ้อโกงไปอีกขั้นเลย และบนเอกสารบางอย่างก็มีแม้กระทั่งเลนท้าย 4 หลักของบัญชีธนาคารบริษัทเราอีกด้วย เราไม่รู้เลยว่าเขาไปเอาข้อมูลนั้นมาได้อย่างไร”
แม้ว่าสิ่งที่เขาทำในการต้มตุ๋นผู้คนจะแย่ขนาดไหน แต่เธอเองก็รู้สึกอยู่ไม่สุขที่ Hayut สามารถโหดร้ายกับเหยื่อของเขาได้ขนาดนั้น “เขาล่อผู้หญิงเหล่านี้ด้วยความรักและความอบอุ่นในวิธีการที่ต่ำและสกปรกที่สุด มันรู้สึกใจสลายมาก ฉันรู้สึกเศร้าแทนผู้หญิงเหล่านี้เหลือเกิน การทำเช่นนั้นมันน่าอัปยศและต่ำเหลือเกิน” เธอกล่าว
หลังจากภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ลงฉาย Leviev กล่าวว่าเธอก็ได้รู้ถึงตัวตนและติดต่อกับเหยื่อของ Hayut หลายราย รวมไปถึงผู้หญิงทั้ง 3 คนในสารคดี Cecilie Fjellhoy, Ayleen Charlotte และ Pernilla Sjöholm “ฉันติดต่อไปหาพวกเธอและเราก็พูดคุยกันผ่าน Zoom หลายครั้ง ฉันอยากให้พวกเธอรู้ว่า เราคอยหนุนหลังอยู่นะ”
เธอยังคงเก็บเกี่ยวข้อมูลเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ จากการที่ได้ติดต่อกับผู้หญิงที่ติดแหของ Hayut และเมื่อทางครอบครัว Leviev และ LLD Diamonds ยื่นฟ้องคดีอาญาไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และการยื่นฟ้องนี้ก็ถูกพาดหัวข่าวไปทั่วโลก หากถูกตัดสินว่าผิดล่ะก็ Hayut จะต้องถูกจำคุกที่อิสราเอลถึง 11 ปี ส่วน ณ ตอนนี้ เธอยืนยันว่าชายนักต้มตุ๋นกำลังอาศัยอยู่ที่เทลอาวีฟ
โทษที่สาสม
จากหลักฐานหลากหลายชิ้น รวมไปถึงคลิปเสียงและคำให้การจากพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ปรากฎว่านี่เป็นคดีพ่อลูกนักต้มตุ๋น “คดีของเรามีจำเลยเป็น Shimon และ Yohanan Hayut” เธอกล่าว “เรามีคลิปเสียงที่พ่อของเขาแนะนำ Shimonในฐานะลูกชายครอบครัว Leviev ดังนั้นเราเลยพบว่าเขาเองก็ถือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดเมื่อเขาแนะนำลูกชายตัวเองในฐานะคนของครอบครัวเรา”
Guy Ophir ทนายประจำครอบครัวยืนยันว่า Hayut อาจถูกทั้งจำทั้งปรับ “มันน่าเสียดายมากที่ไม่มีรัฐไหนยื่นฟ้องเลยจนถึงตอนนี้ และเพราะเป็นแบบนี้ ทางครอบครัว Leviev สั่งให้ผมใช้กระบวนการทางกฎหมายทุกรูปแบบที่สามารถใช้ได้ในการนำความยุติธรรมมาสู่เหยื่อของชายคนนี้ การร้องทุกข์ครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสงครามกฎหมายที่เราจะสู้แบบเต็มตัว และอีกมากมายจะตามมา”
Leviev ยืนยันรายงานที่ว่าทางครอบครัวตั้งใจที่จะฟ้องร้อง Hayut ในคดีแพ่งเป็นจริง และตอนนี้พวกเขาก็กำลังเตรียมตัวอยู่ “การฟ้องร้องคดีอาญานี้เป็นเพียงก้าวแรกจากก้าวหลายก้าวที่เราต้องเดินต่อไปในการให้ชายคนนี้ได้รับโทษที่สาสมให้ได้”
เธออธิบายถึง Hayut ว่าเป็น “นักต้มตุ๋นที่ขโมยอัตลักษณ์ของครอบครัวเราไป และพยายามที่จะหาประโยชน์ใส่ตัวด้วยชื่อเสียงอันดีงามของเราเพื่อที่จะลวงเงินนับล้านต่อล้านเหรียญจากกระเป๋าของเหยื่อ” และเธอเองก็โล่งใจที่ตัวตนจริงๆ ของชายตนนี้ และการกระทำของเขาถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก “หวังว่านี่จะหยุดการกระทำไร้ศีลธรรมของเขาได้นะ” เธอกล่าวเสริมว่า ไม่มีใครในครอบครัวเธอเคยได้พบกับ Hayut เลย “นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราอยากทำ” เธอกล่าว
เธอกล่าวว่าทางครอบครัวเองก็หัวเสียที่พวกเขาไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับสารคดี Netflix นี้ก่อนที่จะลงฉายเลย “พวกเขาใช้ชื่อเรา, บริษัทเรา แม้กระทั่งรูปครอบครัวของเรา และไม่มีใครโทรมาหาเรา หรือขอความเห็นอะไรจากเราเลย เราต้องดูไปพร้อมๆ กับคนอื่น เรารู้สึกผิดหวัง นี่คือบริษัทที่มีตัวตนจริงๆ และชายคนนั้นปลอมเช็คเงินค่าจ้างและ ข้อมูลบันทึกรายการเคลื่อนไหวในบัญชีธนาคาร เรายังพบเรื่องอื่นๆ อีกมากมายตอนที่เรานั่งดูสารคดี”
Hayut เป็นชายมีหมายตามตัวในหลายประเทศ และเคยนอนคุกอยู่บ้าง สุดท้าย ในปี 2019 เขาก็มาตกม้าตายที่กรีซหลังจากโดนจับได้ว่าใช้หนังสือเดินทางปลอม และถูกส่งตัวไปยังอิสราเอล โดยที่อิสราเอล เขาถูกจับกุมด้วยข้อหาลักทรัพย์ ฉ้อโกง และปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งเป็นคดีที่เขาก่อทิ้งไว้ตั้งแต่ปี 2011 แล้ว
เขาโดนสั่งจำคุก 5 เดือนจากโทษทั้งหมด 15 เดือน อีกทั้งยังถูกปล่อยตัวก่อนกำหนดเนื่องจากความประพฤติดีในช่วงสถานการณ์โควิดนี้อีก และนอกจากนั้น เขาก็ถูกส่งไปนอนคุกที่ฟินแลนด์อยู่เป็นเวลา 2 ปี (2015-2017) ด้วยข้อหาฉ้อโกงผู้หญิง 3 คนที่นั่น
แต่เขาก็จะชำระความผิดของตัวเองไม่หมด และตอนนี้ เขากลับหันไปวางแผนก้าวเข้าสู่วงการมายาแทน โดยหลังจากได้เซ็นสัญญากับผู้จัดการ Gina Rodriguez จาก Gitoni Inc. เขาก็ได้ประกาศว่าเขาอยากจะเขียนหนังสือสักเล่ม เป็นพิธีกรพอดแคสต์เกี่ยวกับความรัก และเขาก็ได้เสนอแนวคิดสำหรับรายการทีวีไปด้วย นอกจากนี้ ปัจจุบันเขายังสามารถทำเงินได้จากเว็บไซต์สำหรับคนดังอย่าง Cameo ได้อีกด้วย
Hayut ปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Inside Edition เมื่อตอนเดือนกุมภาพันธ์ โดยอ้างว่า “ผมไม่ใช่นักต้มตุ๋น ผมไม่ใช่คนจอมปลอม ผู้คนไม่รู้จักผมสักหน่อย ดังนั้น พวกเขาจะมาตัดสินผมไม่ได้”
กลับมาที่คำแถลงการณ์ของเธอที่กล่าวว่าการฟ้องร้องคดีอาญานี้เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น เธอยังกล่าวอีกว่า ทางครอบครัวต้องการฟ้องใครก็ตามที่ให้แพลตฟอร์มแก่ Hayut “นี่มันเหลือทนซะจริงๆ” เธอกล่าว “ช่างเป็นเรื่องตลกที่ไม่น่าเชื่อสุดๆ ที่เราจะปล่อยให้อาชญากรที่ผ่านคุกผ่านตารางกลายเป็นดาวฮอลลีวูด มีคนเสียเงินไปจำนวนมากเพราะว่าเขา และก็มีเหยื่อจำนวนไม่น้อยเลย นี่มันกลายเป็นเรื่องตลกที่จำไม่ออกไปแล้วล่ะ เขาใช้ความรักหลอกผู้หญิงเหล่านี้ และในนามของความรัก พวกเขาก็ทำทุกอย่างที่ถูกร้องขอ นี่ไม่ใช่คนที่ขโมยเงินแล้วก็จากไป เขาวนเวียนอยู่รอบๆ พวกเธอเป็นเวลานานและทรมานพวกเธอ”
แปลและเรียบเรียงจากบทความ How Chagit Leviev Discovered The Tinder Swindler Was Using Her Family’s Name And Fortune เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม: สัมผัสประสบการณ์ Bridgerton นอกจอที่เมือง Bath
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine