เทคโนโลยี "ความเป็นจริงเสมือน" จุดเปลี่ยนอุตสาหกรรมสปาและเวลเนส - Forbes Thailand

เทคโนโลยี "ความเป็นจริงเสมือน" จุดเปลี่ยนอุตสาหกรรมสปาและเวลเนส

FORBES THAILAND / ADMIN
13 Aug 2019 | 04:00 PM
READ 9275

แม้ว่าเทคโนโลยีจะสามารถเป็นสิ่งที่ทำลายสุขภาพและความสมดุลของชีวิตได้ แต่อันที่จริงแล้วเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเทคโนโลยี "ความเป็นจริงเสมือน" หรือ virtual reality (VR) นั้นถูกนำมาใช้เพื่อเสริมสร้างอุตสาหกรรมสปาและเวลเนส เพิ่มมิติพิเศษให้กับการมีสุขภาพดี

Esqapes Immersive Relaxation บริการนำเทคโนโลยี ความเป็นจริงเสมือน มาใช้สร้างประสบการณ์การผ่อนคลายรูปแบบใหม่ให้ลูกค้า โดยจำลองรูปแบบของเดย์ สปา (day spa) หรือสปาที่ไม่มีการพักค้างคืนและใช้เวลาสั้นๆ แต่ที่แตกต่างไปคือ นี่เป็นสปาที่ไม่มีเตียงนวด และจะพาคุณเดินทางไปยังโลกอีกใบโดยไม่ต้องออกจาก Los Angeles

บริการดังกล่าวเป็นของ Michael Jackson อดีตโปรดิวเซอร์เกมจากค่าย Disney ผู้ผันตัวมาสร้างโปรแกรมและสิ่งแวดล้อมของสปา เพื่อให้ผู้คนได้ผ่อนคลายจากการทำงานในแต่ละวันด้วยการใส่เฮดเซต VR เท่านั้น

"ผมคิดว่าหลายครั้งที่ชีวิตต้องจมอยู่กับงานและความรับผิดชอบในชีวิตประจำวัน ไม่มีเวลาไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งเพื่อให้ตนเองผ่อนคลาย บางครั้งก็ต้องเฝ้ารอวันหยุด แต่บริการนี้เหมือนเป็นช่องทางหลีกหนีความจริงสู่บางสิ่งที่ช่วยให้คุณใจสงบลงและเหมือนได้พักสักครู่" Jackson กล่าว

ด้วยเทคโนโลยีนี้จะทำให้ผู้ใช้หลีกหนีโลกความจริงไปสู่ธรรมชาติของเกาะเมืองร้อน รู้สึกถึงความร้อนของดวงอาทิตย์ ในขณะที่ทุกส่วนของร่างกายผ่อนคลายด้วยเก้าอี้นวดระดับไฮเอนด์ โดยมีประสบการณ์ให้เลือกทั้งหมด 10 แบบ ซึ่งรวมถึงสวนสรวงสวรรค์และกระท่อมหิมะซึ่งช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกราวกับอยู่ในช่วงวันหยุดพักผ่อนแบบสั้นๆ สำหรับราคาการใช้บริการ 30 นาที อยู่ที่ 45 เหรียญสหรัฐ โดยสามารถจองวันเวลาการเข้าใช้งานได้ที่เว็บไซต์

เก้าอี้นวดไฟฟ้าสำหรับการบริการ VR Spa ของ Esqapes

การสร้างประสบการณ์ใหม่ด้วยเทคโนโลยี VR ไม่เพียงแต่อยู่ในบริการใหม่ที่เพิ่งผุดขึ้นมาอย่าง Esqapes เท่านั้น แต่เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือนนี้ยังถูกนำมาใช้ผสมผสานกับธุรกิจสปาแบบดั้งเดิมด้วย

โดย Relax VR ได้นำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ลูกค้า เช่น การผสมผสาน VR เข้ากับการทำทรีทเมนต์ โดยให้ลูกค้าผ่อนคลายด้วย VR ก่อนเข้าสู่การนวด หรือจะสปาด้วย VR อย่างเดียว หรือใช้เทคโนโลยีนี้ในการทำโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่หรือเป็นของขวัญให้ลูกค้าเก่า

 

จุดเปลี่ยนอุตสาหกรรมสปาและเวลเนส

เพราะเทรนด์ “wellness everywhere” ทำให้ทุกสถานที่ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน, ออฟฟิศ หรือโรงพยาบาล ต่างมีบริการคล้ายสปาให้บริการ ส่งผลให้การแข่งขันรุนแรงขึ้น ดังนั้น การเพิ่มเทคโนโลยี VR เข้าไปในลิสต์ของบริการสามารถสร้างความแตกต่างและได้เปรียบทางการแข่งขันได้

นอกจากนี้ สปาหลายแห่งยังกำลังมองหาวิธีการลดต้นทุน โดยเฉพาะค่าจ้างพนักงานนวดที่กินเงินส่วนใหญ่ของรายได้ร้านสปา ดังนั้นหากเทคโนโลยี VR สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมร้านสปาแบบดั้งเดิมถึงกำลังตัดสินใจหรือนำเทคโนโลยีนี้มาใช้แล้ว

มากไปกว่านั้น คนกลุ่มมิลเลนเนียลซึ่งเป็นกลุ่มที่ไปสปาบ่อยที่สุด ยังเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบเทคโนโลยี โดยเทคโนโลยีมีความสำคัญต่อคนกลุ่มนี้มาก และถือเป็นปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชีวิตเลยก็ว่าได้ ชาวมิลเลนเนียลยังมีนิสัยและความชอบที่เป็นเอกลักษณ์จากคนรุ่นก่อน โดยมีแนวโน้มว่าพวกเขาจะซื้อเฮดเซต VR มากกว่าคนเจเนอเรชั่นก่อนถึงสองเท่า

ขณะที่งานวิจัยแสดงถึงอัตราที่เพิ่มขึ้นของปัญหาของวัยรุ่นอเมริกันอย่างภาวะซึมเศร้า, การวิตกกังวล และความรู้สึกโดดเดี่ยว ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ทั้งบรรยากาศทางการเมืองและสังคม ความกังวลด้านการเงิน และโซเชียลมีเดีย ทำให้มีการแสวงหากิจกรรมเพื่อสุขภาพจิตอย่างโยคะและฝึกสมาธิ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการมีสุขภาพดีด้วย

ถึงแม้ไม่มีใครบอกสามารถบอกได้อย่างแท้จริงว่าร้านสปาในอนาคตจะหน้าตาเป็นแบบไหน แต่เมื่อพิจารณาจากเทรนด์ที่เห็นกันอยู่แล้ว และความชื่นชอบเทคโนโลยีของกลุ่มมิลเลนเนียล ก็ดูเหมือนว่าการนำ VR เข้ามาใช้จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาในอนาคต VR ยังเป็นเครื่องมืออันทรงพลัง โดยมีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้สามารถลดระดับความกังวลและอารมณ์เชิงลบ รวมทั้งยังส่งเสริมอารมณ์เชิงบวกอีกด้วย

  ที่มา   แปลและเรียบเรียงโดย กนกวรรณ มากเมฆ / Online Content Creator
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine