ผู้จัดงานไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ ครั้งที่ 3 เผยความพร้อม เตรียมเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่ เสนอรัฐฯ ส่งเสริมธุรกิจการเช่าเรือซูเปอร์ยอชท์ในไทย - Forbes Thailand

ผู้จัดงานไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ ครั้งที่ 3 เผยความพร้อม เตรียมเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่ เสนอรัฐฯ ส่งเสริมธุรกิจการเช่าเรือซูเปอร์ยอชท์ในไทย

มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า ไทยแลนด์ ยอชท์ โชว์ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2561 ซึ่งจัดโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระหว่าง 22-25 กุมภาพันธ์ 2561 ณ อ่าวปอ แกรนด์มารีน่า จังหวัดภูเก็ต พร้อมเชิญผู้นำอุตสาหกรรมและผู้บริโภคระดับสูงในธุรกิจซูเปอร์ยอชท์จากทั่วโลก “จุดประสงค์การจัดงานของเราคือการส่งเสริมให้ภูเก็ตและประเทศไทยเป็นนครหลวงแห่งการแล่นเรือยอชท์ของเอเชียและเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวของซูเปอร์ยอชท์กว่า 5,000 ลำจากทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในช่วงฤดูร้อน โดยแนวชายฝั่งทะเลที่สวยงาม ภูมิประเทศที่น่าตื่นตา ภูมิอากาศที่ดีเยี่ยมตลอดปี และมาตรฐานการต้อนรับนักท่องเที่ยวชั้นเลิศของเมืองไทย โดยภูเก็ตพร้อมที่สามารถรองรับเรือระดับซูเปอร์ยอชท์ได้อย่างต่ำ 120 ลำ” แอนดี้ เทรดเวลล์ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร ไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ กล่าว นอกจากนี้ แอนดี้ เทรดเวลล์ กล่าวเพิ่มเติมถึงเรื่องกฎเกณฑ์ของธุรกิจผู้เช่าและผู้ซื้อเรือยอช์ท แม้ในปัจจุบันยังคงมีข้อติดขัดบางประการในเรื่องภาษีและการตรวจคนเข้าเมือง หากปัญหาตรงนี้ถูกแก้ไข เชื่อมั่นว่าเห็นถึงความปรารถนาในการดึงดูดเรือซูเปอร์ยอชท์ขนาดใหญ่ของโลกเข้าสู่เมืองไทยและภูมิภาคเอเชีย เพื่อก่อให้เกิดการใช้จ่ายนับล้านดอลลาร์ในหมู่นักท่องเที่ยวทางทะเลระดับไฮเอนด์เหล่านี้ นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย และ  Torqeedo Asia-Pacific จะนำเทคโนโลยีล่าสุดมาจัดแสดงในงานไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ ครั้งนี้  ได้แก่ BMW i8, BMW i3 และ BMW iPerformance  (รุ่น 740Le, 530e, X5 xDrive40e  และ 330e) ในส่วนของนวัตกรรมยานยนต์ และ ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า Full Torqeedo ในส่วนของนวัตกรรมเรือ เดวิด ฮันเตอร์ กรรมการผู้จัดการ ทอร์คีโด เอเชีย-แปซิฟิค กล่าวว่า “นวัตกรรมที่เรานำมาจัดแสดงในงานนี้ ตอกย้ำวัตถุประสงค์และธีมงานไทยแลนด์ ยอชท์โชว์ปีนี้ นั่นคือ การเคลื่อนที่แบบยั่งยืน “Sustainable Mobility” ซึ่งเรายินดีอย่างยิ่งกับความก้าวหน้าและโครงการซึ่งมีพันธมิตรอย่าง TAT ในการช่วยสนับสนุนให้เกิดการขนส่งทางทะเลแบบสะอาดและยั่งยืน”