Zipmex Thailand ปูพรมโลกการลงทุนแห่งอนาคต - Forbes Thailand

Zipmex Thailand ปูพรมโลกการลงทุนแห่งอนาคต

จากประสบการณ์ด้านการกฎหมาย การเงิน และที่ปรึกษาการลงทุนของ เอกลาภ ยิ้มวิไล ซีอีโอ ของ Zipmex Thailand และ พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์ แม่ทัพด้านกลยุทธ์การตลาดคนสำคัญ โดยมีจุดร่วมสำคัญในความเชื่อมั่นแห่งโลกการเงินและการลงทุนในอนาคต จึงเป็นที่มาในการร่วมสร้าง Zipmex Thailand ด้วยมาตรฐานสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปลอดภัยพร้อมรุกการลงทุนแห่งโลกอนาคต

จังหวะของประเทศไทยในปี 2020 โครงสร้างเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมาสักระยะ มีกฎหมายที่รองรับในการซื้อ ขาย สกุลเงินดิจิทัล จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นปัจจัยสำคัญ ปัจจุบันมีผู้เล่นเข้าในเรื่องการเทรดสกุลเงินดิจิทัลราว 4 รายในประเทศไทย แต่ยังไม่มีใครเป็นเจ้าตลาดที่แท้จริง และ Zipmex Thailand เป็นหนึ่งในนั้น จากองค์ประกอบดังกล่าวเป็นความท้าทายของ เอกลาภ ยิ้มวิไล และร่วมกับ Marcus Lim ก่อตั้ง Zipmex Asia โดยมี Marcus Lim ซีอีโอของ Zipmex Asia ขณะที่เอกลาภ ดูแลเรื่องกฎหมายในฐานะ Chief Legal Officer ของ Zipmex Asia เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาโดยมี สิงคโปร์ ที่เป็นสำนักงานใหญ่ และขยายตลาดไปยัง ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และล่าสุดที่ประเทศไทยโดยเขานั่งตำแหน่งซีอีโอของ Zipmex ประจำประเทศไทย “เราเน้นลูกค้าที่เป็นกึ่ง Medium to High แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่บริการลูกค้าที่มี Ticket Size ต่ำเพราะเรามีบริการมี Customer Support ตลอด 24 ชั่วโมง โดยบริการพิเศษของเราคล้ายๆ บริษัทหลักทรัพย์ที่ดูแลลูกค้าที่เป็นรายใหญ่ ก็จะเน้นตลาดตรงนั้นมากกว่า เพราะผมเชื่อว่าคนกลุ่มนี้ โดยเฉพาะตอนนี้ มีเงินสด ไม่รู้จะลงทุนอะไร หุ้นก็ลง ตราสารหนี้ก็มีปัญหาซึ่งเราคิดว่ามันเป็น Asset Class เป็นทรัพย์สินอีกประเภทหนึ่งที่คนสามารถเข้ามาลงทุนได้” เอกลาภ ซีอีโอหนุ่มเผย การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีถือเป็นอีกหนึ่งเมกะเทรนด์ระดับโลกที่สำคัญระหว่างปี 2020-2030 ในเชิงโครงสร้างการเงินรูปแบบดิจิทัลนั้น หลากหลายองค์กรจากทั่วโลกเริ่มขยับให้เห็นไม่ว่าจะเป็นเงินหยวนดิจิทัลจากจีน หรือความพยายามของ facebook ในการรุกสกุลเงิน Libra และประเทศไทยที่ ธนาคารแห่งประเทศไทยรุกทำโปรเจคอินทนนท์  โดยภาพรวมของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกอยู่ที่ราว 2.5 แสนล้านเหรียญฯ มีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 16 โดยจำนวนการเทรดอยู่ที่ราว 6 หมื่นล้านเหรียญฯ ในทุกวัน ซึ่งองค์ประกอบการลงทุนของอุตสาหกรรมเงินดิจิทัลในไทยได้รับการยอมรับมากขึ้นนั้นเป็นเพราะ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้ออกกฎหมายมารับรอง รวมไปถึงการเป็นศูนย์กลางของคนทำงานสายเทคโนโลยีที่มีความสามารถในประเทศไทย แต่สำหรับกลุ่มนักลงทุนหรือกลุ่มที่สนใจภายในประเทศไทยนั้น เอกลาภ ยอมรับว่าไม่ว่าจะเป็น Zipmex เองหรือผู้เล่นในวงการรายอื่นๆ ต่างต้องให้ความรู้และความเข้าใจกับตลาดการลงทุนในทรัพย์สินดิจิทัลให้มากยิ่งขึ้น เขาจึงดึง พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตที่ปรึกษาด้านการลงทุนและเทคโนโลยี ที่ผ่านประสบการณ์จากบริษัทยักษ์ใหญ่และประสบการณ์การทำงานในเมืองใหญ่อย่าง New York  มาดูด้านภาพรวมและกลยุทธ์ด้านการตลาดของกลุ่ม Zipmex Asia และรวมถึงประเทศไทย ภายใต้แผน “Lifestyle Marketing” “หลายๆ คนเรายังไม่เข้าถึง Digital Asset เราจึงคิดว่าอยากทำให้เป็นอะไรที่เข้าถึงง่าย ใช้ง่าย เลยอยากใช้ Lifestyle Marketing มาเป็นส่วนสำคัญ โดยนำประสบการณ์ด้าน Tech Consulting กับ Retail มาใช้กับZipmex Asia ทั้งหมด” พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์ ซีเอสโอ Zipmex ประเทศไทย กล่าว Zipmex Thailand เริ่มให้บริการในประเทศไทยเมื่อราว 2 เดือนที่ผ่านมา ผ่านบริการแพลตฟอร์มออนไลน์ อาทิเว็บไซต์หรือการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น ซึ่งปัจจุบันบริการของ Zipmex ประเทศไทย มี 5 สกุลหลักที่เป็นคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง เอกลาภ เล่าให้ฟังว่า Zipmex มีความพร้อมของเทคโนโลยีและทีมงาน แต่รอการตรวจสอบและอนุมัติกว่า 18 เดือนจาก ก.ล.ต. เนื่องจากกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ของประเทศไทยถือว่าได้หินที่สุดแห่งหนึ่ง มีกฎระเบียบที่ลงรายละเอียดค่อนข้างมากซึ่งเป็นประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นจากการให้ใบอนุญาตจากผู้เล่นชุดแรกๆ ที่เข้ามา “เราใช้ระบบความปลอดภัย ที่สูงที่สุดในไทยตอนนี้ที่ชื่อ BitGold คือเราฝาก Digital Asset ไว้ที่นี่ ที่ได้รับการลงทุนและใช้งานจาก Goldman Sachs” พราวกล่าวและเสริมว่า นอกจาก 5 สกุลเงินดิจิทัลหลัก ในอนาคต Zipmex เองได้เตรียมบริการอื่นที่เป็น Digital Asset ด้วยเงินดิจิทัลเป็นทองคำ หรือ อัญมณี เป็นต้น แต่กลยุทธ์หลักที่ Zipmex วางไว้คือไม่มีค่าคอม (Trading Fee) ซึ่งเป็นการนำแนวคิดจากต่างประเทศของ Swap หรือ Robinhood ที่ไม่คิดค่าคอม “เราไม่ได้อยากเป็นแค่ Exchange ไม่ได้อยากเป็นแค่ Digital Asset Exchange อย่างเดียว เราอยากเป็น Wealth Platform เราอยากให้คนอื่นสามารถเข้ามาเรียนรู้และเข้ามา Invest เพราะเราไม่ได้เรียก Customer ว่า User แต่เราเรียกว่า Investor ก็คือคิดว่าทุกคนเป็นนักลงทุนหมด” พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์ กล่าวย้ำ  

-สู่เจ้าตลาดด้วยทีมงานมืออาชีพ-

Zipmex Asia ถือเป็นกลุ่มที่ได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนเนื่องจาก Business Model และทีมบริหารมีประสบการณ์ด้านธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ สามารถสร้าง Business Operation ที่ดีและ Financial Operation ที่ถูกต้อง ปัจจุบันมีทีมงานราว 50 คน ใน 4 ประเทศ ถือเป็นทีมขนาดเล็กแต่มุ่งมั่นในการทำงาน “เราเป็นทีมที่ Lean มาก Cost จะ Lean ก็จะทุ่มไปทางด้าน Tech CTO เป็นคนออสเตรเลีย แต่ว่าก็ย้ายมาอยู่ไทยและทำงานกับ Tech Team ไทย ด้าน Finance อยู่นี่หมด จริงๆ ก็คือทุกคนนั่งอยู่นี่หมดเลย เพราะฉะนั้นประเทศไทยจะเป็นตลาดที่เราให้ความสำคัญมาก” พราว กล่าว เอกลาภกล่าวเสริมด้วยว่า “เรา Raise Fund หา Investor ระดับโลก ซึ่งทาง Zipmex Asia ที่สิงคโปร์เราก็เพิ่งปิดไป 3 ล้านเหรียญฯ ตอนนี้กำลังทำ Series A Round อยู่ ซึ่งก็ปิดไปได้แล้วส่วนนึง อันนั้นมันก็เป็นบริษัทที่ไม่ได้ใช้เงินส่วนตัว เราใช้เงินจากระดับพวกกองทุน หรือว่าบริษัทระดับใหญ่ของโลกที่อยู่ในวงการ ที่เขา Believe แล้วเขาก็เห็นอนาคตของทางบริษัท โดยทั้งกลุ่มอยู่ที่ราว 30 ล้านเหรียญฯ” สำหรับ Zipmex ประเทศไทย ตั้งทุนจดทะเบียนที่ 52 ล้านบาท ซึ่งเป็นความตั้งใจของเขาที่ใส่เงินไปมากกว่าเกณฑ์ที่ ก.ล.ต.ตั้งไว้ที่ 15 ล้านบาท  ทั้งนี่จาก 2 เดือนแรกที่เปิดตัวมีคนฝากเงินเข้ามาราว 200 ล้านบาท ถือเป็นทิศทางที่ดีของการรุกด้านการลงทุนในในสกุลเงินดิจิทัลของ Zipmex ประเทศไทย “ลูกค้าใส่เงินจริงๆ ของเขาเข้ามาในวันแรกที่เปิดถือว่าเป็นการเปิดบริษัทที่ดี และเราก็ตั้งใจที่จะเติบโต แน่นอนอยู่แล้วว่าเราอยากจะเป็นเบอร์ 1 ของตลาด เราทำธุรกิจเราก็ต้องมีผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือประสบการณ์ของลูกค้า แล้วก็ Security ของระบบ ไม่ใช่ว่าหาเงินๆ มาก่อน แต่ Security ของระบบแย่ มีปัญหา ลูกค้าอาจจะเงินหายได้ อาจจะถูกแฮ็คได้ อันนี้ผมยอมไม่ได้ ผมยอมทุ่มเงินกับเรื่อง Security และความพึงพอใจของลูกค้ามากกว่า แล้วผมเชื่อว่าถ้าทำตรงนี้ แล้วลูกค้าประทับใจ มี Experience ที่ดี ระบบ Security ดี ต่างๆ เดี๋ยวเขาก็มาเอง เขาก็จะสบายใจ แล้วถึงตอนนั้นรายได้มันก็จะตามมา” เอกลาภกล่าวทิ้งท้าย อ่านเพิ่มเติม: Bill Ackman วางเดิมพันพอร์ตการลงทุนกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ