ความมุ่งมั่นเติมเต็มพื้นที่ในฝันทุกรูปแบบผ่านแบรนด์หรูดีไซน์ระดับโลกสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำวงการเฟอร์นิเจอร์ลักชัวรี่ของประเทศที่สามารถปั้นพอร์ตสินค้านำเข้าครอบคลุมความต้องการ และปักหมุดโชว์รูม Euro Creations บนทำเลศักยภาพ พร้อมทรานส์ฟอร์มเป็นมหาชนสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
อาณาจักรเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ระดับโลกบนพื้นที่มากกว่า 3,700 ตารางเมตร ใจกลางทองหล่อเป็นมากกว่าความภาคภูมิใจของครอบครัวกัมบีร์ ซึ่งสั่งสมประสบการณ์ตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าระดับลักชัวรี่อย่างเป็นทางการในประเทศไทยนับตั้งแต่ปี 2539 พร้อมสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในธุรกิจ luxurious & high quality living ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘คุณภาพชีวิตที่ดีเริ่มต้นจากสภาพแวดล้อมที่งดงาม’
“เดิมคุณพ่อคุณแม่อยู่ในธุรกิจ luxury สินค้าของตกแต่งบ้านอยู่แล้ว ก่อนจะเริ่มต้น Euro Creations ซึ่งเน้นการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ยุโรปโดยเฉพาะสเปนและอิตาลี ซึ่งเราเห็นคุณพ่อคุณแม่ทำงานมาตลอดตั้งแต่ยังเป็นธุรกิจขนาดเล็กและเติบโตขึ้น โดยหลังจากเรียนจบด้านบริหารที่อังกฤษเราตั้งใจลองทำไฟแนนซ์หรือที่ปรึกษาในต่างประเทศก่อน แต่ช่วงนั้นเกิดวิกฤตทำให้ไม่มีโอกาสขอวีซ่าที่นั่นจึงไปทำงานกับบริษัทเกี่ยวกับการรับเหมาตกแต่งภายในที่ดูไบ 1 ปีและบริษัทร่วมทุนต่างชาติในประเทศไทยประมาณ 2-3 ปี ซึ่งได้รับประสบการณ์นอกธุรกิจครอบครัวทั้งงานในออฟฟิศและการอยู่หน้างาน เช่น การอ่านสัญญา การประเมินราคา โดยดูทุกอย่างที่เกี่ยวกับก่อสร้าง interior contractor”
เควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูโร ครีเอชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EURO เล่าถึงการนำความรู้ระดับปริญญาตรี ด้านบริหารธุรกิจ วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน และประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาร่วมขับเคลื่อนธุรกิจของครอบครัวซึ่งก่อตั้งโดย โกมล กัมบีร์ และ อมรัตน์ กัมบีร์ เริ่มต้นนำเข้าและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จากประเทศอิตาลีและสเปน พร้อมเปิดสาขาแรกที่ราชดำริเมื่อปี 2539 และปิดสาขาในภายหลังเพื่อย้ายไปยังทำเลยุทธศาสตร์ย่านทองหล่อซึ่งสามารถเพิ่มโอกาสสร้างการเติบโตได้มากขึ้น
“เราเริ่มต้นเข้ามาช่วยธุรกิจเมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยดูแลทุกด้านและดำเนินการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เช่น การนำระบบซอฟต์แวร์บริหารข้อมูลของลูกค้า การสร้างทีมงานใหม่ทั้งทีมการตลาด ทีมโปรเจกต์เซลส์ โดยทำในส่วนที่ใช่อยู่แล้วให้สมบูรณ์มากขึ้น หรือบางส่วนที่ยังไม่ได้ทำแต่ควรจะทำ ซึ่งเราเติบโตขึ้นพร้อมกับองค์กรจนได้รับความไว้วางใจแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารในปัจจุบัน”
ซีอีโอวัย 36 ปี กล่าวถึงการนำโปรแกรม Customer Relationship Management (CRM) ของ Salesforce เข้ามาใช้เพื่อบริหารจัดการการขายและการดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในปี 2555 พร้อมให้บริการเกี่ยวเนื่องเพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกความต้องการไม่ว่าจะเป็นการจัดส่งสินค้าพร้อมติดตั้ง บริการซ่อมบำรุงรักษาสภาพสินค้า บริการซอฟต์แวร์เครื่องออกกำลังกาย บริการออกแบบและจัดตำแหน่งสินค้าให้เหมาะสมกับการใช้งานและพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกในการตัดสินใจ เช่น เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ห้องน้ำ ห้องครัว ตู้เสื้อผ้า ห้องฟิตเนส และระบบเพื่อควบคุมแสงสว่าง เป็นต้น
“30 ปีที่ผ่านมาเราเริ่มต้นจากการขายเฟอร์นิเจอร์ แต่เมื่อ 5-6 ปีที่แล้วเรามองตัวเองต่างออกไป หลังจากตัดสินใจรวมธุรกิจที่หลากหลายในกลุ่มไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ วัสดุปูพื้น ผลิตภัณฑ์ โคมไฟ เครื่องออกกำลังกาย ทำให้ขนาดธุรกิจของเราใหญ่ขึ้น และโฟกัสที่โมเดลธุรกิจการบริหารท็อปแบรนด์ระดับโลก”
เติมพอร์ตแบรนด์อินเตอร์
การทรานส์ฟอร์มองค์กรครั้งใหญ่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเป็นหนึ่งในผลงานพิสูจน์ฝีมือการบริหารขับเคลื่อนอาณาจักรพันล้านของครอบครัวให้สามารถยกระดับความเป็นมืออาชีพสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai กลุ่มสินค้าอุปโภค บริโภค พร้อมสร้างความเชื่อมั่นในกลยุทธ์สร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
“ผลงานที่ภูมิใจที่สุดวันนี้เป็นการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้สำเร็จ ซึ่งเราไม่ได้มองเป็นจุดสิ้นสุด แต่เป็นหนึ่งใน milestone ขององค์กรในการเปลี่ยนจากธุรกิจครอบครัวเป็นมหาชน โดยการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมีปัจจัยอื่นนอกจากเรื่องการระดมทุน เช่น การทำงานเป็นมืออาชีพมากขึ้น การตั้งคำถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของเราหรือผลการดำเนินงานบริษัท ซึ่งช่วยให้เราคิดเป็นระบบและวางแผนการดำเนินงานได้ครอบคลุมในมิติต่างๆ มากขึ้น”
เควินย้ำความมุ่งมั่นในการนำเสนอแบรนด์สินค้าที่เป็นที่ยอมรับของตลาดลักชัวรี่ระดับโลกเพื่อตอบสนองความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าด้วยการสร้างความสัมพันธ์ทั้งระดับองค์กรและระดับบุคคลกับผู้บริหารแบรนด์ระดับโลก ซึ่งสามารถสร้างความยั่งยืนให้กับบริษัทในการเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย รวมถึงวางเป้าหมายธุรกิจร่วมกับบริษัทเจ้าของแบรนด์สินค้าในการสร้างการเติบโตร่วมกันในตลาดประเทศไทย
นอกจากนั้น บริษัทยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการสินค้าคงคลังอย่างมีคุณภาพและการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การนำระบบ SAP B1 มาใช้และเชื่อมต่อกับระบบ Salesforce ช่วยบริหารทีมงานขาย เพิ่มประสิทธิภาพในการนำเสนอการขายและทำให้เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง, การเชื่อมต่อระบบ SAP B1 เข้ากับระบบ Budget สำหรับวางแผนและควบคุมการใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท รวมถึงการลงทุนในแพลตฟอร์มบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล PeopleStrong พร้อมพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันเควินได้วางกลยุทธ์การขยายธุรกิจของบริษัทครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการเจาะตลาดเดิมและบุกตลาดใหม่เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ด้วยการเปิดโชว์รูมเพิ่มพื้นที่การขายอีกประมาณ 7,009 ตารางเมตร
“การเติบโตของ Euro Creations เกิดจากการเพิ่มยอดขายแบรนด์ที่มีอยู่และขยายแบรนด์ใหม่ โดยการเพิ่มยอดขายแบรนด์เดิมเกิดจากการขายให้มากขึ้นในสาขาเดิมหรือเปิดสาขาใหม่ ซึ่งมีทั้งแบบพื้นที่เช่าและการเปิดโชว์รูมที่เรามองเป็น flagship เหมือนห้างของเราเอง โดยปัจจุบันโชว์รูมที่เพิ่มขึ้น 3 สาขาน่าจะเพียงพอแล้ว ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ตซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ปลายปีนี้ ทองหล่อซอย 5 กำลังเปิดเร็วๆ นี้และรายได้จะเข้าปีหน้าเต็มๆ ส่วนทองหล่อซอย 1 กว่าจะเสร็จประมาณไตรมาส 4 ปี 2569”
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : พงศภัค นครศรี นำ BCC สู่เบอร์ 1 ในอาเซียน
