โควิด-19 นำความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างมาสู่โลก ธุรกิจที่พักซึ่งกำลังมาแรงก่อนหน้านั้นกลายเป็นกิจการที่ขาดรายได้ ทำให้ผู้คนเริ่มมองหาช่องทางกระจายความเสี่ยง คำตอบที่ชัดเจนคือ บริการด้านสุขภาพ และเป็นที่มาของเทรนด์ใหม่ Medical Center & Resort ซึ่งเป็นคำตอบเดียวกันของ อรรถนพ พันธุกำเหนิด
“Natai Medical Center & Resort” เป็นอีกโครงการที่เกิดขึ้น จากทิศทางการลงทุนซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของภูเก็ต-พังงา ที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนชื่อดังของภูเก็ต อรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด เขาเป็นคนหนุ่มในช่วงวัย 40 ที่เติบโตและคลุกคลีมากับแวดวงอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ด้วยการเทคโอเวอร์และพัฒนาโครงการประเภทโรงแรม วิลล่า คอนโดมิเนียม และรีสอร์ต โดยเปิดให้นักลงทุนเข้าซื้อเป็นรายยูนิตเพื่อเป็นเจ้าของโรงแรมรีสอร์ตในรูปแบบการลงทุนอสังหาฯ รายย่อยเทรนด์แรง อสังหาฯ เพื่อสุขภาพ
ราวกลางเดือนพฤษภาคม อรรถนพให้สัมภาษณ์กับทีมงาน Forbes Thailand ผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยข้อจำกัดของการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ธุรกิจยังคงต้องเดินหน้าต่อเนื่อง ซึ่งช่วงนั้นเขากำาลังเปิดโครงการพัฒนาอสังหาฯ รูปแบบใหม่ที่เป็นเทรนด์ของการพัฒนาในภูเก็ต-พังงา ด้วยการผนวกเอาโรงพยาบาลและโรงแรมเข้ามาไว้ด้วยกัน และขณะเดียวกันก็ยังคงคอนเซ็ปต์ที่เป็นธุรกิจของของซิซซา กรุ๊ป นั่นคืออสังหาฯ เพื่อการลงทุน ด้วยโครงการ “นาใต้ เมดิคัลเซ็นเตอร์ แอนด์ รีสอร์ต” ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงการบนที่ดิน 71 ไร่ บริเวณหาดนาใต้ จังหวัดพังงา รอยต่อกับจังหวัดภูเก็ต ให้เป็นอสังหาฯ แนวสุขภาพเพื่อการลงทุนเช่นเดียวกับธุรกิจก่อนหน้านี้ของเขาที่ประสบความสำเร็จมาแล้วหลายโครงการ โฟกัสของ CISSA คือ investment property โดยไม่ได้จำกัดแค่โรงแรม แต่อาจจะเป็นโรงพยาบาล โรงเรียน อาคารสำนักงาน รวมทั้ง ฟาร์มเกษตร โดยเราเป็นคนคิด สร้าง และหานักบริหารที่เชี่ยวชาญมาดูแล นักลงทุนก็มาลงทุนส่วนหนึ่งขายออกไป ส่วนหนึ่งถือไว้เอง นี่คือสิ่งที่ อรรถนพ ทำมาตลอด 17 ปี

ทำตลาด 200 เอเจนต์ทั่วโลก
“เราทำการตลาดผ่านทางพาร์ตเนอร์ที่เป็น medical tourist agent ซึ่งมีประมาณ 200 กว่าเอเจนต์ทั่วโลก แต่จะเป็นสำหรับบางบริการเท่านั้น ส่วนลูกค้าที่มาพักที่โรงแรมอยู่แล้ว เราจะขายเป็นแพ็กเกจผ่านทาง tour operator หรือ online และขาย membership โดยผ่าน database ลูกค้าเก่าของเรา” อรรถนพ อธิบายถึงช่องทางการตลาด ซึ่งเขามั่นใจว่าตรงกลุ่ม และแม้ช่วงนี้จะมีสถานการณ์โควิดแต่เขาเชื่อว่า ภายในปลายปีสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น เขามองว่าผู้คนจะหันมาให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้นด้วย “ผมมองว่า บริการด้านสุขภาพมันเป็นเทรนด์ที่ต้องมาแน่นอน” เขาย้ำและมั่นใจว่าอีกไม่นานจะมีบริการด้านสุขภาพและความต้องการของตลาดด้านนี้เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก
ลงทุนหลากหลายเปิดกว้าง
ไม่เพียงนาใต้ เมดดิคัลเซ็นเตอร์ เท่านั้น อรรถนพบอกว่า “ปลายปีนี้เราก็จะมีโครงการที่เป็น Hotel และ Kids Park เป็นโรงแรม 800 กว่าห้องอยู่ที่ลายัน ภูเก็ต โดยจะมีเชนโรงแรมเข้ามาบริหาร” หมายถึงโครงการอสังหาฯ เพื่อการลงทุนในคอนเซ็ปต์เดิม ซิซซา กรุ๊ป ยังคงยืนหยัดถึงแนวโน้ม และการตอบรับอยู่ในทิศทางที่ดี เพราะคนมองหา ช่องทางการลงทุนที่เป็นทางเลือกใหม่ๆ แทนที่จะเป็นเพียงอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมหรือบ้านตากอากาศเท่านั้น โดยโครงการ Condotel, Kid Park สวนสนุกของเด็ก อรรถนพตั้งเป้าที่จะขาย 80% และเก็บไว้ 20% จากมูลค่าโครงการ 4.2 พันล้านบาท “หลายคนสนใจธุรกิจโรงแรม แต่ไม่พร้อมที่จะทำโรงแรมและบริหารเองก็อาจสนใจเข้ามาลงทุนโรงแรมในรูปแบบห้องแยกย่อยแบบนี้ซึ่งใช้เงินลงทุนน้อยกว่าและมีความคล่องตัว มีรายได้ต่อเนื่อง มีคนบริหารให้ เป็นอีกช่องทางการลงทุนที่สะดวกสบาย” เขาย้ำและว่า ถึงแม้ปัจจุบันสถานการณ์ธุรกิจโรงแรมจะย่ำแย่เพราะผลกระทบโควิด-19 แต่เชื่อว่าเมื่อภาวะโรคระบาดนี้คลี่คลายและไทยสามารถเปิดประเทศได้ การท่องเที่ยวจะกลับมาอย่างแน่นอน “ผมมั่นใจว่า ต่างชาติยังมองไทยเป็นประเทศน่าท่องเที่ยวที่สุดแห่งหนึ่งของโลกโดยเฉพาะภูเก็ตเป็น destination ระดับโลก ยิ่งพอเรามีการพัฒนาให้เป็น medical hub ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ความน่าสนใจของภูเก็ตได้มากยิ่งขึ้น” นักธุรกิจหนุ่มยืนยัน แม้เขาจะยอมรับว่า 2 ปีที่เผชิญวิกฤตโควิด-19 ซิซซา กรุ๊ป ได้รับผลกระทบไม่น้อยก็ตามที เขายังคงยืนหยัดที่จะอยู่ในธุรกิจนี้ด้วยความเชื่อมั่นและมองว่ามีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้าในมุมมองของคนที่ทำอสังหาฯ เพื่อการท่องเที่ยวมายาวนานถึง 17 ปี เขามองว่านักท่องเที่ยวกลับมาแน่นอนสำหรับภูเก็ตติดแค่เงื่อนไขเวลา “ผมว่าเมื่อถึงเวลานักท่องเที่ยวจะกลับมาเยอะ ไทยเป็น safe haven อยู่แล้ว และเราเป็น world destination ถ้าเราฉีดวัคซีนครบ ภูเก็ตโมเดลแซนด์บ็อกซ์ ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมปีนี้ ที่ยุโรปเริ่มหนาวและคนฉีดวัคซีนหมด ผมเชื่อว่าพวกเขาจะมาเที่ยวแน่นอน" ขณะที่ภูเก็ตเองการทำแซนด์บ็อกซ์ก็จะได้เห็นภาพการทยอยกลับมาของนักท่องเที่ยวชัดเจนในปลายปีนี้ “Medical hub ไทยถ้ารัฐผลักดันจริงจัง ผมมั่นใจเราเป็น hub ของเซาท์อีสต์เอเชีย เป็น hub ของเอเชียและสามารถเป็น hub ของโลกได้ ส่วนจะมีดีเทลอะไรบ้างต้องมาดูกัน ถ้าทำจริงจังได้รัฐต้องดูเรื่องความพร้อม infrastructure บุคลากร และสถานที่ ต้องให้ความสำคัญอย่างเต็มที่ ผลักดันอย่างจริงจัง ในส่วนเอกชนผมเชื่อว่า ทุกคนพร้อมอยู่แล้ว” ภาพ: CISSA Groupคลิกอ่านฉบับเต็ม และบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนสิงหาคม 2564 ในรูปแบบ e-magazine
