<h2>เมื่อชายหนุ่มนักการเงินอนาคตไกลตัดสินใจตอบรับคำชักชวนจากผู้เป็นพ่อ ให้เข้ามาสานต่ออาณาจักรรับเหมาก่อสร้างด้านปิโตรเคมี หมุดหมายใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมจึงเป็นการสร้างรายได้รวม 1 หมื่นล้านบาท ให้ได้ภายในปี 2562</h2>
“เราตั้งเป้าว่าต้องเติบโตไม่ใหญ่เกินตัว และรายได้รวม 1 หมื่นล้านบาทต่อปีก็เป็นตัวเลขที่กำลังดี” ภาสิต ลี้สกุล วัย 33 ปี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC ผู้นำด้านธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและวางระบบท่อก๊าซธรรมชาติ รวมถึงติดตั้งระบบวิศวกรรมในธุรกิจปิโตรเคมี บอกความตั้งใจของเขาในบทบาทผู้นำทัพ TRC ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์คือการขยายจากผู้รับเหมาก่อสร้างไปสู่การเป็นนักลงทุนโครงการเหมืองแร่โปแตช ที่ TRC เห็นโอกาสทองของธุรกิจ ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้ให้ถึงตามที่หวังไว้

บริษัทย่อยของ TRC ได้เข้าซื้อหุ้นใน บริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) หรือ APOT ซึ่งมีโครงการเหมืองแร่โปแตชครอบคลุมพื้นที่กว่า 7 พันไร่ ใน อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ซึ่งกุมภาพันธ์ปีนี้ TRC ได้รับหนังสือแจ้งผลการได้รับงานโครงการ Turnkey Delivery of APOT Project Package 2 Surface Processing and Facilities โดยชนะการประกวดราคาจาก APOT เป็นการก่อสร้างโรงงานผลิตแร่โปแตช อาคารสำนักงาน สถานีจ่ายไฟฟ้าและงานสาธารณูปโภคต่างๆ มูลค่างานราว 3.4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะมีการลงนามในสัญญารับเหมาก่อสร้างได้ภายในไตรมาส 3 หรือ 4 ของปีนี้ ซึ่งจะทำให้มูลค่างานในมือของ TRC พุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 4 หมื่นล้านบาท

แม้จะสร้างโอกาสด้านการลงทุน ทว่า TRC ก็ยังไม่ทิ้งแก่นหลักขององค์กร นั่นคือธุรกิจรับเหมาก่อสร้างวิศวกรรมวางระบบท่อก๊าซและวิศวกรรมระบบโรงงานปฏิบัติการ รวมทั้งรุกงานโครงสร้างพื้นฐาน ที่บริษัทลูกของ TRC คือ บริษัท สหการวิศวกร จำกัด ร่วมเป็นพันธมิตรกับ China Railway ผู้ให้บริการขนส่งระบบรางยักษ์ใหญ่ของจีน ก่อตั้งกิจการร่วมค้า ซีอาร์3 และสหการ เตรียมความพร้อมในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ซึ่งในมุมของ TRC เห็นว่าโครงการที่มีศักยภาพในการเข้าประมูลคือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี มูลค่าโครงการ 5.67 หมื่นล้านบาท และ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง มูลค่าโครงการ 5.46 หมื่นล้านบาท

ขณะเดียวกันก็เตรียมความพร้อมในการรุกอาเซียน โดยเฉพาะ กัมพูชา และ เมียนมา เพราะเป็นประเทศที่มีทรัพยากรด้านพลังงานเป็นจำนวนมาก โดยอาจเป็นการเข้าไปสร้างถังเก็บน้ำมันหรือโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของ TRC ขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ ทั้งการลงพื้นที่และศึกษากฎหมายของแต่ละประเทศ

ปี 2558 TRC มีรายได้รวมอยู่ที่ราว 3.9 พันล้านบาท มีกำไรสุทธิ 305 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 1 ของปีนี้ มีรายได้รวมที่ 1.1 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 66 ล้านบาท ภาสิต คาดการณ์รายได้รวมทั้งหมดของปีนี้ว่าน่าจะอยู่ที่กว่า 8 พันล้านบาท เพราะมี backlog ที่รับรู้รายได้ในปีนี้ราว 3.9 พันล้านบาท ไม่นับการรองานประมูลอีก 2-3 งาน และโครงการรับเหมาก่อสร้างต่างๆ ให้ APOT

<hr />

<a href="http://goo.gl/WtgACX">คลิ๊กอ่าน "ภาสิต ลี้สกุล เลือดใหม่แห่ง TRC" ฉบับเต็มได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ AUGUST 2016 ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="http://goo.gl/WtgACX"><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/94742b79a37358f34d2263e45ceebcc0.png" alt="" width="240" height="316" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events