ทรัพย์สินเงินทองแม้มีมากมายก็หมดกันได้ง่ายๆ อย่างที่เห็นเป็นข่าวอยู่เนืองๆ แต่ไม่ใช่สำหรับตระกูลที่ติดอันดับร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ อย่างแน่นอน พวกเขาสวนกระแสและสามารถรักษาทรัพย์สินไว้ได้หลายต่อหลายรุ่น บางตระกูลก็นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 มาเลยทีเดียว 25 ตระกูลเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมกัน 7.22 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากปีที่ผ่านมา 1.1 หมื่นล้านเหรียญ หรือคิดเป็นตัวเลขที่ลดลง 1.5%

พวกเขาเป็นทายาทของผู้ก่อตั้งธุรกิจคนสำคัญๆ ของสหรัฐฯ และเป็นเจ้าของแบรนด์อมตะอย่าง Campbell’s Soup, Windex, Hyatt Hotels ฯลฯ หลายคนชื่ออาจจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดีแล้ว (Walton, Rockefeller) บางคนอาจจะดังน้อยหน่อย  (Sackler, Duncan) ส่วนที่อาจจะดังน้อยกว่าใครเลย คือเศรษฐีใหม่อย่างตระกูล Goldman ซึ่ง Sol หัวหน้าครอบครัวผู้ล่วงลับ (1917-1987)  ได้แอบกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั่ว New York City แบบเงียบๆ

ตระกูลเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ อันดับ 11-25

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/02ca3258adf21abd6a453acf9c8e946b.png" alt="" width="261" height="319" />
11. Newhouse
1.85 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 3 คน

ภาวะตกต่ำในธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ชดเชยด้วยการขายบริษัทเคเบิลทีวี bright house networks ไปให้กับ charter communications ในราคา 1.14 หมื่นล้านเหรียญ

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/99ce0d56a783bebb6ac8163eb1dfb2f7.png" alt="" width="268" height="267" />
12. Lauder
1.79 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 6 คน

กูรูประจำแวดวงเครื่องสำอางค์ดำเนินธุรกิจ Estée Lauder ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Clinique Bobbi Brown และ M-A-C

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/e9bfc84a2619cfd4e89a4bc64424f82b.png" alt="" width="269" height="314" />
13. Dorrance
1.71 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 11 คน (โดยประมาณ)

ทายาทผู้สืบทอดมรดกจาก Campbell ร่วมเป็นเจ้าของสูตรซุปเข้มข้นของ John T. Dorrance  ซึ่งเป็นสูตรที่มีอายุยืนยาวถึง 119 ปี

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/d0d0a08f824755750fa2e25d36292eff.png" alt="" width="254" height="310" />

14. Ziff
1.44 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 3 คน
สมบัติของสามพี่น้องมาจากการขายธุรกิจสำนักพิมพ์ Ziff Davis เมื่อปี 1994

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/8aee12fe4e824d23f4e7b0a97fd50490.png" alt="" width="240" height="264" />
15. Du Pont
1.43 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 3.500 คน (โดยประมาณ)

เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่ธุรกิจเคมีประกาศแผนควบรวมกับบริษัทคู่แข่งอย่าง Dow Chemical ซึ่งหน่วยงานป้องกันการผูกขาดของรัฐบาลดำเนินการอนุมัติอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/7c4856b0eb0c32a473ca4e1b0e6362ba.png" alt="" width="244" height="245" />
16. Hunt
1.37 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 33 คน

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทายาทบริษัทน้ำมันและก๊าซได้ขยายธุรกิจสู่แวดวงอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และทีม Kansas City Chiefs แห่งศึกอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/85513884c23fdf7ac12621a175724c49.png" alt="" width="241" height="200" />
16. Goldman
1.37 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 7 คน

ลูกๆ ของ Sol Goldman ผู้ล่วงลับ เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ 400 แห่งทั่ว New York City

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/32e09032e3fbff52a958890f67988161.png" alt="" width="235" height="370" />
18. Busch
1.34 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 30 คน (โดยประมาณ)

ครอบครัวได้ขายธุรกิจเบียร์ Budweiser (ในเวลานี้คือเบียร์ America ซึ่งจะเป็นชื่อเรียกไปจนถึงฤดูกาลเลือกตั้งในปีนี้เป็นอย่างน้อย) ไปให้กับนายทุนชาวบราซิลเมื่อปี 2008

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/033fd88d3bc94bbf889e11d1a9663e99.png" alt="" width="235" height="201" />
19. Sackler
1.3 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 20 คน (โดยประมาณ)

ยอดจำหน่ายยาแก้ปวด OxyContin ซึ่งผลิตโดยบริษัทของครอบครัว คือ Purdue Pharma นั้นเริ่มชะลอตัวลงแล้ว

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/af402e32d9a71c6f0a51088f1e92f211.png" alt="" width="218" height="249" />
20. Brown
1.23 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 25 คน (โดยประมาณ)

เป็นผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผู้ผลิต Jack Daniel’s วอดก้า Finlandia เตกีล่า Herradura ฯลฯ

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/e7ffcdfef19807143cd45933bb351953.png" alt="" width="219" height="277" />
21. Marshall
1.2 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 3 คน (โดยประมาณ)

เจ้าพ่อน้ำมัน J. Howard Marshall II นำหุ้นในบริษัทปิโตรเลียมแห่งหนึ่งไปแลกเปลี่ยนกับหุ้นใน Koch Industries

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/49e163e3f06bfc18cc253b941c67233e.png" alt="" width="219" height="213" />
22. Mellon
1.15 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 200 คน (โดยประมาณ)

ในช่วงยุค 1800 ผู้อพยพนามว่า Thomas Mellon ทำเงินจากธุรกิจที่ดิน ถ่านหิน และธนาคาร

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/86593bff4ae07f5e02c18bcd703ccba4.png" alt="" width="218" height="249" />
23. Butt
1.1 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 5 คน

ตระกูลนี้เป็นเจ้าของ H-E-B Grocery ใน Texas ซึ่ง Florence Butt ก่อตั้งขึ้นมาในปี 1905

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/d8f547b15a32e8dff6629acb0754c0c5.png" alt="" width="227" height="263" />
23. Rockefeller
1.1 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 174 คน

John D. Rockefeller ยักษ์ใหญ่ประจำศตวรรษที่ 19 สร้างทรัพย์สินให้แก่ครอบครัวจากบริษัท Standard Oil

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/2b01e14b5231a6537c52525147a4829c.png" alt="" width="236" height="279" />
25. Gallo
1.07 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 17 คน (โดยประมาณ)

ตระกูลจาก California เป็นเจ้าของกิจการผลิตไวน์และฟาร์มโคนมระดับครอบครัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

คลิ๊กอ่าน ตระกูลเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ อันดับ 1-10
<a href="https://goo.gl/jFF9FZ"><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/466a029c49abde641e9b758908cff332.png" alt="" width="337" height="248" /></a>

<hr />

<a href="http://goo.gl/5ixXvJ">คลิ๊กอ่าน "The Rich List ตระกูลเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ" เพิ่มเติมได้ที่ Fobes Thailand Magazine ฉบับ SEPTEMBER 2016</a>
<a href="http://goo.gl/5ixXvJ"><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/d18fffd2a6e14edc4fb9936f32a1d320.png" alt="" width="297" height="388" /></a>

The Rich List ตระกูลเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ

ทรัพย์สินเงินทองแม้มีมากมายก็หมดกันได้ง่ายๆ อย่างที่เห็นเป็นข่าวอยู่เนืองๆ แต่ไม่ใช่สำหรับตระกูลที่ติดอันดับร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ อย่างแน่นอน พวกเขาสวนกระแสและสามารถรักษาทรัพย์สินไว้ได้หลายต่อหลายรุ่น บางตระกูลก็นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 มาเลยทีเดียว 25 ตระกูลเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมกัน 7.22 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากปีที่ผ่านมา 1.1 หมื่นล้านเหรียญ หรือคิดเป็นตัวเลขที่ลดลง 1.5%

พวกเขาเป็นทายาทของผู้ก่อตั้งธุรกิจคนสำคัญๆ ของสหรัฐฯ และเป็นเจ้าของแบรนด์อมตะอย่าง Campbell’s Soup, Windex, Hyatt Hotels ฯลฯ หลายคนชื่ออาจจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดีแล้ว (Walton, Rockefeller) บางคนอาจจะดังน้อยหน่อย  (Sackler, Duncan) ส่วนที่อาจจะดังน้อยกว่าใครเลย คือเศรษฐีใหม่อย่างตระกูล Goldman ซึ่ง Sol หัวหน้าครอบครัวผู้ล่วงลับ (1917-1987)  ได้แอบกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั่ว New York City แบบเงียบๆ
ตระกูลเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ อันดับที่ 1-10

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/7fe085644eeacde2bd9c37882e0ceeca.png" alt="" width="288" height="236" />
1. Walton
1.30 แสนล้านเหรียญ
สมาชิก 7 คน

Wal-Mart เพิ่งประกาศแผนการปิด Walmart Express ซึ่งเป็นสาขาขนาดเล็กลงทั้งหมดรวม 102 สาขาทั่วสหรัฐฯ

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/1b797543c0196524db2afd514a31d6cb.png" alt="" width="270" height="266" />
2. Koch
8.2 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 4 คน

Charles และ David สองพี่น้องผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง เป็นผู้บริหารกลุ่มธุรกิจ Koch ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตกระดาษเช็ดมือ Brawny ถ้วย Dixie ฯลฯ

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/b968e9e48d9d0c42769e4282ea02abf1.png" alt="" width="289" height="264" />
3. Mars
7.8 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 3 คน

บริษัทขนมขนาดใหญ่ที่สุดแห่งนี้มีสามพี่น้องเป็นเจ้าของ ล่าสุด บริษัทให้คำมั่นสัญญาว่าจะจำกัดปริมาณน้ำตาลในการผลิตขนม

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/4a25c33d96aa65b04d0bc3920212dc1b.png" alt="" width="290" height="235" />
4. Cargill/MacMillan
4.9 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 23 คน (โดยประมาณ)

ทายาทอภิมหาเศรษฐี 14 คนเป็นผู้ถือหุ้นยักษ์ใหญ่แห่งธุรกิจการเกษตรแห่งนี้ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เสียด้วย

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/2d0867cd293173424fc8d78b547a242e.png" alt="" width="288" height="233" />
5. Cox
4.1 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 23 คน

บริษัทแห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นอาณาจักรหนังสือพิมพ์ ส่วนปัจจุบันดำเนินธุรกิจเคเบิลทีวีและยานยนต์เสียเป็นส่วนใหญ่

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/7a7a88f3fa812aa3dff2dd18cc0ee058.png" alt="" width="293" height="290" />
6. S.C. Johnson
3 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 13 คน (โดยประมาณ)

เป็นยักษ์ใหญ่ในแวดวงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด บริหารงานโดยทายาทรุ่นที่ 5 ของตระกูล

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/58351707f07f47b84f386df85043e3cd.png" alt="" width="300" height="248" />
7. Pritzker
2.9 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 13 คน

หลังจากที่ตระกูลเจ้าของโรงแรมเครือ Hyatt จัดการทรัพย์สินกันได้ไม่ลงตัว สุดท้ายจึงต้องแบ่งทรัพย์สินต่างๆ ระหว่างกัน

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/a057208691e2f8448d7faf4dbc674d6b.png" alt="" width="311" height="376" />
8. (Edward) Johnson
2.85 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 4 คน

ทายาทจากเมือง Boston เป็นเจ้าของ Fidelity Investments มหาอำนาจแห่งอุตสาหกรรมกองทุนรวมถึงเกือบครึ่งหนึ่ง

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/9b20691703f0e1e97b9f407cab230d4e.png" alt="" width="317" height="380" />
9. Hearst
2.8 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 67 คน

William Randolph Hearst III เป็นประธานกลุ่มบริษัทสื่อที่คุณปู่เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 1887

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/d10826b1505a068028d881f55a6b3ef8.png" alt="" width="320" height="257" />
10. Duncan
2.15 หมื่นล้านเหรียญ
สมาชิก 4 คน

ลูกๆ ของ Dan Duncan รับช่วงต่อในการบริหารบริษัทท่อส่งน้ำมัน Enterprise Products Partners พร้อมเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินเป็นทวีคูณ

คลิ๊กอ่าน ตระกูลเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ อันดับ 11-25
<a href="https://goo.gl/aNv3Ie"><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/95f3735bfabbf6ec3d6e131aab4c8349.png" alt="" width="336" height="247" /></a>

<hr />

<a href="http://goo.gl/5ixXvJ">คลิ๊กอ่าน "The Rich List ตระกูลเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐฯ" เพิ่มเติมได้ที่ Fobes Thailand Magazine ฉบับ SEPTEMBER 2016</a>
<a href="http://goo.gl/5ixXvJ"><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/d18fffd2a6e14edc4fb9936f32a1d320.png" alt="" width="297" height="388" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events