<h2 class="p1">เมื่อมาตรการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ในเอเชียแปซิฟิกเริ่มผ่อนตัวลง ผู้คนเริ่มคุ้นชินกับ new normal มากขึ้น เหล่าบริษัทมหาชนผู้ติดโผ Best Under A Billion ประจำปีนี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงการจับจ่ายที่รอบคอบกว่าเคย</h2>
ในขณะที่เมื่อปีก่อน บริษัทมหาชนมาแรงคือบริษัทกลุ่มผู้ให้บริการด้านสุขภาพ และบริษัทเภสัชภัณฑ์ แต่ในสถานการณ์ที่เรื่องโรคระบาดไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวที่สุดอีกต่อไป และผู้คนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติกันมากขึ้น เหล่าผู้ผลิตเสื้อผ้า ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าผู้บริโภค ธุรกิจบันเทิง และอีกมากมายก็กลับมาโลดแล่น โดยในทำเนียบ Best Under A Billion ปีนี้ มีบริษัท 75 บริษัทที่หลายคนคุ้นชื่อจากการจัดอันดับในปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของบริษัทเหล่านี้ในโลกที่หมุนเร็ว เช่น Aspeed จากไต้หวันที่ติดทำเนียบนี้มา 9 ปีติด
ในบทความนี้ เราได้ชูบริษัทมหาชนที่โดดเด่น 8 บริษัทที่แสดงให้เห็นถึงการกลับมาฟื้นตัวของสภาพเศรษฐกิจหลังโควิดได้เป็นอย่างดี
<img class="size-full wp-image-67473 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/Jeep-E-Bike.jpg" alt="" width="720" height="480" />
<a href="https://www.forbes.com/companies/bafang-electric/?list=asia200&amp;sh=6bb990624716">Bafang Electric</a>
ประเภทธุรกิจ: อุปกรณ์ไฟฟ้า

ประเทศ: จีน

มูลค่าตลาด: 3.51 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ยอดขาย: 409 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
จักรยานไฟฟ้ากลายเป็นไอเท็มสุดฮอตในช่วงสถานการณ์โรคระบาดเมื่อผู้คนต่างก็มองว่าการปั่นจักรยานเป็นการออกกำลัง และการเดินทางทางเลือก เทรนด์ดังกล่าวปั่นให้ยอดขายของ Bafang Electric บริษัทยานยนต์ไฟฟ้าและผู้ผลิตแบตเตอรี่จากพุ่งขึ้นถึงร้อยละ 90 อีกทั้งกำไรสุทธิของทางบริษัทยังเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 อีกด้วย นอกจากนี้ ล่าสุด ทางบริษัทก็ได้เปิดตัวโรงงานผลิตใหม่ในโปแลนด์เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของกลุ่มตลาดยุโรป 
&nbsp;

<img class="size-full wp-image-67472 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/img_142527_dollarindustriesplant.jpg" alt="" width="720" height="480" />
<a href="https://www.forbes.com/companies/dollar-industries/?list=asia200&amp;sh=26ad9ce547d8">Dollar Industries</a>
ประเภทธุรกิจ: สิ่งทอ

ประเทศ: อินเดีย

มูลค่าตลาด: 389 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ยอดขาย: 181 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
หลังจากธุรกิจเทรด และซัพพลายกลับมาฟื้นตัว ผู้ผลิตผ้าจากอินเดีย Dollar Industries ก็ปิดปีงบประมาณเมื่อเดือนมีนาคมไปด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 และกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 72 นอกจากจะมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าผู้หญิงแล้ว ล่าสุด ทางบริษัทได้เปิดโกดังใหม่ รวมถึงได้มีการนำเครื่องจักรปั่นผ้ามาใช้เพิ่มอีกด้วย
&nbsp;

<img class="size-full wp-image-67479 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/GIFT-HOLDINGS.jpg" alt="" width="659" height="480" />
<a href="https://www.forbes.com/companies/gift-holdings/?list=asia200&amp;sh=49b106548e51">Gift Holdings</a>
ประเภทธุรกิจ: อาหาร

ประเทศ: ญี่ปุ่น

มูลค่าตลาด: 164 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ยอดขาย: 125 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เมื่อทางญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการจำกัดโควิด-19 และลูกค้ากลับมานั่งทานที่ร้านมากขึ้น บริษัทราเมงแห่งนี้มียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 แตะ 124 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเมื่อปีที่แล้ว ทางกลุ่มได้บริหารจัดการร้านอาหาร 602 สาขาทั่วญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นจาก 519 สาขาในปี 2020โดยเป็น 147 สาขาของทางกลุ่มบริษัทโดยตรง
&nbsp;

<img class="size-full wp-image-67470 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/GB_KEYIMAGE_GS_02.jpg" alt="" width="720" height="455" />
<a href="https://www.forbes.com/companies/globe-international/?list=asia200&amp;sh=3193de07249a">Globe International</a>
ประเภทธุรกิจ: สิ่งทอ

ประเทศ: ออสเตรเลีย

มูลค่าตลาด: 147 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ยอดขาย: 199 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ผู้ผลิตเสื้อผ้า รองเท้า และสเก็ตบอร์ดจากออสเตรเลียรายนี้มียอดขายถึง 199 เหรียญ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 75 เมื่อ ​3 ตลาดหลักของทางบริษัทซึ่งประกอบไปด้วยออสเตรเลีย อเมริกาเหนือ และยุโรป นับว่าเป็นปีที่บริษัทสามารถทำกำไรได้สูงสุดเป็นปรากฏการณ์ ณ ปัจจุบัน ทางบริษัททำการขายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
&nbsp;

&nbsp;

<img class="size-full wp-image-67469 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/20181203_12PM_TWICE2clean-1200x800.jpg" alt="" width="720" height="480" />
<a href="https://www.forbes.com/companies/jyp-entertainment/?list=asia200&amp;sh=29f88ac211ad">JYP Entertainment</a>
ประเภทธุรกิจ: บันเทิง

ประเทศ: เกาหลีใต้

มูลค่าตลาด: 1.57 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ยอดขาย: 169 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เมื่อมาตรการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ในเกาหลีใต้เริ่มผ่อนลง เหล่าธุรกิจบันเทิงทั้งหลายก็กลับมามีรายได้จากคอนเสิร์ตและอีเวนต์สดอีกครั้ง โดยนี่ส่งผลให้ในปี 2021 ทางบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 อีกทั้ง กำไรสุทธิของทางบริษัทยังเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวอีกด้วย ศิลปิน K-pop หลักของทางค่าย ประกอบไปด้วย บอยแบนด์อย่าง 2PM และเกิร์ลกรุป Twice
&nbsp;

<img class="size-full wp-image-67480 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/sappe-1.jpg" alt="" width="720" height="378" />
<a href="https://forbesthailand.com/tag/sappe">Sappe</a>
ประเภทธุรกิจ: อาหาร

ประเทศ: ไทย

มูลค่าตลาด: 302 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ยอดขาย: 108 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
บริษัทเครื่องดื่มสัญชาติไทย Sappe มียอดขายที่โตขึ้นถึงร้อยละ 12 เมื่อปีที่แล้วเนื่องจากการส่งออกกลับมาคึกคัก โดยทาง Sappe ส่งออกไปยัง 98 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ทางบริษัทยังเริ่มขยายธุรกิจไปยังกลุ่มสินค้ากัญชาและกัญชงอีกด้วย
&nbsp;

<img class="size-full wp-image-67471 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/IMG_5493.jpg" alt="" width="720" height="480" />
<a href="https://www.forbes.com/companies/sido-muncul/?list=asia200&amp;sh=314d36bca75b">Sido Muncul</a>
ประเภทธุรกิจ: ยาแผนโบราณ

ประเทศ: อินโดนีเซีย

มูลค่าตลาด: 2.04 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ยอดขาย: 281 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เมื่อปีที่แล้ว ผู้ผลิตยาสมุนไพรและอาหารเสริมจากอินโดนีเซียมียอดขายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21 แตะ 281 ล้านเหรียญ อีกทั้ง ทางบริษัทยังได้เผยด้วยว่า การที่ผู้คนหันมาสนใจเทรนด์เกี่ยวกับสุขภาพและชีวจิต ช่วยผลักให้ความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มของทางบริษัทก็พุ่งสูงขึ้นอีกด้วยเช่นกัน
&nbsp;

<img class="size-full wp-image-67474 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/THE_HOUR_GLASS.jpg" alt="" width="719" height="480" />
<a href="https://www.forbes.com/companies/the-hour-glass/?list=asia200&amp;sh=4af010951c8a">The Hour Glass</a>
ประเภทธุรกิจ: เทรดดิ้ง

ประเทศ: สิงคโปร์

มูลค่าตลาด: 1.23 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ยอดขาย: 766 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ยอดขายของรีเทลเลอร์นาฬิกาหรูจากสิงคโปร์รายนี้พุ่งขึ้นจากปีที่แล้วถึงร้อยละ 40 นอกจากนี้ กำไรสุทธิของทางบริษัทยังเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 86 อีกด้วย ทั้งนี้ เนื่องมาจากเหล่านักช็อปที่ต้องอยู่แต่ในบ้านมานานรู้สึกคันไม้คันมืออยากใช้จ่ายกันมากขึ้นนั่นเองโดย The Hour Glass คือผู้จำหน่ายนาฬิกาหรูแบรนด์ต่างๆ ตั้งแต่ Rolex, Patek Philippe และ Audemars Piguet มีบูติก 50 สาขาทั่วเอเชียแปซิฟิก
แปลและเรียบเรียงโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร จากบทความ Forbes Asia’s Best Under A Billion 2022 เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/america/%e0%b8%aa%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%90%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%95%e0%b8%b1.html">“America’s Richest Self-Made Women” สตรีผู้สร้างฐานะด้วยตัวเองซึ่งมั่งคั่งที่สุดในสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2022</a>


<hr />
<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events