<h2>"ผมไม่ใช่นักธุรกิจ แต่ตัวผมนี่แหละคือธุรกิจ" คือคำกล่าวอันโด่งดังของ Jay-Z แร็ปเปอร์ผู้เปลี่ยนชื่อเสียงให้เป็นเงินทอง และดูเหมือนว่า นักกีฬาบาสเกตบอล NBA ระดับซูเปอร์สตาร์ต่างก็ตามรอยเขาด้วยการจัดตั้งบริษัทเพื่อดูแลโอกาสทำเงินในสื่อ การตลาด และการลงทุน</h2>
ในกลุ่มนักกีฬาบาสเกตบอล NBA 10 อันดับแรก พวกเขาทำเงินรวมกัน 540 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในรอบฤดูกาล 2017-2018 ซึ่งเพิ่มขึ้นมา 180 ล้านเหรียญเมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อนหน้า และปีนี้ Lebron James ก็ยังคงครองตำแหน่งแชมป์ผู้เล่น NBA ที่ทำรายได้สูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5

&nbsp;

1. Lebron James
ทีม Los Angeles Lakers
รายได้รวม: 88.7 ล้านเหรียญ
เงินเดือน: 35.7 ล้านเหรียญ
รายได้จากการโฆษณาสินค้า: 53 ล้านเหรียญ

<img class="alignnone size-full wp-image-7609" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/Lebron-James.jpg" alt="" width="400" height="512" />

James เพิ่งเข้าร่วมทีม Lakers เมื่อปีที่แล้วด้วยสัญญาระยะ 4 ปีมูลค่ารวม 153 ล้านเหรียญ เขายังเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ดังอย่าง Nike, Coca-Cola, Beats by Dre, Blaze Pizza และ 2K Sports ตัวเขาเองยังร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์เพื่อเปิดร้านพิซซ่า Blaze 14 สาขาทั่วเมือง Chicago และอีก 7 สาขาใน Florida

&nbsp;

2. Stephen Curry
ทีม Golden State Warriors
รายได้รวม: 79.5 ล้านเหรียญ
เงินเดือน: 37.5 ล้านเหรียญ
รายได้จากการโฆษณาสินค้า: 42 ล้านเหรียญ

<img class="alignnone wp-image-7610 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/Stephen-Curry.jpg" alt="นักกีฬาบาสเกตบอล Stephen Curry" width="400" height="512" />

Curry กำลังทำเงินจากการเซ็นสัญญากับพาร์ทเนอร์ใหม่ Rakuten แพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซจากญี่ปุ่นที่กำลังพยายามขยายตลาดเข้ามาในสหรัฐฯ เขาจะได้รับเม็ดเงินปีละ 20 ล้านเหรียญในการแปะโลโก้ของ Rakuten บนเสื้อทีม Warriors และแบรนด์นี้ยังเป็นสปอนเซอร์หลักให้กับโปรแกรม Underrated Tour ของเขาที่มุ่งมั่นในการให้โอกาส นักกีฬาบาสเกตบอล ในวัยมัธยมที่มีฝืมือระดับ 3 ดาวซึ่งอาจถูกโปรแกรมอื่นๆ มองข้าม

&nbsp;

3. Kevin Durant
ทีม Golden State Warriors
รายได้รวม: 65 ล้านเหรียญ
เงินเดือน: 30 ล้านเหรียญ
รายได้จากการโฆษณาสินค้า: 35 ล้านเหรียญ

<img class="alignnone wp-image-7611 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/Kevin-Durant.jpg" alt="นักกีฬาบาสเกตบอล Kevin Durant" width="400" height="512" />

Durant ได้รับเงินจากการเป็นนักกีฬาไปแล้ว 400 ล้านเหรียญตลอดสายอาชีพของเขา และเขาหวังว่าวันหนึ่งจะได้เป็นเจ้าของทีมใน NBA ปีที่ผ่านมา Durant ยังลงทุน 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเปิด Durant Center ในเขต Price George รัฐ Maryland บ้านเกิดที่เขาเติบโตมา โดยเป็นองค์กรเพื่อช่วยเหลือเด็กจากครอบครัวรายได้ต่ำให้มีโอกาสเรียนวิทยาลัย

&nbsp;

4. Russell Westbrook
ทีม Oklahoma City Thunder
รายได้รวม: 53.7 ล้านเหรียญ
เงินเดือน: 35.7 ล้านเหรียญ
รายได้จากการโฆษณาสินค้า: 18 ล้านเหรียญ

<img class="alignnone wp-image-7612 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/Russell-Westbrook.jpg" alt="นักกีฬาบาสเกตบอล Westbrook" width="400" height="512" />

การทำทริปเปิล-ดับเบิลในวงการบาสเกตบอลได้เฉลี่ยตลอดฤดูกาลเคยเป็นเพียงวิมานในอากาศ หลังจากที่ Oscar Robertson เป็นเพียงคนเดียวที่ทำสถิตินี้ได้เมื่อฤดูกาล 1961-1962 แต่ Westbrook คือผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เขาเป็นผู้เล่นคนที่สองที่ทำทริปเปิล-ดับเบิลแบบเฉลี่ยตลอดฤดูกาลได้สำเร็จและอาจจะทำได้ต่อเนื่องเป็นฤดูกาลที่สาม!

เขายังทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ จากการออกสนีกเกอร์รุ่นซิกเนเจอร์คู่ที่สองของเขาร่วมกับ Nike ในชื่อรุ่น Why Not Zero0.2 และรองเท้าไลฟ์สไตล์คู่ที่ 3 ของเขา Westbrook 0.3 ก็เพิ่งวางจำหน่ายไปเมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา เขายังทำสถิติผู้เล่นที่เซ็นสัญญาราคาแพงที่สุดของ NBA หลังเริ่มเล่นในฤดูกาลนี้ โดยสัญญา 5 ปีของเขามีมูลค่ารวม 207 ล้านเหรียญ

&nbsp;

5. James Harden
ทีม Houston Rockets
รายได้รวม: 47.4 ล้านเหรียญ
เงินเดือน: 30.4 ล้านเหรียญ
รายได้จากการโฆษณาสินค้า: 17 ล้านเหรียญ

<img class="alignnone wp-image-7613 size-full" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/James-Harden.jpg" alt="นักกีฬาบาสเกตบอล James Harden" width="400" height="512" />

'The Beard' กำลังพุ่งทะยานไปสู่การคว้าถ้วยผู้เล่น MVP เป็นปีที่สองติดต่อกัน จากการทำคะแนนอย่างต่อเนื่องที่ NBA ไม่ได้เห็นมานานตั้งแต่ทศวรรษ 1960s Harden ยังเป็นพาร์ทเนอร์ให้กับ Amazon ในฤดูกาลนี้เพื่อแบ่งปันผลิตภัณฑ์ที่เขาใช้ในการออกกำลังกาย อันได้แก่ผลิตภัณฑ์ที่เขาเป็นพาร์ทเนอร์อยู่แล้วอย่าง Adidas, BodyArmor และ Beats

&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม: <a href="http://forbesthailand.com/leaderboard/10-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88.html">10 อันดับทีมบาสเกตบอลที่มีมูลค่ามากที่สุดใน NBA ปี 2019</a>

&nbsp;

<hr />

<a href="https://bit.ly/2GB6P6G">คลิกเพื่ออ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ เมษายน 2562 ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="https://bit.ly/2GB6P6G"><img class="alignnone wp-image-7213" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/COVER-71-350.jpg" alt="" width="274" height="368" /></a>

5 "นักกีฬาบาสเกตบอล" รายได้สูงที่สุดใน NBA ปี 2019

ปีนี้นับเป็นปีที่ห้าแล้วที่เราจัดทำรายชื่อ 30 Under 30 เพื่อรวบรวมทำเนียบของผู้ประกอบการชั้นแนวหน้าที่อยู่ในวัยหนุ่มสาว ของอเมริกาซึ่งถือเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อการสร้างความเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ กว่า 600 คนจาก 20 สาขาอาชีพ ซึ่งกว่าจะได้รายชื่อนี้มา ผู้สื่อข่าวของ Forbes หลายสิบคนต้องทำงานอย่างหนักเพื่อคัดกรองรายชื่อผู้ประกอบการนับพันๆ คน ซึ่งมีผลงานโดดเด่นในด้านต่างๆ และผลที่ได้ออกมาก็ถือว่าน่าประทับใจ มาดูกันเลยดีกว่าสำหรับโฉมหน้าของผู้นำในด้านต่างๆ ของโลกในอนาคต (และปัจจุบัน) มีใครกันบ้าง

Ross McCray (ซ้าย)
อายุ 24 ปี
ผู้ร่วมก่อตั้ง VideoAmp
สมัยนี้คนไม่ได้นั่งดูซีรีส์อยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่นที่บ้านเท่านั้น แต่บางทีก็ดูจากแลปท็อปหรือจากโทรศัพท์มือถือแทน ซึ่งสำหรับเจ้าของแบรนด์สินค้า การที่จะโฆษณาสินค้าบนหน้าจอเหล่านี้ให้ครอบคลุมเป็นเรื่องที่ยากขึ้นมาก McCray ซึ่งเป็นแฮ็กเกอร์มืออาชีพมาตลอดชีวิตจึงสร้าง VideoAmp ขึ้นมาในปี 2014 เพื่อช่วยเจ้าของแบรนด์สินค้าโดยการสร้างเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถวางแผน จัดซื้อ และวัดผลการโฆษณาทางดิจิทัลผ่านอุปกรณ์ทุกประเภทได้ “ปัญหาที่เราพยายามจะแก้ก็คือการที่ลูกค้าเสพสื่อจากหลายหน้าจอ” McCray บอก เมื่อปลายปีที่แล้ว VideoAmp ประกาศจะระดมทุน 15 ล้านเหรียญ แต่ระดมได้จริงถึง 17 ล้านเหรียญ บริษัทแห่งนี้มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Santa Monica รัฐ California และมีสำนักงานสี่แห่งในสหรัฐฯ กับอีกหนึ่งแห่งในเนเธอร์แลนด์ VideoAmp มีลูกค้ามากกว่า 50 รายซึ่งในจำนวนนั้นมี Microsoft และ Peet’s Coffee &amp; Tea อยู่ด้วย
—Jennifer Rooney, Vicky Valet

&nbsp;

Stephen Curry (ขวา)
อายุ 27 ปี
ผู้เล่นตำแหน่ง Point Guard ทีม GOLDEN STATE WARRIORS

ทั้งสายเลือดนักกีฬาและทักษะการเล่นที่แทบเข้าขั้นเหนือมนุษย์ของ Stephen Curry ทำให้เขาก้าวขึ้นสู่ทำเนียบนักบาสเก็ตบอลมือฉมังของ NBA โดย Dell พ่อของเขาก็เคยเป็นมือชู้ตบอลระดับแนวหน้าของ NBA มาก่อน ซึ่งเล่นให้กับทีมต่างๆ ถึง 5 ทีมตลอด 16 ฤดูกาลแข่งขันตั้งแต่ปี 1986 ถึง 2002 และเมื่อถึงยุคของ Stephen เขาบอกว่า “มัน คือฝันที่เป็นจริงของผมที่สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ด้วยเงินจากการเล่นบา สเก็ตบอล...แน่นอนว่าผมอยากทำให้มันดีที่สุดและรุ่งโรจน์ในอาชีพนี้ แต่ก็อย่างว่านะ นอกจากบาสเก็ตบอลแล้วมันมีอะไรอย่างอื่นอีกมากในชีวิต”

เมื่อปีที่แล้ว Curry ได้ทำข้อตกลงเป็น brand ambassador และเซเลบริตี้คนแรกให้กับเสื้อผ้าวัยรุ่นยี่ห้อ Express ในขณะที่ Under Armour ก็เป็นอีกแบรนด์ที่ได้เซ็นสัญญามูลค่า 4 ล้านเหรียญกับ Curryในปี 2013 ซึ่งพอถึงปี 2015 Under Armour พบว่ารายได้จากคอลเล็กชั่นรองเท้าในไตรมาสแรกโตถึง 41% ทางบริษัทจึงจัดการเซ็นสัญญาผูกปิ่นโตกับ Curry ยาวไปถึงปี 2024 โดยไม่มีการเปิดเผยมูลค่าสัญญา (ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลขที่สูงลิ่วแน่) แถม Curry ยังได้หุ้นจากบริษัทพ่วงแถมมาอีกด้วย

นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคมนี้ เขายังได้เข้าเป็นหุ้นส่วนของบริษัท CoachUp ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการโค้ชส่วนตัวที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Boston โดยมีโค้ชกว่า 13,000 คนทำการฝึกซ้อมให้กับนักกีฬาวัยละอ่อนมากกว่า 100,000 คนทั่วประเทศ

&nbsp;

เรื่อง: Caroline Howard เรียบเรียง: พิษณุ พรหมจรรยา ภาพ: jamel toppin

<hr />

<a href="http://goo.gl/5KbXgP">ไม่อยากรอ คลิ๊กอ่าน "30 Under 30 เหล่าผู้ประกอบการหนุ่มสาวรุ่นใหม่" ฉบับเต็ม ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ MARCH 2016 ได้ในรูปแบบ E-Magazine ไอเดียบรรเจิดรอคุณอยู่</a>
<a href="http://goo.gl/5KbXgP"><img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%20march/cover-forbes-march2016-re.jpg" alt="" width="343" height="450" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events