Emma Grede ใช้เวลาในวัยเด็กเก็บเล็กผสมน้อยเพื่อคอยซื้อนิตยสารแฟชั่น ในตอนนี้เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีผู้คอยช่วยหนึ่งในครอบครัวที่ฟู่ฟ่าที่สุดในสหรัฐอเมริกาสร้างอาณาจักรธุรกิจพันล้าน

นี่เป็นวันธรรมดาๆ ของ Emma Grede ผู้ที่พึ่งวางสายจาก Kris Jenner และกำลังเร่งเดินทางไป Los Angeles ไปเจอกับ Khloe Kardashian เพื่อถ่ายแบบ “ฉันคุยกับพวกเขาทุกคนทุกวัน” เธอกล่าวถึงครอบครัวชื่อดัง “แบบว่า พวกเราไม่ค่อยได้คุยกันช่วงสุดสัปดาห์เท่าไรน่ะ”

การติดต่อสื่อสารกันอยู่เรื่อยๆ เป็นเรื่องปกติในชีวิตผู้ประกอบการวัย 39 คนนี้ เมื่อเธอและ Jens สามีของเธอกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ใกล้ชิดกับครอบครัว Kardashian ที่สุดในการผันตัวจากการเป็นครอบครัวผู้ครองจอแก้วผ่านรายการเรียลลิตี้สู่ครอบครัวผู้ประกอบการสาวมือทอง

ทั้งสองผนึกกำลังกันช่วยครอบครัวนี้เปิดตัวและดูแลธุรกิจ 3 ธุรกิจ หนึ่งในนั้นคือ Skims แบรนด์ชุดกระชับสัดส่วนของ Kim Kardashian (Jens เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง และซีอีโอ ส่วน Grede เป็นหุ้นส่วนผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่โปรดักส์) นอกจากนี้ Grede ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง และซีอีโอของ Good American แบรนด์แฟชั่นเพื่อทุกคนที่เธอจับมือกับ Khloe และเปิดตัวไปเมื่อปี 2016 อีกทั้งเธอยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Safely บริษัทผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดน้องใหม่ของ Jenner ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว

“ความงามส่วนหนึ่งของการร่วมมือนี้คือ พวกเรามีหน้าที่ที่ชัดเจนมาก และเรารู้ว่าแต่ละคนต้องทำอะไร แต่ก็ยังคงมีความเคารพต่อกันและกัน และต่อความคิดของผู้อื่นอย่างมหาศาล” Grede กล่าว

เมื่อธุรกิจเหล่านี้เริ่มไปได้สวย Grede ก็สามารถเข้าไปกระทบไหล่ Kim และ Kris ในทำเนียบ “America’s Richest Self-Made Women” สตรีผู้สร้างฐานะด้วยตัวเองซึ่งมั่งคั่งที่สุดในสหรัฐอเมริกาประจำปี 2022 ของ Forbes ได้สำเร็จ โดยทาง Forbes สหรัฐฯ คาดว่า เธอมีทรัพย์สินสุทธิอยู่ราว 360 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ทรัพย์สินส่วนหนึ่งมาจากหุ้นเกือบร้อยละ 8 ที่เธอถือใน Skims บริษัทที่เมื่อเดือนมกราคมมีมูลค่าแตะ 3.2 พันล้านเหรียญ ส่วนทรัพย์สินที่เหลือของเธอมาจากการถือหุ้นร้อยละ 23 ใน Good American และอีกร้อยละ 22 ใน Safely รวมถึงหุ้นเล็กๆ น้อยๆ ใน Frame และ Brady บริษัทที่สามีของเธอเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง โดย Brady เป็นบริษัทที่ร่วมมือก่อตั้งกับตำนานแห่ง NFL อย่าง Tom Brady

หลายคนนอกวงการแฟชั่นอาจจะรู้จัก Grede ในฐานะกรรมการรับเชิญในรายการ Shark Tank เธอเผยว่าเธอรับหน้าที่ดังกล่าวเพราะต้องการให้ผู้คนสนใจธุรกิจชาวผิวดำที่ได้เงินทุนต่ำกว่าที่ควรมากขึ้น

นอกจากนี้ เธอยังเป็นประธานแห่ง 15 Percent Pledge แคมเปญที่ถูกจัดตั้งขึ้นหลังเหตุการณ์ฆาตรกรรม George Floyd เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2020 โดยเป็นการเรียกร้องให้รีเทลเลอร์ทั้งหลายมอบพื้นที่ร้อยละ 15 ของชั้นวางสินค้าให้กับแบรนด์ของชาวผิวดำ (ผู้ร่วมลงนามมีทั้ง Nordstrom, Sephora และ Macy’s)

งาน 15 Percent Pledge Gala (CREDIT: TAYLOR HILL on GETTY IMAGES)

“พูดกันตามตรงนะ เมื่อฉันมายังอเมริกา ฉันถูกถามเกี่ยวกับการเป็นผู้หญิงผิวดำในโลกธุรกิจบ่อยครั้ง และคำถามแบบนี้เป็นอะไรที่ฉันไม่เคยต้องเผชิญที่ยุโรปเลย” Grede กล่าว

การเคลื่อนไหวเพื่อความยุติธรรมในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาควบกับสถานะในสังคมของเธอที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เธออยากลงมือทำอะไรสักอย่าง “ฉันรู้สึกว่าด้วยตำแหน่งของฉัน สิ่งที่ฉันสามารถสร้างให้ตัวเอง และจุดที่ฉันยืนอยู่ในชีวิตตอนนี้ นี่เป็นสิ่งที่ฉันควรจะทำคือใช้สิ่งเหล่านั้นให้เป็นประโยชน์”

กว่าจะเป็นเศรษฐินีพันล้าน

ณ ตอนนี้ Grede อาจจะทั้งรวย และดัง แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ก็เป็นหนทางที่ยาวนาน

ในฐานะ 1 ในลูกสาว 4 คนของแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งใน East London เธอยังคงจำการทำงานส่งหนังสือพิมพ์ และงานประหลาดต่างๆ ตั้งแต่อายุ 12 เพื่อนำเงินเล็กน้อยตรงนั้นมาซื้อนิตยสารแฟชั่นได้ดี

“ฉันโตมาในยุค 80 และตอนนั้น London เป็นหัวใจของโลกแฟชั่น และสำหรับฉันแล้ว พวกซูเปอร์โมเดลคือทุกอย่าง” เธอกล่าว “ฉันคลั่ง Kate [Moss] กับ Naomi [Campbell] มาก แล้วก็ Linda [Evangelista] และ Helena [Christiansen] ด้วย มันเหมือนได้หลบหนีเลย การมองดูแฟชั่นเนี่ย”

ความยากลำบากทางการเงินหมายความว่า Grede เมื่อวัยเยาว์ต้องลาออกจาก London School of Fashion และเข้าทำงานในบริษัทโปรดักชั่นด้านแฟชั่น ซึ่งกลายเป็นโชคที่แฝงมา หลังจากสังเกตเห็นว่าการที่แฟชั่นดีไซเนอร์ทั้งหลายจะหาสปอนเซอร์ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เธอจึงผุดไอเดียธุรกิจแรกขึ้นมา

ไอเดียดังกล่าวคือ เอเจนซี่หาเงินทุนให้กับเหล่าดีไซเนอร์ ต่อมาในวัย 24 เธอได้เปิดตัว Independent Talent Brand (ITB) บริษัทการตลาดและความบันเทิงที่เธอคอยบ่มเพาะมาเรื่อยๆ ตลอดทศวรรษต่อมาก่อนที่จะขายให้กับบริษัทการตลาดอีกเจ้าอย่าง Rogers & Cowen ในปี 2018

รู้จักครอบครัว Kardashian

Grede รู้จักกับครอบครัว Kardashian ตอนที่เธอกำลังสร้างเอเจนซี่ของเธอ (ในช่วงเดียวกัน เธอก็ได้พบกับสามีของเธอ ผู้เป็น 1 ในนักลงทุนคนแรกๆ ในเอเจนซี่ โดยเขาและหุ้นส่วนธุรกิจของเขา Erik Torstensson เป็นเจ้าของเอเจนซี่การตลาดแห่งหนึ่งใน London ชื่อ Saturday Group)

เธอกล่าวว่าเธอมักจะบังเอิญไปเจอแม่ใหญ่แห่งครอบครัวนี้ตามงานแฟชั่นโชว์ และมักจะหารือกันเรื่องเส้นทางอาชีพลูกสาวทั้งหลายของเธอ “ถ้าคุณทำงานในวงการการตลาดธุรกิจบันเทิงล่ะก็ คุณไม่ได้ทำงานในวงการนั้นจริงๆ หากคุณไม่ได้ทำงานกับ Kris Jenner” เธอกล่าวเสริม

ดังนั้น เมื่อ Grede ผุดไอเดียสร้างบริษัทแฟชั่นที่ครอบคลุมหลากหลายขนาดและเชื้อชาติ เธอได้แรงบันดาลใจมาจากการเห็นถึงความขาดแคลนแบรนด์ที่หลากหลายและ “body positive” อย่างแท้จริง เธอก็นำไอเดียดังกล่าวไปเสนอ Jenner ทันที โดย Jenner แนะให้เธอนำไอเดียนี้ไปเสนอต่อ Khloe อีกที และสัปดาห์ต่อมา Grede บินไปยัง Los Angeles

สาว Kardashian คนนี้กล่าวว่าเธอซื้อวิสัยทัศน์บริษัทที่ “ชัดเจนแจ่มแจ้ง” ของ Grede “เห็นได้ชัดเลยว่า เธอมุ่งมั่นที่จะลงมือเปลี่ยนวงการแฟชั่นผ่านการเข้าหาผู้หญิงทุกคนอย่างถ่องแท้ และเดินหน้าบุกเบิกความครอบคลุม” Khloe กล่าวกับ Forbes “นอกจากนี้ Emma ยังเป็นหนึ่งในคนที่ทำงานหนักที่สุดที่ฉันรู้จักเลย ไม่เพียงแต่เธอทุ่มสุดตัวกับทุกๆ อย่างในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นคิดคอนเซ็ปต์ จนไปถึงการพัฒนา และการลงมือต่างๆ เท่านั้นนะ เธอยังคอยขยายกรอบว่าแบรนด์แฟชั่นที่ทันสมัยและเพื่อทุกคนนี้สามารถเป็นแบบไหนได้บ้าง และควรเป็นอย่างไรอย่างไม่หยุดหย่อน ฉันรู้เลยว่าฉันต้องร่วมเดินทางไปกับเธอ”

สร้างธุรกิจฟู่ฟ่าให้บ้าน Kardashian

Good American มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 00-32 ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งหายาก โดยทางแบรนด์อ้างว่าการเปิดตัวของพวกเขาเมื่อปี 2016 ถือเป็นการเปิดตัวแบรนด์เดนิมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังจากสามารถทำยอดขายได้ถึง 1 ล้านเหรียญในวันแรกที่วางจำหน่าย

Khloe Kardashian ในแคมเปญโฆษณาของ Good American

หนึ่งในเหตุผลของความสำเร็จครั้งใหญ่นี้คือ ความยากทางเทคนิคในการผลิตยีนส์หลากหลายขนาด “มันมีเหตุผลว่าทำไมแบรนด์อื่นๆ ถึงไม่ทำกัน… เมื่อคุณผลิตเสื้อผ้าหลากหลายไซส์ขนาดนี้ มันไม่ง่ายเลย” เธออธิบาย หลังจากนั้น ทางแบรนด์ก็ได้ขยายตัวไปยังธุรกิจชุดว่ายน้ำ รองเท้า และอีกมากมาย โดยล่าสุดพวกเขาก็ได้รับความสนใจไม่น้อยหลังจากเปิดตัวกางเกงยีนส์แนวยุค 90 ที่มีรอยขาดเป็นทางจตุรัสตามขากางเกง

Grede ย้ายมาอยู่กับสามีของเธอที่ Los Angeles เมื่อปี 2017 เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดครอบครัวสาวๆ คนดัง และตลาดอเมริกันอันสำคัญมากขึ้น และกล่าวว่าเธอดำเนินการ “ทุกอย่างในทุกด้านของธุรกิจนี้”

ส่วนทาง Khloe เป็นผู้ดูแลด้านดีไซน์และการตลาดเป็นหลัก นอกจากนั้น ดาวเรียลลิตี้คนนี้ยังปรากฎตัวในฐานะนางแบบบนเว็บไซต์ของ Good American แถมยังคอยโพสต์รูปสวมใส่เสื้อผ้าจากแบรนด์บนบัญชี Instagram ของเธอที่มีผู้ติดตามถึง 250 ล้านคนอยู่บ่อยครั้ง

Simeon Siegel นักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets เผยว่า การมี “เครื่องจักรการตลาดแบบ built-in” อย่างพวก Kardashian สามารถเป็นอะไรที่มีค่าอย่างเหลือเชื่อ

Emma และ Khloe ในแคมเปญชุดกีฬาของ Good American

โดยรวมแล้ว เราเห็นได้ว่าบริษัทต่างๆ ไปได้สวยเมื่อผู้สร้างแบรนด์จับมือกับผู้ประกอบการอื่นๆ ที่เข้ามาร่วมระหว่างทางเพื่อสร้างฐานสนับสนุนจากลูกค้าในช่วงแรก” Siegel กล่าว แต่อย่างไรก็ตาม เขาได้เสริมว่า การร่วมมือกับคนดังไม่เพียงพอในวงการธุรกิจแฟชั่นที่มีการแข่งขันอย่างบ้าระห่ำ

“บริษัทที่มีผลิตภัณฑ์ที่เยี่ยมที่สุด แต่ไม่มีกลุ่มลูกค้า หรือบริษัทที่มีกลุ่มลูกค้า แต่ไม่มีผลิตภัณฑ์ นั่นไม่นับว่าเป็นบริษัท” Siegel เผย “บริษัททั้งหลายต้องทำอย่างไรก็ได้ให้มีทุกอย่าง”

หลังจากเป็นผู้เกลี่ยทางให้กับ Good American ในช่วงแรกๆ เมื่อ Kim มาสะกิดให้เธอกับสามีไปช่วยสร้างและเปิดตัว Skims เมื่อปี 2019 จึง “รู้สึกเป็นการร่วมมือที่กันที่เกิดขึ้นแบบไม่ฝืนและง่ายมากๆ ในทุกด้าน” Grede กล่าว

Jens เป็นผู้ควบคุมการดำเนินแบรนด์ชุดกระชับสัดส่วนมาแรงนี้วันต่อวัน ส่วน Grede เป็นผู้ดูแลด้านดีไซน์ การผลิต การวางแผน และการจัดจำหน่ายสินค้าในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ประจำแบรนด์ “ฉันทำตามแม่ทัพ Kim” Grede กล่าว “Skims เป็นวิสัยทัศน์ของ Kim มันเป็นไอเดียของเธอ เป็นสุนทรีย์ในฉบับของเธอ งานของฉันคือการทำให้สิ่งนั้นเป็นจริง และเกิดขึ้นให้ได้”

Emma Grede คุณแม่นักธุรกิจ

โดยรวมแล้ว เวลาส่วนใหญ่ของเธอถูกใช้ไปกับการทำงานให้กับ Good American และ Skims

แต่ความรับผิดชอบอื่นๆ ของเธอก็เกือบล้นมืออยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะในฐานะคุณแม่ลูก 4 (เมื่อปี 2021เธอมีลูกแฝดจากแม่อุ้มบุญ) แต่เธอเองก็คอยจัดสรรตารางชีวิตตัวเอง โดยเธอเผยว่าเธอรู้ดีว่าเมื่อไรควรให้คนอื่นเข้ามาทำแทน เช่น เธอได้ว่าจ้างคนอื่นให้มาทำหน้าที่ซีอีโอแห่ง Safely แทน “เพราะฉันไม่ใช่คนที่เหมาะกับการทำบริษัทผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่สุด”

“ฉันเป็นแม่ลูก 4 และมีพันธสัญญาที่ไม่แสวงกำไรของฉันอีก ซึ่งนั่นกินเวลาฉันไปเยอะไม่ใช่น้อย แต่เช่นเดียวกับทุกคน ฉันไม่ได้ทำทุกอย่างตัวคนเดียว” Grede กล่าว “ฉันมีผู้คนสุดอัศจรรย์รอบๆ ตัวฉัน รวมถึงในชีวิตครอบครัวด้วย และฉันรู้สึกมาตลอดว่า ในฐานะคุณแม่ที่ออกไปทำงานฉันอยากจะซื่อตรงกับสิ่งนี้ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันไม่เชื่อนะว่าฉันน่ะมีทุกอย่าง ที่แน่ๆ คือฉันไม่ได้มีทุกอย่างตลอดเวลาหรอก”

แปลและเรียบเรียงจากบทความ Keeping Up With The Kardashians: Meet The Woman Who Made A Fortune Helping Build The Family’s Billion Dollar Business Empire เผยแพร่บน Forbes.com อ่านเพิ่มเติม: เศรษฐินีหน้าใหม่แห่งทำเนียบ “America’s Richest Self-Made Women” ประจำปี 2022

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine