<h2>Intel ซื้อกิจการ Moovit สตาร์ทอัพสัญชาติอิสราเอล ผู้สร้างแอปฯ ที่ช่วยผู้คนในการเลือกเส้นทางการเดินทางที่มีผู้ใช้งานมากกว่าหลายร้อยล้านคนทั่วโลก</h2>
ด้วยจำนวนเงิน 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ Intel หนึ่งในยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีชิปคอมพิวเตอร์เปิดประตูสู่ธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องการเดินทางอย่างแท้จริง

ความสนใจของ Intelที่มีต่อ Moovit เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2018 เนื่องจากความชาญฉลาดของเทคโนโลยีที่สามารถจัดเตรียมเส้นทางการเดินทางขนส่งสาธารณะให้กับผู้ใช้งานในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงความสามารถเชื่อมการทำงานเข้ากับบริการเรียกรถผ่านแอป เส้นทางจักรยาน เส้นทางรถยนต์ หรือจักรยานยนต์

และสิ่งที่ Moovit มีสามารถนำมาต่อยอดการทำงานร่วมกับการทำงานของ Mobileye บริษัทผลิตเซ็นเซอร์ตรวจจับ ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีการขับขี่ไร้คนขับ และระบบการขับขี่อัตโนมัติที่ Intelได้ซื้อกิจการเมื่อปี 2017 เป็นเงินจำนวน 1.53 หมื่นล้านเหรียญฯ

อ่านเพิ่มเติม:<a href="https://forbesthailand.com/news/motoring/intel-%E0%B8%82%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD-mobileye-15-3-%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B5.html"> Intelขยับ ซื้อ Mobileye 15.3 พันล้านเหรียญ หวังคว้าโอกาสที่เปิดกว้างในตลาดยานยนต์ไร้คนขับ</a>

“เทคโนโลยี ADAS ของ Mobileye ได้พิสูจน์แล้วว่าช่วยให้สร้างความปลอดภัยให้กับรถหลายล้ายคันทั่วโลกบนท้องถนน ในขณะที่เทคโนโลยีของ Moovit ถือเป็นส่วนสำคัญที่เร่งวิวัฒนาการด้านการขนส่งสาธารณะอย่างแท้จริง ลดความเร่งรีบและความสูญเสียบบนท้องถนน ซึ่งเทคโนโลยีของทั้งสองบริษัทถือเป็นที่สุดที่ผู้ประกอบธุรกิจการเดินทางยุคใหม่ต้องมี” Bob Swan ซีอีโอ Intelกล่าว

<img class="alignnone size-full wp-image-29530" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/05/moovit_03.jpg" alt="" width="600" height="315" />

จากจุดเริ่มต้นในปี 2012 Moovit ให้บริการแสดงตารางการขนส่งสาธารณะของรถโดยสารประจำทางและรถรางในกรุง Tel Aviv อิสราเอล และต่อยอดพัฒนาไปสู่เทคโนโลยีการวางแผนการเดินทางร่วมกับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งเป็นที่นิยมและมีผู้ใช้บริการราว 800 ล้านราย ใน 3,000 เมือง จาก 100 ประเทศทั่วโลก

Nir Erez ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Moovit กล่าวว่า “แรงบันดาลใจในการสร้าง Moovit มาจากแอปพลิเคชัน Waze ที่พัฒนาโดยทีมงาน Alphabet และเป็นแอปด้านการเดินทางที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุด”

Intel เผยด้วยว่ามูลค่าของอุตสาหกรรมบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางที่สะดวกสบายสำหรับโลกยุคใหม่นั้นจะมีมูลค่าสูงถึง 2.3 แสนล้านเหรียญ ในปี 2030 ข้อมูลพื้นฐานและบิ๊กดาต้าที่ Moovit เก็บรวบรวมไว้สามารถสร้างแนวคิดและประสบการณ์การเดินทางแบบใหม่ๆ ได้อย่างไม่คาดคิด

การลงทุนของ Intelที่กระโดดเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้เพื่อแข่งขันกับ Alphabet ทีมพัฒนาเทคโนโลยีของ Google ที่ลงทุนเงินจำนวนมหาศาลเพื่อพัฒนาการบริการขนส่งรูปแบบใหม่และการขนส่งสาธารณะที่คาดไม่ถึงในหลายปีที่ผ่านมา ไล่เรียงตั้งแต่ Google Maps, Waze ไปจนถึง Waymo ผู้นำเทคโนโลยีไร้คนขับ

“Moovit เป็นแบรนด์ที่แข็งแรงและได้รับความเชื่อถือจากผู้คนทั่วโลก” Amnon Shashua ซีอีโอ Mobileye กล่าวแถลง “และเมื่อนำมารวมกับเทคโนโลยีของ Mobileye ยิ่งทำให้การขนส่งแห่งโลกอนาคตจะไม่เป็นเพียงแค่จินตนาการต่อไป”

ณ วันนี้ที่ Moovit อยู่ภายใต้ร่มของ Intel พนักงานราว 200 คน ยังคงทำงานตามปกติเชื่อมโยงข้อมูลการเดินทางขนส่งในกับผู้ใช้งานเพื่อหาเส้นทางการเดินทางที่ดีที่สุด รวมถึงข้อตกลงบริการต่างๆ ที่มีกับธุรกิจด้านการเรียกรถ

“การผสมผสานพฤติกรรมการเดินทางและความต้องการของผู้ใช้งานจะสร้างประเทศที่มีคมนาคมที่ปลอดภัย ค่าโดยสารที่ถูกลง และเมื่อต้นทุนของเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับต่ำลง ท้ายที่สุดเราจะสร้างเมืองที่น่าอยู่กว่าเดิม” Erez ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Moovit กล่าวทิ้งท้าย

&nbsp;

เรียบเรียงใหม่จากIntel Boosts Mobility Push With $900 Million Purchase Of Transit Data Powerhouse Moovit ที่เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/technology/global-technology/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99-waze.html">ไอเดียธุรกิจสุดเจ๋งเพื่อแก้ปัญหาการขนส่งสาธารณะ</a>

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Intel ทุ่ม 900 ล้านเหรียญฯ ซื้อ Moovit สตาร์ทอัพด้านการเดินทาง

<h2>Moovit ได้รังสรรค์สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นแอพพลิเคชั่น Waze สำหรับบริการขนส่งสาธารณะ มาดูกันว่าแอพฯ นี้จะช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดได้หรือไม่</h2>
Janice Monkowski ครูสอนเปียโนผู้อาศัยอยู่ใน Danville รัฐ California ซึ่งอยู่ห่างจาก San Francisco ไปทางตะวันออกประมาณ 30 ไมล์ มักจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเช่นเดียวกับผู้คนที่พักอาศัยอยู่แถบชานเมืองส่วนใหญ่ โดยการเลือกใช้บริการขนส่งสาธารณะไม่เคยอยู่ในความคิดของเธอแม้แต่น้อยเกือบตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา แต่เมื่อไม่นานมานี้ Monkowski ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นพวกเกลียดกลัวเทคโนโลยีก็ได้เปลี่ยนความคิดดังกล่าวหลังจากที่ได้ทดลองใช้งานแอพพลิเคชั่น Moovit

Monkowski ยินยอมให้ Moovit เข้าถึงรายละเอียดการเดินทางของเธอเพื่อแลกกับการใช้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกับแอพฯ แผนที่นำทางอย่าง Waze ซึ่งติดตามผู้ใช้งานที่ขับรถอยู่บนท้องถนนเพื่อกำหนดเส้นทางขับขี่ที่เหมาะสมที่สุด โดย Moovit จะประมวลผลข้อมูลตำแหน่งปัจจุบันของMonkowski เข้ากับข้อมูลตำแหน่งของผู้ใช้งานคนอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง เพื่อคาดการณ์รูปแบบการเดินทางด้วยบริการขนส่งสาธารณะจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทางซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

“ผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะประสบปัญหามากกว่าผู้ใช้ยวดยานพาหนะส่วนตัวในการเดินทาง” Nir Erezผู้ประกอบการชาวอิสราเอลวัย 52 ปีซึ่งสร้างธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Moovit ในปี 2012 กล่าว ผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่รถประจำทางจะมาถึงหรือไม่รู้ว่าตอนไหนควรจะเลือกเดินเท้าหรือขี่จักรยานดี ยังไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาจะเชื่อมต่อกับบริการขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้

อย่างไร Erez ให้สัมภาษณ์จากบ้านพักใน Tel Aviv ว่า “ข้อมูลเกี่ยวกับระบบขนส่งสาธารณะที่มีอยู่แย่มากทีเดียว” ข้อมูลที่มีอยู่นั้นแย่มากจนทำให้ Moovit กลายเป็นแอพฯ ข้อมูลบริการขนส่งสาธารณะที่มีผู้ดาวน์โหลดมากที่สุดในโลก ในเวลาเพียง 5 ปี Moovit ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งาน 100 ล้านคน เท่าๆ กับจำนวนผู้ใช้งานแอพฯ Waze ซึ่ง Google ซื้อมาราคา 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ปี 2013

Moovit สามารถเลือกใช้งานได้มากถึง 44 ภาษาใน 78 ประเทศผู้ที่สัญจรไปมาใน 1,500 เมือง นับตั้งแต่ Lexington, Kentucky ไปจนถึง London, Moscow และ Hanoi ใช้แอพฯ Moovit เป็นตัวช่วยในการเดินทางไปกลับระหว่างบ้านพักกับที่ทำงาน ใน Los Angeles 40% ของผู้ใช้งานเลือกใช้งานแอพฯ นี้ในภาษาสเปน ข้อมูลจากบริษัทผู้ให้บริการ Moovit ระบุว่าในปี 2016 แอพฯ ของตนได้รับเลือกให้เป็นแอพฯ ข้อมูลบริการขนส่งสาธารณะอย่างเป็นทางการสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูร้อนที่ Rio de Janeiro โดยเอาชนะคู่แข่งอย่าง Apple และ Google ได้

ในกรณีผู้ใช้งาน Moovit ไม่สามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะในการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้นั้น Moovit จะเชื่อมต่อผู้ใช้งานแอพฯ เข้ากับบริการรถจักรยานให้เช่า หรือบริการอื่นๆ อย่างเช่น Uber ความโด่งดังของ Moovit เป็นตัวช่วยดึงดูดนักลงทุนชั้นนำได้อย่างต่อเนื่อง บริษัทซึ่งก่อตั้งด้วยเงินทุน 500,000 เหรียญของ Erez สามารถระดมทุนได้เกือบ 84 ล้านเหรียญจากบริษัทต่างๆ อย่าง Sequoia Capital, Sound Ventures ของ Ashton Kutcher และ BMWi Ventures และมีมูลค่าตามการประเมินอยู่ที่ 450 ล้านเหรียญตามข้อมูลของ PitchBook

บรรดานักลงทุนต่างก็หลงใหลในศักยภาพของ Moovit ที่จะเปลี่ยนข้อมูลบริการขนส่งสาธารณะแบบเรียลไทม์ให้กลายเป็นเงิน ซึ่งรวมถึงข้อมูลจุดหมายปลายทางกว่า 500 ล้านจุดที่มีการเพิ่มเติมเข้าระบบทุกๆ วันด้วยถึงตอนนี้ Moovit จะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถเปลี่ยนข้อมูลที่มีอยู่ให้กลายเป็นเงินสดๆ ได้ ผู้บริหาร Moovit กล่าวว่าในขณะนี้พวกตนเพิ่งเริ่มต้นกระบวนการสร้างรายได้จากข้อมูลที่มีอยู่โดยที่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลรายได้ดังกล่าว ซึ่งตามประมาณการของ FORBES น่าจะเป็นรายได้ที่ยังไม่มากนัก

ในขณะที่ Moovit ขยายธุรกิจจนมีพนักงาน 100 คนและมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ใกล้เมือง TelAviv รวมถึงมีสำนักงานสาขาอยู่ในเมืองต่างๆ อย่าง San Francisco, Athens และ Rio ทั้ง Erez และ Bick ต่างเชื่อมั่นว่าพวกตนมีวิธีการหลายอย่างที่สามารถนำมาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบขนส่งสาธารณะในเมืองต่างๆ ได้ อย่างเช่นถ้าหากมีผู้ต้องการใช้บริการขนส่งสาธารณะในเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งมากเป็นพิเศษ Moovit ก็จะแนะนำให้เพิ่มจำนวนรถประจำทางในเส้นทางนั้นเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว

Bick วัย 37 ปี กล่าวว่า “เราดูความต้องการและข้อมูลการเดินทางที่เกิดขึ้นจริง จากนั้นก็จะตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานของระบบเส้นทางเดินรถทั้งหมด รวมถึงตารางเวลาการเดินรถ เพื่อพิจารณาดูว่ามีการใช้ประโยชน์จากบริการขนส่งสาธารณะที่มีอยู่อย่างเหมาะสมที่สุดแล้วหรือไม่” เขากล่าวเสริมว่าผู้บริหารเมืองต่างๆ ได้ใช้เงินหลายล้านเหรียญในการสำรวจพลเมืองของตนเกี่ยวกับการใช้บริการขนส่งสาธารณะ และ Moovit ก็สามารถให้ข้อมูลที่สมบูรณ์กว่าและทันสมัยกว่าในงบประมาณที่ต่ำกว่าได้ สิ่งที่ดีที่สุดก็คือผู้ใช้งานแอพฯ อย่าง Monkowski เป็นผู้ช่วยเพิ่มข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ลงใน Moovit เมื่อมีการใช้งานแอพฯ แต่ละครั้ง Monkowski กล่าวว่า “เมื่อฉันต้องเดินทางไป San Francisco ฉันไม่อยากใช้รถยนต์ส่วนตัว” ก็เพราะ“ปัญหาใหญ่” ในการหาที่จอดรถและสภาพการจราจรในเมืองที่แสนจะติดขัด Moovit ให้ทางเลือกใหม่กับเธอ “แอพฯ นี้ใช้งานง่ายมากจริงๆ”

&nbsp;

<hr />

<a href="http://bit.ly/2HaFurN">คลิกอ่านฉบับเต็ม "คลังข้อมูลขนาดใหญ่สำหรับเมืองใหญ่" ได้ที่ Forbes Thailand Magazine ฉบับ มีนาคม 2561 ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="http://bit.ly/2HaFurN"><img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/b016375a9b6beb0537fe391ea3131a53.jpg" alt="" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events