<h2>Hanzade Dogan-Boyner ประธานและผู้ก่อตั้ง Hepsiburada ธุรกิจปลีกออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของตุรกี หวนคืนสู่ทำเนียบมหาเศรษฐีอีกครั้งหนึ่ง หลังนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา</h2>
<img class="alignnone wp-image-47888" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/60df2a654e3fe00e80af2d76.jpg" alt="Hanzade Dogan-Boyner" width="720" height="405" />

สัดส่วนการถือหุ้นของ Hanzade Dogan-Boyner ใน <a style="color: #008000;" href="https://www.hepsiburada.com">Hepsiburada</a> ซึ่งอยู่ภายใต้ชื่อ D-Market Electronic Services and Trading ในการซื้อขายที่ Nasdaq ด้วยสัญลักษณ์ "HEPS" มีมูลค่าเพียง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อปิดการซื้อขายในวันอังคาร

โดยเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ระบุว่า Dogan-Boyner ถือหุ้นในบริษัทอยู่ที่ร้อยละ 21.5 และมีอำนาจในการออกเสียงอยู่ที่ร้อยละ 71 ซึ่งเมื่อคำนวณรวมกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และกิจการอื่นๆ จะทำให้ Dogan-Boyner มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 1.5 พันล้านเหรียญ

Dogan-Boyner เติบโตในครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดของตุรกี หลังจบการศึกษาระดับปริญญาโทจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เธอเริ่มต้นทำงานให้กับกลุ่มธุรกิจครอบครัว Dogan Holding ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตภายใต้ Dogan Online พร้อมไปกับการก่อตั้งร้านค้าปลีกออนไลน์ของตนเองในปี 2000 ด้วยการเข้าซื้อกิจการขายคอมพิวเตอร์ทางออนไลน์ชื่อ Infoshop และเปลี่ยนชื่อเป็น Hepsiburada ซึ่งในภาษาตุรกีแปลว่า “ทุกอย่างอยู่ที่นี่" และดำรงตำแหน่งเป็นประธานของบริษัทตั้งแต่นั้นมา ก่อนที่จะตัดสินใจลาออกจากบริษัทของพ่อในปี 2008 เพื่อไปโฟกัสกับธุรกิจของตนเอง

Hepsiburada เริ่มต้นด้วยการจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก่อนที่จะขยายไปสู่แพลตฟอร์มที่วางจำหน่ายทุกอย่างตั้งแต่เครื่องสำอางและของตกแต่งบ้าน ไปจนถึงเครื่องใช้ในสวนและของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง 

ในปี 2020 ธุรกิจสามารถสร้างรายได้ 733 ล้านเหรียญ จากลูกค้าที่ใช้งานจริง 9 ล้านคนและสมาชิกในระบบอีก 33 ล้านคน แม้ว่าจะยังมีการขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 55 ล้านเหรียญก็ตาม

ทั้งนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม 2021 หุ้นของบริษัทซื้อขายอยู่ที่ 12.75 เหรียญเพิ่มขึ้นจากราคา IPO ที่ 12 เหรียญต่อหุ้น ก่อนจะปิดที่ 13.25 เหรียญ ส่งผลให้แพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซของตุรกีมีมูลค่าตลาด 4.58 พันล้านเหรียญ

Dogan-Boyner เป็นหนึ่งในผู้หญิงไม่กี่คนที่อยู่เบื้องหลังการเสนอขายหุ้น IPO มูลค่าหลายล้านเหรียญ ซึ่งนอกจากธุรกิจนี้แล้ว เธอยังเป็นผู้ก่อตั้ง Nesine บริษัทเอกชนที่เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการพนันกีฬาออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของตุรกีเช่นกัน

มากกว่านั้น Forbes ประมาณการว่า Dogan-Boyner ได้ถือครองอสังหาริมทรัพย์ราว 200 ล้านเหรียญ ซึ่งรวมถึงหุ้นในห้างสรรพสินค้า The Alexanderplatz ในกรุงเบอร์ลิน, โรงแรม The Diplomat ในกรุงลอนดอน, Trump Towers ในอิสตันบูล และโรงแรม Hilton

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Dogan-Boyner  ก้าวสู่ทำเนียบมหาเศรษฐี เพราะในปี 2008 เธอติดอันดับ 1,062 ในการจัดอันดับมหาเศรษฐีโลกของ Forbes โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 1 พันล้านเหรียญ ก่อนที่มูลค่าการถือหุ้นของเธอในธุรกิจครอบครัวจะลดลง และหลุดจากเกณฑ์ขั้นต่ำของทำเนียบในปีถัดไป

ด้าน Aydin Dogan พ่อของ Dogan-Boyner สะสมความมั่งคั่งด้วยการเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ตุรกีหลายสำนักพิมพ์ที่เขาขายออกไปในปี 2018 โดยปัจจุบัน Aydin Dogan มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 1.1 พันล้านเหรียญ

แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Founder Of Turkish E-Commerce Firm Hepsiburada A Billionaire After IPO เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/technology/asia-technology/pierre-chen-มหาเศรษฐีเทคโนโลยี-ไต.html">Pierre Chen มหาเศรษฐีเทคโนโลยีไต้หวัน หนึ่งในนักสะสมงานศิลปะชั้นนำของเอเชีย</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events