<h2>เอพี ไทยแลนด์ ตอกย้ำศักยภาพการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยชั้นนำของไทย ด้วยยอดขายไตรมาสแรกของปี 2567 ที่ 17,526 ล้านบาท เตรียมเดินหน้าเปิด 22 โครงการใหม่ไตรมาสสองนี้</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วิทการ จันทวิมล&nbsp;รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและ การสร้างสรรค์ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 1 ที่ผ่านมาเริ่มเห็น เซนติเมนต์ในเชิงบวกมากขึ้นในตลาดระดับกลางถึงบน ซึ่งสะท้อนได้จากยอดขายที่ผ่านมาของบริษัทที่สามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 17,526 ล้านบาท <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/soRiC7HvxKkcrfjoRrd3.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="soRiC7HvxKkcrfjoRrd3.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,480"><figcaption><div>วิทการ จันทวิมล</div></figcaption></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 13,632 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 3,894 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากดีมานด์ของลูกค้าที่เชื่อมั่นใน ทุกโครงการเครือเอพี ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมของเครือเอพี เปิดแผนขับเคลื่อนองค์กร สร้างรายได้ต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับในไตรมาส 2 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัว 22 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 27,710 ล้านบาท โดยเป็นทาวน์โฮม 8 โครงการ มูลค่า 6,910 ล้านบาท บ้านแฝด 5 โครงการ มูลค่า 3,650 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 5 โครงการ มูลค่า 8,550 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 8,600 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย (ongoing projects) จำนวน 160 โครงการ ซึ่งจะเป็นคีย์สำคัญในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง (cash inflow)​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/BA9DQbUnYnP9QWmXzP6c.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="BA9DQbUnYnP9QWmXzP6c.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="720,480"></figure></div> &nbsp; &nbsp; วิทการกล่าวเสริมว่า “เศรษฐกิจไทยปี 2567 ยังถือมีความท้าทายรออยู่อีกมาก และเชื่อว่าจะเป็นอีกปีที่ไม่ได้ง่าย ด้วยปัจจัยต่างๆ  ที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องมาจากปีที่แล้วอย่างเลี่ยงไม่ได้ และจะเป็นอีกหนึ่งปีที่จะพิสูจน์การเป็นตัวจริงของธุรกิจ ซึ่ง ณ วันนี้ บริษัทให้ความสำคัญอย่างมากกับ 5 มิติ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้ไปตามเป้าหมายที่วางไว้”&nbsp; &nbsp; โดย 5 มิติ ได้แก่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1) การบริหารจัดการกระแสเงินสด ที่ส่งผลต่อเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือขององค์กร ซึ่งเราเชื่อว่าวันนี้เรามีความเข้มแข็งมีเสถียรภาพทางการเงิน และสภาพคล่องที่เพียงพอ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2) การกระจายพอร์ตสินค้าที่หลากหลาย และครอบคลุมทุกเซกเมนต์ของตลาด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3) People - Structure - Process การบริหารจัดการคน โครงสร้างองค์กร และโพรเซสการทำงานที่แม่นยำ เพื่อสนับสนุนต่อการทำงานที่รวดเร็วทันทุกการเปลี่ยนแปลง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4) การมีพันธมิตรทางธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจก้าวสู่ความเป็นหนึ่ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;5) Supply Chain Management ที่พร้อมสนับสนุนให้การเติบโตของธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่องตามแผนการพัฒนาและส่งมอบโครงการ ​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/HepzpzjuaxKzdiwa3qax.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="HepzpzjuaxKzdiwa3qax.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2" origin-size="720,480"></figure></div> เป้าหมายปี 67 ขยายพอร์ตทั่วไทย ชิงยอดขายหลักหมื่นล้าน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บมจ. เอพี ไทยแลนด์ ตั้งเป้าปี 2567 ขยายพอร์ตสินค้าในเครือเอพีพร้อมขายกระจายทั่วประเทศไทย  รวมกว่า 200 โครงการ โดยเป็นโครงการพัฒนาใหม่ จำนวน 48 โครงการ มูลค่าประมาณ 58,000  ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น บ้านเดี่ยว 15 โครงการ มูลค่า 23,000 ล้านบาท, ทาวน์โฮมและบ้านแฝด 23 โครงการ มูลค่า 19,300 ล้านบาท, คอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 12,500 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด  4 โครงการ มูลค่า 3,200 ล้านบาท&nbsp; &nbsp; อีกทัั้งยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย (ongoing projects) จำนวน 160 โครงการ ซึ่งจะเป็นคีย์สำคัญในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง (cash inflow) โดยตั้งเป้ายอดขาย 57,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 100% JV ที่ 53,700 ล้านบาท &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัทฯ เปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้วทั้งสิ้น 4 โครงการ มูลค่าประมาณ 5,100 ล้านบาท ไตรมาส 2 เตรียมเปิดตัว 22 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 27,710 ล้านบาท เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/komehyo-opened-the-5th-branch-in-thailand" alt="ตลาดแบรนด์เนมมือสองเมืองไทยโตดี “KOMEHYO” ร้านญี่ปุ่นร่วมทุนเครือสหพัฒน์ เปิดสาขาที่ 5 ในไทยแล้ว">ตลาดแบรนด์เนมมือสองเมืองไทยโตดี “KOMEHYO” ร้านญี่ปุ่นร่วมทุนเครือสหพัฒน์ เปิดสาขาที่ 5 ในไทยแล้ว</a>​​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

AP Thai อวดผลประกอบการ Q1/67 ยอดขาย 1.7 หมื่นล้าน เตรียมเปิดตัว 22 โครงการใหม่ใน Q2

โจทย์ในการเลือกที่อยู่อาศัยของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ตลอดจนผู้บริหารไฟแรงที่เข้าใกล้ความสำเร็จในการทำงานจนเริ่มมองถึงการสร้างครอบครัวไม่ได้จำกัดกรอบอยู่เพียงทำเลคุณภาพที่พร้อมสร้างความ    สะดวกสบายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในวันนี้สามารถต่อยอดความมั่งคั่งในอนาคตอีกต่อไป เพราะเมื่อสเตตัสเปลี่ยนไปเป้าหมายของชีวิตก็เปลี่ยนตาม เพื่อให้สมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะลูกน้อยซึ่งเปรียบเสมือนดวงใจของพ่อแม่มีความสุขจึงต้องพิถีพิถันในการเฟ้นหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา

ที่ผ่านมาจะเห็นว่า Pain Point ยอดฮิตของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ คือไม่เพียงไม่อยากให้ลูกๆ ต้องปวดร้าวกับเวลาและพลังงานที่เสียไปบนท้องถนน แต่ยังอยากหยิบยื่นคุณภาพชีวิตที่ดีในเมืองหลวงให้ลูกๆ ยังได้  อิ่มเอมกับสีสันของเมืองหลวง แต่ก็อุ่นใจและปลอดภัยกับการใช้ชีวิตในสเปซส่วนตัวที่พร้อมให้พวกเขาได้เปิดโลกแห่งจินตนาการอย่างไร้ขีดจำกัดและใกล้ชิดกับธรรมชาติ

จากอินไซต์ผู้บริโภคนี้เอง กลายเป็นที่มาของแนวคิดในการพัฒนาโครงการ “RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน” สุดยอดคอนโดระดับไฮเอนด์วิวแม่น้ำเจ้าพระยาใหม่ที่เรียกได้ว่าเอพีสวมหัวใจคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่พัฒนาอย่างถึงแก่น ด้วยการต่อยอดแนวคิด The Gated Community ชูจุดเด่นเรื่องการออกแบบพื้นที่เพื่อคอมมิวนิตี้ที่เป็นส่วนตัว ปลอดภัย พร้อมรองรับทุกความต้องการที่แตกต่างของสมาชิกในครอบครัวทุกวัย เติมเต็มชีวิตในแบบ City Family Lifestyle ของคนยุคใหม่ให้สมบูรณ์แบบ ทั้งในวันทำงานและวันหยุด  ด้วยหลากหลายจุดเด่นของโครงการที่หาไม่ได้จากที่ไหน
<h2>มากกว่าทำเลศักยภาพ แต่ห้อมล้อมด้วยแหล่งการศึกษา</h2>
อันดับแรก ยังเป็นจุดเด่นของทำเลที่ตั้งของโครงการ เพียงแต่ชูจุดขายฉีกจากโครงการอื่นๆ เพราะแทนที่จะเน้นว่า อยู่ในย่านเจริญกรุง ซึ่งเป็นจุดยุทธ์ศาสตร์ที่สามารถเดินทางได้สะดวก เพียง 5 นาทีถึงย่านธุรกิจ CBD อย่างสาทร ศูนย์กลางแหล่งออฟฟิศ ใกล้ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กแห่งเจ้าพระยา อยู่ห่างจากท่าเรือแม่น้ำเจ้าพระยาเพียง 350 เมตร และทางด่วนศรีรัชเพียง 750 เมตร ใกล้ BTS สถานีสะพานตากสิน “RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน” กลับเลือกชูจุดเด่นว่าอยู่ในย่านสุดฮิปที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมของสถาบันศึกษาชื่อดังที่เอ่ยชื่อมาใครๆก็รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก อัสสัมชัญคอนแวนต์ กรุงเทพคริสเตียน หรือ แม้แต่โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ (ริเวอร์ไซด์) อยู่ตรงข้ามกับโครงการ ห่างเพียง 100 เมตรเท่านั้น ดังนั้น ไม่ว่าจะเลือกลงหลักปักฐานใช้ชีวิตที่นี่ หรือ เป็นบ้านหลังที่สองของครอบครัวก็อุ่นใจว่าสามารถเป็นทางเลือกที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลเด็กๆได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะไปรับ-ส่งเอง หรือจะใช้เวลาร่วมกันทั้งก่อนไปโรงเรียนและหลังเลิกเรียน

<img class="alignnone size-full wp-image-24075" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/11/รูปแทรก3-RHYTHM-เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน.jpg" alt="" width="720" height="480" />
<h2>ทำไมต้องปิดกั้น? ในเมื่อโลกการเรียนรู้ของเด็กช่างกว้างใหญ่</h2>
จุดเด่นถัดมาเป็นการตอบโจทย์ที่เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนปรารถนา นั่นคือ การมอบสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างไร้ขีดจำกัดให้กับลูกน้อย ซึ่งเอพีเข้าใจดี จึงพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโครงการให้ครบครัน ไม่ใช่แค่ให้คุณภาพชีวิตโดยรวมของทุกคนในครอบครัวดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังให้ครอบครัวได้ใกล้ชิดมีกิจกรรมหลากหลายที่สามารถทำร่วมกัน ด้วยการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้รู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยเมื่อได้เห็นลูกวิ่งเล่นได้อย่างอิสระ ได้มองเห็นลูกปลดปล่อยจินตนาการการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ ในสเปซที่กว้างขวางแต่มีขอบเขต ใช้การออกแบบแลนด์สเคปอย่างเหนือชั้น กั้นปิดจากคนนอกและทางรถ แยกทางเดินอย่างเป็นสัดส่วน เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างสะดวกสบาย ทั้งยังกั้นแบ่งพื้นที่ด้วยต้นไม้ (Tree Boundary) ออกจากเส้นทางรถยนต์ เป็น Boundary Level ป้องกันฝุ่นจากควันรถและ PM2.5 สร้างอากาศบริสุทธิ์ อีกทั้งยังใส่ใจในการเลือกสรรพันธุ์ไม้ภายในโครงการที่มีคุณสมบัติช่วยฟอกอากาศ ดักจับฝุ่น และดูดสารพิษ ซึ่งจะช่วยให้เด็กๆ และผู้อยู่อาศัยทุกคนได้รับอากาศที่มีออกซิเจนบริสุทธิ์ จึงคลายกังวลเรื่องมลพิษที่อาจก่อปัญหาต่อระบบหายใจ

<img class="alignnone size-full wp-image-24077" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/11/รูปแทรก1-RHYTHM-เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน.jpg" alt="" width="720" height="480" />
<h2>พื้นที่ส่วนตัวที่พร้อมตอบโจทย์ทุกเจนฯ</h2>
ที่พิเศษกว่านั้น คือ การออกแบบพื้นที่ให้มีฟังก์ชันเสริมการเรียนรู้ ทําให้พื้นที่สีเขียวทั้งหมดเชื่อมต่อกันทางแนวนอน ด้วยเล็งเห็นว่าที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองที่เอื้อต่อการให้ลูกได้สัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งสำคัญในการต่อยอดจินตนาการไปสู่การเรียนรู้นอกห้องเรียน ซึ่งใกล้เคียงกับแนวคิด ‘Shinrin Yoku’ ของทางญี่ปุ่นที่พูดถึงการนำธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส สามารถฟื้นฟูกลไกลต่างๆ ของร่างกายได้ ช่วยลดความเครียด ส่งเสริมสุขภาพจิต และความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งยังช่วยให้มีชีวิตยืนยาวขึ้น

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่รองรับกิจกรรมเสริมพัฒนาการและสร้างทักษะพื้นฐานในชีวิตประจำให้ลูก ไม่ว่าจะเป็นห้อง Study Pavillion, Social Pavillion, และ Reading Pavilion เพื่อปล่อยให้ลูกได้ “อยู่” และ “ใช้เวลา” ในพื้นที่ส่วนตัว เช่น เวลาลูกเรียนพิเศษ เด็กๆ ก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัวกับครูสอนพิเศษเพื่อให้มีสมาธิ ช่วยลดภาระของพ่อแม่ที่จะออกไปเช่าพื้นที่ตึกแถวที่แบ่งห้องๆ ให้อาจารย์มาสอนพิเศษแบบส่วนตัว แทนที่จะเลือกไปนั่งติวตามร้านกาแฟก็อาจจะเสียงดังจอแจเกินไป  หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่ลูกๆ ต้องฝึกทักษะพิเศษอย่างเรียนดนตรี เด็กๆอาจต้องการความเป็นส่วนตัว เพื่อลดความกดดัน หรือ ป้องกันไม่ให้เสียสมาธิหากเห็นพ่อแม่อยู่ในสายตา

<img class="alignnone size-full wp-image-24076" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/11/รูปแทรก2-RHYTHM-เจริญกรุง-พาวิลเลี่ยน.jpg" alt="" width="720" height="480" />

อย่างไรก็ตาม นอกจากดัชนีความสุขของเด็กๆ จะเบ่งบานแล้ว เพื่อให้ RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน เป็นศูนย์รวมความสุขของทุกเจนฯอย่างแท้จริง พื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ ยังออกแบบเพื่อรองรับกิจกรรมคนวัยอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่าง พื้นที่ส่วนกลางของคุณหนูๆ สามารถเป็นพื้นที่ทำงานของคุณพ่อคุณแม่  ตลอดจนใช้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจหรือพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงแบบไม่ต้องฝ่ารถติด แค่ปลายนิ้วคลิกสั่งอาหารเดลิเวอรี่ หรือจะขอเวลานอกไปชิลด้วยการออกกำลังกาย เล่นโยคะระหว่างรอลูกเลิกเรียนก็เข้าทาง

หากความสุขของการใช้ชีวิตพร้อมหน้า พร้อมตา ได้โอบกอดทุกวันด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของสมาชิกในครอบครัว คือ สิ่งที่คุณปรารถนา ค้นพบมิติใหม่ของการใช้ชีวิตคุณภาพใจกลางเมืองได้ที่
“RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน” สุดยอดคอนโดระดับไฮเอนด์วิวแม่น้ำเจ้าพระยาใหม่ ตรงข้ามโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ (ริเวอร์ไซด์) พิเศษ ! สำหรับ 1 ห้องนอน (35 ตร.ม.)
ราคาเริ่มต้น 5.39 ล้าน* ราคาเฉลี่ย 160,000 บาท/ตร.ม. ใครที่ไม่อยากพลาดโอกาสแห่งความสุขที่อยู่แค่เอื้อม สามารถลงทะเบียนออนไลน์รับส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท* ได้ที่ <a href="https://bit.ly/2Ngnhhf">https://bit.ly/2Ngnhhf</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events