<div>
	<strong>อยากรวยเป็นมหาเศรษฐีติดอันดับโลกบ้างไหม ลองสร้างกิจการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสิ ฝันของคุณอาจเป็นจริงได้ เพราะมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง 15 อันดับแรกของโลก (ในทำเนียบ&nbsp;World&#39;s Billionaires) มี 7 ราย หรือเกือบครึ่งหนึ่ง ร่ำรวยจากธุรกิจเทคโนโลยี และหากพิจารณาเฉพาะคนรวยระดับโลกสายไฮเทค 15 อันดับแรก ก็มีทรัพย์สินรวมกันถึง 4.26 แสนล้านเหรียญเข้าไปแล้ว</strong></div>
<div>
	<br />
	&nbsp;</div>
<div>
	กรณีของ <span style="color:#b22222;">Jack Ma</span> ผู้ก่อตั้ง Alibaba เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด เขากลายเป็นเศรษฐีจากธุรกิจเทคโนโลยีชั้นนำ หลังจากสร้าง IPO ประวัติศาสตร์ในปี 2014 จนความมั่งคั่งทบทวีคูณพุ่งถึง 2.27 หมื่นล้าน และในวันนี้เขามิได้เป็นแค่ผู้ร่ำรวยที่สุดในแผ่นดินจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นนักธุรกิจสายเทคโนโลยีที่ร่ำรวยที่สุดเท่าที่จีนเคยมีมา</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	แม้ว่าแนวโน้มเศรษฐีจากจีนกำลังมาแรง แต่มหาเศรษฐีสายเทคโนไอทีส่วนใหญ่แล้วยังคงเป็นคนสหรัฐฯ <span style="color:#b22222;">Bill Gates</span> ผู้ก่อตั้ง Microsoft ยังคงครองอันดับหนึ่ง ทั้งมหาเศรษฐีสายเทคโนและมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์ทั้งหมด 7.92 หมื่นล้านเหรียญ แม้ว่าเขาจะปล่อยหุ้นบริษัทที่ถือไว้ออกไปถึง 1 ใน 3 แล้วก็ตาม รวมทั้งบริจาคให้กับมูลนิธิของตนเองอีก 1.5 พันล้านเหรียญ และส่งให้อดีตซีอีโอ Microsoft อย่าง <span style="color:#b22222;">Steve Ballmer</span> กลายเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทในฐานะปัจเจกบุคคลที่มากที่สุด ความร่ำรวยของเขายังเพิ่มขึ้น แม้ว่าในปีที่ผ่านมาจะซื้อทีมบาสเกตบอล LA Clippers ด้วยเงินถึง 2 พันล้านเหรียญ จนกลายเป็นสถิติใหม่</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	<span style="color:#b22222;">Larry Ellison</span> ผู้ก่อตั้ง Oracle ครองอันดับ 2 รองจาก Bill Gates หลังจากมูลค่าทรัพย์สินในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นถึง 6.6 พันล้านเหรียญ รวมแล้วเป็น 5.43 หมื่นล้านเหรียญ</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	<span style="color:#b22222;">Mark Zuckerberg</span> แห่ง Facebook กำลังไต่อันดับขึ้นมาเรื่อยๆ หลังลงทุนไป 1.9 หมื่นล้านเหรียญ เพื่อผนวกผู้ใช้งานโปรแกรม WhatsApp ถึง 7 ร้อยล้านบัญชีมาเป็นของ Facebook ในปีที่ผ่านเขามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอีก 4.9 พันล้านเหรียญ</div>
<div>
	&nbsp;</div>
<div>
	ขณะที่ <span style="color:#b22222;">Larry Page</span> และ <span style="color:#b22222;">Sergey Brin</span> ผู้ร่วมก่อตั้ง Google เป็นเพียง 2 รายในมหาเศรษฐีทั้ง 15 คน ที่ร่ำรวยลดลงรายละ 2.6 พันล้านเหรียญ ตามมูลค่าหุ้นของ Google ที่ลดลง</div>
<div>
	<br />
	<div>
		&nbsp;</div>
	<div>
		<strong>15 World&#39;s Richest Tech Billionaires</strong></div>
	<ol>
		<li>
			Bill Gates: 7.92 หมื่นล้านเหรียญ</li>
		<li>
			Larry Ellison: 5.43 หมื่นล้านเหรียญ</li>
		<li>
			Jeff Bezos: 3.48 หมื่นล้านเหรียญ</li>
		<li>
			Mark Zuckerberg: 3.34 หมื่นล้านเหรียญ</li>
		<li>
			Larry Page: 2.97 หมื่นล้านเหรียญ</li>
		<li>
			Sergey Brin: 2.92 หมื่นล้านเหรียญ</li>
		<li>
			Jack Ma: 2.27 หมื่นล้านเหรียญ</li>
		<li>
			Steve Ballmer: 2.15 หมื่นล้านเหรียญ</li>
		<li>
			Laurene Powell Jobs: 1.95 หมื่นล้านเหรียญ</li>
		<li>
			Michael Dell: 1.92 หมื่นล้านเหรียญ</li>
		<li>
			Azim Premji: 1.91 หมื่นล้านเหรียญ</li>
		<li>
			Paul Allen: 1.75 หมื่นล้านเหรียญ</li>
		<li>
			Pony Ma: 1.61 หมื่นล้านเหรียญ</li>
		<li>
			Robin Li: 1.53 หมื่นล้านเหรียญ</li>
		<li>
			Shiv Nadar: 1.48 หมื่นล้านเหรียญ</li>
	</ol>
	<br />
	<hr />
	<p>
		เรียบเรียงจาก <a href="http://www.forbes.com/sites/chloesorvino/2015/03/02/the-worlds-richest-tech-billionaires-jack-ma-breaks-through-to-top-google-leaders-slip/">The World&#39;s Richest Tech Billionaires: Jack Ma Breaks Through to Top, Google Leaders Slip</a></p>
</div>
<br />

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events