<h2>บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จับมือพันธมิตร แถลงความพร้อม ‘ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2019’ เผย 3 สิ่งพิเศษที่จะเกิดขึ้น พร้อมโอกาสสำหรับนักกอล์ฟหญิงชาวไทยร่วมหวดวงสวิงกับนักกอล์ฟหญิงระดับโลก ด้าน โม-โมรียา จุฑานุกาล เผยถึงความสำคัญของการแข่งขันครั้งนี้</h2>
พิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัตการ บริษัท บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เผย ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2019 เป็นการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรี ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 13  ระหว่างวันที่ 21-24 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งในครั้งนี้ จัดภายใต้แนวคิด “สานฝันอันยิ่งใหญ่” เพื่อเป็นเวทีสร้างแรงบันดาลใจและความรักในกีฬากอล์ฟ บุคลลทั่วไป รวมถึงเยาวชน

<figure><img style="width: 638px; height: 425px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/82a462f1d2eb4c25fa6adce3e5750d6d.jpg" alt="" width="638" height="425" /><figcaption> พิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัตการ บริษัท บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด</figcaption></figure>

“การจัดการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นถึงเป็นโอกาสที่ดีที่คนไทยจะได้รับชมการแข่งขันอย่างใกล้ชิด จากสนาม สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส จังหวัดชลบุรี ที่ผ่าน มีผู้สนใจเข้าชมการแข่งขั้นเฉลี่ย 40,000 คน ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาชมการแข่งขัน” พิทักษ์ พฤทธิสาริกร กล่าวและเสริมด้วยว่า

“ความพิเศษ 3 สิ่งของการจัดแข่งขันครั้งนี้คือการให้สิทธิ์กับนักกอล์ฟสาว 1 ท่านจากการคัดเลือกในการแข่งขัน Honda LPGA Thailand National Qualifiers โดยจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม 2562 สองคือยกระดับคนเบื้องหลังโดยเป็นความร่วมกับ ผู้จัดงาน LMG การส่งบุคคลากรไปดูงานยังต่างประเทศ ในการจัดสัมมนา Young Ambassadors เพื่อมอบโอกาสในการฝึกงานในต่างประเทศ และ Golf Leaders Conference โดยนำผู้บริหารที่เกี่ยวข้องกับวงการร่วมสนทนาเพื่อหาแนวคิดใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์วงการกอล์ฟไทย”

ด้าน อิทธิพล คุณปลื้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับกีฬากอล์ฟและมีส่วนพัฒนาศักยภาพของนักกอล์ฟไทยในการก้าวสู่การเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพ รวมทั้งยังเป็นการสร้างเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงกีฬา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้าสู่ประเทศไทย

“โดยเฉลี่ยมีนักท่องเที่ยวตค่างาติที่ตั้งใจมาเล่นกีฬากอล์ฟในประเทศไทยราว 400,000 คนต่อปี โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีการใชจ่ายสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 2-3 เท่า โดยปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ให้กับประเทศปีละ 4.8 พันล้านบาท และมีกลุ่มนักท่องเที่ยวกอล์ฟเพิ่มขึ้น 10–12 เปอร์เซ็นต์”

ด้าน Winnie Heng รองประธานและกรรมการผู้จัดการ ไอเอ็มจี ประเทศไทย กล่าวว่า เรามีความภูมิใจที่ปัจจุบันทัวร์นาเมนต์นี้ ถือเป็นการแข่งขันกอล์ฟที่สำคัญประจำปีและยังเป็นรายการแข่งขันที่สำคัญของประเทศซึ่งในปีนี้ มีเงินรางวัล 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 53 ล้านบาท

“ปีนี้มีนักกอล์ฟอาชีพหญิง เข้าร่วมการแข่งขั้นทั้งหมด 70 คน เป็นโปรกอล์ฟ 58 คน ที่มาจากการจัดอันดับของแอลพีจีเอทัวร์ประจำปี 2019 และ โปร์กอล์ฟอีก 2 คนซึ่งเป็นผู้ชนะจากสองรายการสำคัญ นักกอล์ฟรับเชิญ 9 คน และ อีกคนที่ได้จากการตัดเลือกในการแข่งขัน Honda LPGA Thailand National Qualifiers”

<figure><img style="width: 638px; height: 447px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/ced73143bf67850ec8ec4d5525f54ceb.jpg" alt="" width="638" height="447" /><figcaption> โปรโม–โมรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟอาชีพหญิงอันดับ 17 ของโลก</figcaption></figure>

สำหรับ โปรโม–โมรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟอาชีพหญิงอันดับ 17 ของโลก กล่าวว่า “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ถือเป็นบ้านที่อบอุ่นและเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ได้ก้าวขึ้นมาแข่งขันในระดับอาชีพและเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟหญิงดาวรุ่งจากทั่วโลกได้ประลองฝีมือ”

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events