<h2>จากธุรกิจอสังหาสู่เอนเตอร์เทนเมนต์ “ออริจิ้น” เปิดตัว “Origin Music” ลุยวงการ T-Pop ใช้อิทธิพลซอฟต์ พาวเวอร์ปั้นแบรนด์สู่ Forever Young ขวัญใจคน Gen Z พร้อมขยายสู่ธุรกิจบันเทิงครบวงจร ก้าวข้ามสู่ธุรกิจไลฟ์สไตล์ครอบคลุมคนทุกเจนเนอเรชั่น</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น มิวสิค จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า บริษัทได้เดินตามแผนสร้างจักรวาลใหม่ ORIGIN MULTIVERSE ในการทำธุรกิจที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ทุกช่วงชีวิตของผู้บริโภค&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยล่าสุดได้เปิดตัวค่ายเพลง “Origin Music” ปั้นศิลปิน T-Pop ได้แก่ “เบอร์ลินน่า” สาวน้อยเสียงสไตล์อาร์แอนด์บี-โซล “Good Mood” วงดนตรีมัธยมแนวป๊อปร็อก และ “เนท สปีซ” หนุ่มลูกครึ่งดีกรีนายแบบในปี 2566 จะมีศิลปินอีกอย่างน้อย 5 กลุ่ม และแผนใน 5 ปี จะมีศิลปินอย่างน้อย 12 กลุ่ม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“จุดเริ่มต้นของ Origin Music มาจากการที่เราทำงานโฆษณา งานโปรดักชั่น งานสร้างสรรค์บทเพลงที่เราต้องการสื่อกับผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ซึ่งบทเพลงเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ที่สามารถเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้ ทำให้พวกเขาชื่นชอบในแบรนด์ของเรา และที่สำคัญธุรกิจเพลงมีศักยภาพสามารถเข้าถึงคนจำนวนมากได้ และมีโอกาสขยายธุรกิจต่อยอดให้เติบโตได้ในอนาคต”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ธุรกิจเพลงเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงโควิด การฟังเพลงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก อาทิ ยูทูป มิวสิค เข้าถึงผู้ฟังกว่า 80 ล้านคนทั่วโลก หรือ Spotify ที่เข้าถึงกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับประเทศไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์มฟังเพลงออนไลน์ (Music Streaming) เติบโตขึ้นร้อยละ 10 ปัจจุบันมีผู้ฟังประมาณ 10 ล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 15 ล้านคนใน 5 ปีข้างหน้า การขยายเข้าสู่ธุรกิจเพลงของออริจิ้น จึงมีโอกาสสร้างรายได้ใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/12/9iHrCc4HKaw9xi5EqUDu.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="9iHrCc4HKaw9xi5EqUDu.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="650,448" style="" data-index="0"></figure></div> <h3>ต่อยอดสร้างแบรนด์และรายได้</h3> อภิสิทธิ์ กล่าวว่า บริษัทจะใช้เงินลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท สำหรับดำเนินธุรกิจ “ออริจิ้น มิวสิค” (Origin Music) ในปี 2566 และคาดว่าภายใน 5 ปี รายได้จากธุรกิจเพลงจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ต่อปี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย ออริจิ้น มิวสิค จะมีการขยายจำนวนศิลปิน ผ่านการออดิชั่น ทั้งพนักงาน ลูกค้า และลูกบ้าน ให้เป็นพื้นที่พัฒนาคนรุ่นใหม่ให้พร้อมสู่การเป็นศิลปิน-นักสร้างสรรค์สายเลือดใหม่เติมเต็มวงการเอนเตอร์เทนเมนต์ของไทย ร่วมขับเคลื่อนกระแส T-Pop และงานสร้างสรรค์ของไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้น ควบคู่กับการสร้างประสบการณ์ร่วมไปกับกลุ่มเป้าหมายคน Gen Z สู่การเป็นแบรนด์ที่ครองใจคนรุ่นใหม่อย่างรอบด้าน&nbsp;&nbsp;&nbsp; “ค่าย Origin Music จะเป็น Dynamic move ครั้งใหญ่ของเครือออริจิ้นที่ทำให้เราใกล้ชิดกับคนรุ่นใหม่ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เราไม่ได้มองแค่การเติบโตทางรายได้ แต่เรามองว่าศิลปินและเพลงจะเป็นสื่อกลางสำคัญที่สร้างคุณค่าและทำให้เราเข้าถึงคน Gen Z และ Gen Alpha ตั้งแต่วัยเรียน สร้างแบรนด์ของเครือออริจิ้นให้เป็นแบรนด์ Forever Young กลายเป็นแบรนด์ขวัญใจคนรุ่นใหม่ทั้งฝั่งคอนโดมิเนียมและเอนเตอร์เทนเมนต์” อภิสิทธิ์กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp; ทั้งนี้ Origin Music จะมุ่งดำเนินธุรกิจ 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มงานพัฒนาศิลปินสายเลือดใหม่ ฝึกสอนทักษะความสามารถให้กับคน Gen Z ที่มีความฝันอยากเข้าสู่เส้นทางบันเทิงและงานเบื้องหน้าต่างๆ ตั้งแต่ศิลปินนักร้อง นักแสดง นายแบบ-นางแบบ พิธีกร Brand Ambassador อินฟลูเอนเซอร์ทั้ง Youtuber และ TikToker&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และ 2.กลุ่มงานโปรดักชั่นและงานสร้างสรรค์อื่นๆ นำเสนอสิ่งใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเอนเตอร์เทนเมนต์ไทย เช่น ผลิตละครและซีรีส์ ผลิตงานโฆษณา ผลิตคอนเทนต์สร้างสรรค์และการรีวิว Music Marketing ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ กิจกรรมสปอนเซอร์ กิจกรรมอีเวนท์และคอนเสิร์ต&nbsp;&nbsp;&nbsp; ขณะเดียวกัน เพื่อให้การดำเนินงานขับเคลื่อนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทได้แต่งตั้งนายสยุมภู นิลวรรณ หรือครูเอ้ โปรดิวเซอร์มืออาชีพที่เคยร่วมงานกับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของไทย และเป็นครูฝึกสอนร้องเพลงให้กับคนดังมากมาย มาดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ สายงานดนตรีและ กานต์ ใหญ่สว่าง หรือครูกานต์ โปรดิวเซอร์มากประสบการณ์ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานเพลงดังมากมาย มาดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการผลิต เพื่อร่วมกันสร้างการเติบโตและฝึกสอนทักษะด้านงานเพลงให้กับศิลปินใหม่ของค่าย Origin Music&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อภิสิทธิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นค่าย Origin Music ได้เปิดตัวศิลปินใหม่กลุ่มแรก ได้แก่ เบอร์ลินน่า (Berlina) ศิลปินหญิงเดี่ยวเบอร์แรกของค่ายที่จะมาถ่ายทอดบทเพลงสไตล์อาร์แอนด์บีและโซล วง Good Mood วงดนตรีแนวป๊อปร็อกที่เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา-มหาวิทยาลัยที่ได้รับรางวัลจากเวทีประกวดมาแล้วมากมาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และเนท สปีซ - Nate Spiess ศิลปินฝึกหัดมากความสามารถ มาพร้อมทักษะทางดนตรีและการเดินแบบ ซึ่งจะทยอยออกผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอให้รับชมอย่างเป็นทางการภายในต้นปี 2566 และเตรียมเดินหน้าเฟ้นหาศิลปินคนรุ่นใหม่ทั้ง Gen Y, Gen Z ตลอดจน Gen Alpha มาร่วมสร้างสีสันใหม่ให้กับวงการเอนเตอร์เทนเมนต์ไทยในไตรมาส 3 ปี 2566 &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 คาดว่าจะกลับมาคึกคักมากขึ้น จากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยด้านอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ ต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ซึ่งบริษัทจะมุ่งทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตร เช่น ธนาคาร เพื่อตรึงอัตราดอกเบี้ย และจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในปี 2566&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายรวม 29,398 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นร้อยละ 84 จากเป้าหมายรายได้ปี 2565 ที่ 35,000 ล้านบาท โดยจะมีการเปิดตัวโครงการในไตรมาส 4 ของปีนี้อีก 13 โครงการ รวมมูลค่า 14,950 ล้านบาท อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/commentaries/insights/customer-experience-%E0%B9%80" alt="Customer Experience เพื่อให้ธุรกิจได้ไปต่อ">Customer Experience เพื่อให้ธุรกิจได้ไปต่อ</a>​<hr class="__se__solid">​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine​ &nbsp;​ ​

ออริจิ้น เปิด “Origin Music” ขยายธุรกิจผ่าน ซอฟต์ พาวเวอร์

<h2>ออริจิ้นแตกแบรนด์ใหม่ “ดิ ออริจิ้น” ระดมเปิด 6 ทำเล 7.7 พันล้าน เจาะลูกค้า Gen Z คนรุ่นใหม่ที่กำลังทยอยเรียนจบ ชี้กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้สนใจซื้อบ้านก่อนซื้อรถ-ปลอดหนี้-ฐานครอบครัวดีช่วยผ่อนดาวน์ ดึง “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์</h2>
พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ “ดิ ออริจิ้น” ซึ่งจะเป็นแบรนด์ระดับราคากลางล่าง ประมาณ 7 หมื่นบาทต่อตารางเมตร และเน้นเจาะกลุ่มลูกค้า Gen Z วัย 23-28 ปีที่กำลังทยอยเรียนจบและเริ่มทำงาน

โดยปีนี้บริษัทจะปูพรมเปิด 6 โครงการใน 6 ทำเล มูลค่ารวม 7.7 พันล้านบาท ได้แก่ ทำเลรามคำแหง 209, ลาดพร้าว 15, รัชดา-ลาดพร้าว, สุขุมวิท 105, รามอินทรา 83 และพหลฯ-สะพานใหม่ ทั้งนี้ ดิ ออริจิ้น รามคำแหง 209 ได้เปิดตัวแล้วเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80% จากจำนวนห้องชุด 1,007 ยูนิต

&nbsp;
<h2>ดึง “ซันนี่” เป็นแม่เหล็กดูดลูกค้า</h2>
ด้าน อภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บมจ.ออริจิ้นฯ และ สมสกุล แสงสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานออกแบบผลิตภัณฑ์ บมจ.ออริจิ้นฯ ร่วมกันกล่าวถึงฟังก์ชันและการตลาดของแบรนด์นี้ว่า มีการออกแบบให้เหมาะกับชีวิตคนรุ่นใหม่ เช่น ฟังก์ชันตู้เก็บของกว้างและสูงเต็มผนัง มี co-working space ในคอนโดฯ ที่เป็นที่ทำงานได้จริงเพราะมาพร้อมเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องปรินท์ Wi-Fi ห้องประชุม ไปจนถึงห้อง private room ที่สามารถจัดปาร์ตี้ได้

<figure><img class="wp-image-10501 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/-1-e1562855778102.jpg" alt="" width="800" height="533" /><figcaption> (ซ้าย) สมสกุล แสงสุวรรณ (ขวา) อภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ</figcaption></figure>

นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดตัวแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ของดิ ออริจิ้น คือ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ และ<a href="https://www.youtube.com/watch?v=DHWrdUqljWQ">จัดทำหนังโฆษณา 2 ชุด</a>เพื่อสื่อสารถึงคน Gen Z โดยเฉพาะ ทั้งนี้ พีระพงศ์เสริมว่า บริษัทใช้งบลงทุนทางการตลาดในแคมเปญนี้ทั้งหมด 100 ล้านบาท

&nbsp;
<h2>Gen Z น่านน้ำใหม่</h2>
ซีอีโอออริจิ้นกล่าวว่า เหตุที่บริษัทรีบเกาะกลุ่มลูกค้า Gen Z เพราะคนเจนฯ นี้กำลังทยอยเข้าสู่ตลาดแรงงาน ขณะนี้บางส่วนเริ่มทำงานแล้วเกิน 1 ปี มีรายได้ประมาณ 2 หมื่นบาทต่อเดือนขึ้นไป

“เรารีบออกสตาร์ทกับ Gen Z เพราะเขาเพิ่งเริ่มเข้ามาในตลาด และยังจะเข้ามาอีกยาวสิบปี เราต้องการจะครองใจพวกเขาให้ได้ก่อน” พีระพงศ์กล่าว

โดยออริจิ้นมองความน่าสนใจของคนรุ่นใหม่ว่าเป็นกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่าง ไม่รีบซื้อรถ และเมื่อจบใหม่จึงยังไม่มีภาระหนี้สินเหมือนกับผู้ใหญ่ที่เริ่มทำงานไปแล้วระยะหนึ่ง เชื่อว่าปีนี้กลุ่มคน Gen Z จะกลายเป็นลูกค้าสัดส่วน 25% ของบริษัท (ลูกค้ากลุ่มใหญ่ของออริจิ้นยังเป็น Gen Y สัดส่วน 60% และมีลูกค้า Gen X อีก 15%) และใน 3-4 ปีจากนี้ กลุ่มลูกค้า Gen Z น่าจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 30-40%

<figure><img class="size-full wp-image-10502" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/4-Core-Functions-24hr-Co-working-space-e1562855862305.jpg" alt="ดิ ออริจิ้น โคเวิร์กกิ้ง" width="800" height="450" /><figcaption> co-working space 24 ชั่วโมงที่ ดิ ออริจิ้น จะมีให้ในคอนโดฯ</figcaption></figure>

พีระพงศ์กล่าวถึงโครงการดิ ออริจิ้น รามคำแหง 209 ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป้าหมาย Gen Z เป็นผู้ซื้อราว 80% “สัดส่วนนี้รวมทั้งที่เขาซื้อเอง และมีพ่อแม่ช่วย หลายรายพ่อแม่ช่วยผ่อนดาวน์ให้แต่จะให้ลูกหลานเป็นคนรับโอนและผ่อนกับธนาคารเอง บางยูนิตพ่อแม่ซื้อเงินสดให้ลูกก็มี”
<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/people/30-under-30/%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b9%81%e0%b8%ab%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b9%84.html">10 สุดยอดหนุ่มสาววัยไม่เกิน 30 ปี ใน '30 UNDER 30 2019' แห่งทวีปยุโรป</a></li>
</ul>
โดยเขาเชื่อว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่จะมีปัญหาเมื่อโอนกรรมสิทธิ์ไม่มาก ด้วยรายได้ 2 หมื่นบาทต่อเดือน ปลอดหนี้ เมื่อรับโอนแล้วมีภาระผ่อนราว 7,000-10,000 บาทนั้นสามารถผ่อนได้

<figure><img class="size-full wp-image-10503" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/4-Core-Functions-Smart-Closet-e1562855930315.jpg" alt="" width="800" height="450" /><figcaption> ภาพตัวอย่างตู้เสื้อผ้าและเก็บของ</figcaption></figure>

&nbsp;
<h2>ออริจิ้นโชว์ตัวเลข ทำยอดขายเหนือตลาด</h2>
ขณะที่ภาพรวมการดำเนินงานของออริจิ้นทั้งบริษัท พีระพงศ์เปิดเผยว่าออริจิ้นมียอดพรีเซลครึ่งปีแรกแล้ว 1.28 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายยอดพรีเซลทั้งปี 2.8 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าการทำยอดขายอีก 1.52 หมื่นล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเป็นไปตามเป้า เนื่องจากบริษัทยังเหลือโครงการที่จะทยอยเปิดตัวช่วงไตรมาส 3-4 ปีนี้อีกประมาณ 14 โครงการ มูลค่ารวมราว 1.7-1.8 หมื่นล้านบาท

นอกจากแบรนด์ ดิ ออริจิ้น ดังกล่าว บริษัทยังมีโครงการระดับไฮเอนด์ พาร์ค ออริจิ้น จุฬา-สามย่าน และ พาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี ที่เตรียมเปิดตัว รวมถึงโครงการต่างจังหวัดอย่าง ออริจิ้น ดิสทริค ระยอง และโครงการแนวราบแบรนด์ บริทาเนีย ในหลายทำเล อาทิ สนามบินสุวรรณภูมิ, วงแหวน-รามอินทรา, สายไหม, ลำลูกกา-คูคต ที่จะทยอยเปิดตัวบุกหนักในครึ่งปีหลัง

พีระพงศ์มองว่าปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมจะติดลบ 5-10% แต่บริษัทจะอยู่ในระดับทรงตัวหรือเติบโตเล็กน้อย (เมื่อปี 2561 ออริจิ้นสร้างยอดขายที่ 2.75 หมื่นล้านบาท)
<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/world/asia/%e0%b8%9e%e0%b8%b5%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9e%e0%b8%87%e0%b8%a8%e0%b9%8c-%e0%b8%88%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b8%8d%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%81-%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b9%89.html">พีระพงศ์ จรูญเอก ทศวรรษ “ออริจิ้นฯ” จัมพ์เอาท์เจ้าโปรเจกต์</a></li>
</ul>
“ปีนี้เราเน้นคอนโดฯ 1-2 ล้านบาท เจาะ First Jobber กับกลุ่มคอนโดฯ ไฮเอนด์ยูนิตละ 10 ล้านขึ้นไป เพราะสองกลุ่มนี้ไม่ถูกกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและภาวะหนี้ครัวเรือนสูง เศรษฐกิจปีนี้เราคิดว่ากระทบกับเซ็กเมนต์ระดับกลาง คอนโดฯ ตารางเมตรละ 1.0-1.5 แสนบาทมากที่สุด เราจึงหันไปพัฒนาบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮาส์แทนเพราะเป็น target กลุ่มคนที่ต้องสร้างครอบครัว” พีระพงศ์กล่าว

“ส่วนปีหน้ากลุ่มระดับกลางจะกลับมาสู่ cycle ขาขึ้นหรือไม่ขอ wait and see ก่อน”

&nbsp;

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events