<h2>ธุรกิจซื้อขายรถยนต์ยังคงวิ่งฉิวแม้เศรษฐกิจชะลอตัว ผลักให้ วรท กมลโชติรส วัย 33 ปี ก่อตั้งเว็บไซต์ CarParagon เป็นแพลตฟอร์มให้ผู้เข้าชมได้เทียบคุณสมบัติและราคาของรถจากตัวแทนจำหน่ายหลายสิบราย ก่อน “คลิก” ตัดสินใจสั่งซื้อ ตั้งเป้าขยายธุรกิจไปหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้</h2>
วรท ซึ่งคลุกคลีกับธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ทั้งยี่ห้อฟอร์ดและมิตซูบิชิ ก่อตั้ง บริษัท สมูทเลน จำกัด ร่วมกับ Kyungmin Bang เพื่อนนักศึกษาที่เรียนจบปริญญาโทด้วยกันจาก Stanford Graduate School of Business สร้างเว็บไซต์ CarParagon เพราะเล็งเห็นโอกาสที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่สนใจซื้อรถใหม่ได้เปรียบเทียบคุณสมบัติและราคาของรถแต่ละรุ่นจากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์รายต่างๆ

เมื่อความคิดดังกล่าวมีแนวโน้มเป็นไปได้ในเมืองไทย เขาและเพื่อนจึงเดินหน้าโดยใช้เงินก้อนแรกราว 6 ล้านบาท ก่อนที่ บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ จะร่วมทุนด้วยอีก 13 ล้านบาท ลงทุนพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ โดย Bang ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์อยู่แล้วเป็นหัวแรงหลัก

รวมทั้งทำการตลาด ซึ่งได้ Jonathan McKeever อดีตหัวหน้าแผนกการเดินทางและท่องเที่ยวของ FleishmanHillard ในอิตาลี มาเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดช่วยเสริมความแข็งแกร่ง เพื่อให้ CarParagon เป็นที่รู้จักในกลุ่มตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อย่างเป็นทางการ (Authorized Dealer) เป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อรถอีกทางหนึ่ง ขณะนี้มีตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ได้แก่ โตโยต้า ฮอนด้า มาสด้า ฟอร์ด วอลโว่ มิตซูบิชิ นิสสัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู ราว 40 ราย ใช้ช่องทางของ CarParagon เชื่อมไปสู่ผู้สนใจซื้อรถใหม่

จุดแข็งของเว็บไซต์อยู่ที่การรวบรวมข้อมูลของรถรุ่นต่างๆ ที่ตัวแทนจำหน่ายมีอยู่ขณะนั้น ให้ลูกค้าได้เปรียบเทียบคุณสมบัติ ราคา โปรโมชั่น และบริการ โดยผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถเลือกให้แสดงโชว์รูมที่ใกล้ที่สุดได้เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทาง หากผู้เข้าชมเลือกว่าจะซื้อรถจากโชว์รูมใดก็สามารถคลิกเพื่อแจ้งข้อมูลไปยังตัวแทนจำหน่าย จากนั้นตัวแทนจำหน่ายจะติดต่อกลับเพื่อดำเนินการซื้อขายรถ ซึ่งสถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์นับจากเปิดตัวราวกลางปีนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ 2,500 รายต่อวัน และเฉพาะเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สามารถปิดดีลการซื้อขายผ่านเว็บไซต์ได้ 50 ราย

“ในกรุงเทพฯ มีตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อที่คนไทยนิยมอยู่ประมาณ 500 outlets เราตั้งเป้าจะให้มีตัวแทนจำหน่าย 125 outlets ใช้ช่องทาง CarParagon และระหว่างนี้ก็จะพูดคุยกับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี ภูเก็ต ฯลฯ เพื่อที่ผู้เข้าชมเว็บที่อยู่ต่างจังหวัดสามารถใช้บริการของเราได้ คาดว่าจะได้เห็นในปีหน้า เรายังวางแผนจะขยายธุรกิจไปที่มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เนื่องจากมีความต้องการใช้รถสูง แต่ก็ต้องหาพันธมิตรที่จะร่วมมือกันได้” วรท บอก

ผู้บริหารหนุ่มให้รายละเอียดเรื่องรายได้ของเว็บไซต์ด้วยว่า ปัจจุบันเปิดให้ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ได้ใช้ช่องทาง CarParagon โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่รายได้จะเกิดขึ้นเมื่อมีการซื้อขายผ่านเว็บไซต์โดยคิดค่าคอมมิชชั่นเป็นเปอร์เซนต์ พร้อมคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายในปลายปี 2561

“ตอนนี้มีเว็บไซต์ที่เป็นช่องทางจำหน่ายรถอยู่หลายแห่งก็จริง แต่ส่วนมากมักเป็นรถยนต์มือสอง เราจึงไม่กังวลเรื่องคู่แข่ง หรือหากจะมีคู่แข่งที่เป็นช่องทางจำหน่ายรถใหม่เหมือนเราเกิดขึ้นก็จะดีใจมาก เพราะถือว่ามาช่วยกันสร้างความรับรู้และสร้างความคึกคักให้วงการซื้อขายรถ”  เขากล่าว

&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events