<h2>ช่วงที่ผ่านมาราคาสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด สู่ราคา 70,916 เหรียญสหรัฐต่อ Bitcoin (จากต้นปี 2567 ที่ราว 40,000 เหรียญสหรัฐต่อ Bitcoin) ทำให้หลายคนยิ่งให้ความสนใจมากขึ้น แต่ปีนี้จะมีปรากฎการณ์สำคัญที่ต้องจับตามองคือ Bitcoin Halving ว่าแต่สิ่งนี้คืออะไร และจะส่งผลกระทบต่อตลาดในภาพรวมอย่างไรบ้าง </h2> ที่ผ่านมา Bitcoin Halving เกิดขึ้นกี่ครั้ง และมีผลกระทบอย่างไร &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Bitcoin Halving คือ ปรากฏการณ์ที่ระบบกำหนดให้ ‘รางวัล’ (Bitcoin) จากการขุดมีจำนวนลดลง “ครึ่งหนึ่ง” ทุกๆ 210,000 บล็อก ซึ่งจะใช้เวลาโดยประมาณ 4 ปี ถือเป็นกลไกเพื่อจำกัดการเพิ่มปริมาณ Bitcoin และเป็นชุดคำสั่งที่ถูกฝังมาในการออกแบบ Bitcoin ตั้งแต่เริ่มต้น โดยที่ผ่านมาเกิด Bitcoin Halving มาแล้ว 3 ครั้ง และปี 2567 นี้จะเป็นครั้งที่ 4<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/rP2oFAkq6D8w4KWAsecU.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="rP2oFAkq6D8w4KWAsecU.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="877,440" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Gulf Binance เล่าถึง Bitcoin Halving ว่าเป็นกลไกเพื่อสร้างความมั่นคงและควบคุมจำนวน Bitcoin มองว่าใกล้เคียงกับอัตราเงินเฟ้อของสกุลเงินต่างๆ ซึ่ง Bitcoin ที่มีปริมาณจำกัด (21 ล้านเหรียญ) อาจนำไปสู่การแข็งค่าในระยะยาว และทำให้เหมาะสมต่อการเก็บรักษามูลค่าในระยะยาว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย Bitcoin Halving 3 ครั้งในอดีตที่ผ่านมา จากสถิติจะเห็นถึงแนวโน้มราคาที่เพิ่มขึ้น แม้บางช่วงจะเห็นการขายออกเพื่อทำกำไรจากราคาที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ประเมินว่า Bitcoin Halving ครั้งที่ 4 จะเกิดขึ้นช่วงวันที่ 19-20 เม.ย. 2567<div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/uP4fbJyqMWNCax6hKfXN.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="uP4fbJyqMWNCax6hKfXN.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="664,540" style="" data-index="1"><figcaption><div>​ที่มา Techopedia​</div></figcaption></figure></div>ก่อน Bitcoin Halving ครั้งที่ 4 ราคากลับ All-time high ไปแล้วจากนี้จะเป็นอย่างไร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นิรันดร์ เชื่อว่าปกติแล้วราคา&nbsp;Bitcoin จะทำ&nbsp;All-time high หลังการเกิด&nbsp;Bitcoin Halving แต่ในปีนี้สถานการณ์ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งอื่นๆ เนื่องจากปัจจุบันราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นไปค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา (ณ 12 เม.ย. Bitcoin ราคา 70,916 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีที่ราว 40,000 เหรียญสหรัฐ)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ปัจจัยที่อาจทำให้ราคา Bitcoin ไม่เพิ่มขึ้นหลัง Halving คือ หากเกิดสถานการณ์ที่กระทบความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรม เช่น สาเหตุที่ราคา Bitcoin ร่วงอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา มีทั้งกรณีเหรียญ LUNA เกิดปัญหาถูกแฮค หรือกระดานซื้อขาย Cryptocurrency ใหญ่ของโลกอย่าง FTX เกิดล้มละลาย เป็นต้น (ราคา Bitcoin ร่วงลงแรงที่สุดในปี 2565 ที่ลดเหลือ 16,000 เหรียญสหรัฐต่อ&nbsp;Bitcoin&nbsp;จากจุดสูงสุดก่อนหน้าที่ราว 64,000 เหรียญสหรัฐในปี 2564)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แต่ในภาพรวมมองว่า ราคา Bitcoin ยังมีความผันผวนเสมอ และหากมีสถานการณ์ไม่คาดคิดขึ้นอาจส่งผลกระทบในระยะสั้น แต่ในระยะยาว Bitcoin ยังมีปัจจัยที่สนับสนุนด้านราคาได้ เช่น ความต้องการ Bitcoin ที่เพิ่มขึ้น และช่วงที่ผ่านมาเกิด Bitcoin ETFs ซึ่งกระตุ้นความสนใจจากสถาบันการเงิน และเห็นการนำเม็ดเงินบางส่วนเข้ามาในตลาด Cryptocurrency มากขึ้น อีกทั้งยังมีนวัตกรรมอื่นๆ เช่น มาตรฐาน Token BRC-20 ที่ใช้งานใน Ordinals Protocol ที่จะพัฒนาระบบของตลาดต่อไป<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/tMKo5A45sqGeG5VtUVfU.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="tMKo5A45sqGeG5VtUVfU.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,552" style="" data-index="2"><figcaption><div>​นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Gulf Binance​</div></figcaption></figure></div>เมื่อสถาบันการเงินถือครอง BItcoin มากขึ้น อาจส่งผลต่อความผันผวนราคาแค่ไหน&nbsp; &nbsp; &nbsp;ด้านการถือครอง Bitcoin&nbsp;ในตลาด นิรันดร์ ยกข้อมูลจากงานวิจัยว่า หลังจาก Bitcoin ETFs เปิดตัวมาได้ 3 เดือน มีจำนวนรวม 11 กองทุน ซึ่งมีการถือครอง BItcoin ราว 800,000 เหรียญ ซึ่งถือว่าเติบโตเร็วมาก ขณะที่ Binance (Global) มีการถือครองราว 500,000 เหรียญ จากตอนนี้ที่มี Bitcoin ขุดแล้วราว 19-20 ล้านเหรียญ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ แม้ตามหลักแล้วสถาบันการเงินผู้ถือครอง Bitcoin อาจเทขายได้ เหมือนกับการเทขายหลักทรัพย์และหุ้นอื่นๆ ซึ่งหากมีการเทขายออกทั้งหมดย่อมจะส่งผลต่อราคาเหรียญให้ลดต่ำลง แต่มองว่า ETFs เป็นกองทุนที่ขึ้นอยู่กับความเคลื่อนไหวของทั้งตลาดมากกว่า และมองว่าสถาบันฯ จะมุ่งถือครอง Bitcoin มากกว่าจะเทขาย Binance TH เตรียมแคมเปญให้ความรู้ Bitcoin Halving คาดสิ้นปีนี้ จะมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 2 ของไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในปี 2567 นี้ ทาง Binance TH ได้เตรียมแคมเปญเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในสินทรัพย์ดิจิทัลและ Bitcoin Halving ซึ่งจะเปิดตัวช่วงหลังสงกรานต์ 2567 อย่างไรก็ตาม หลังการเปิดตัว Binance TH อย่างเป็นทางการเมื่อ ม.ค. ปีนี้พบว่าบริษัทมียอดการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันเชื่อว่ามีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับที่ 3-4 ของศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย อีกทั้ง คาดว่าสิ้นปีนี้จะขยับสู่อันดับ 2 และยังคงเป้าหมายการขึ้นเป็นอันดับ 1 ในระยะยาว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันแม้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลฯ&nbsp;ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดของไทยจะมีสัดส่วนถึง 80% แต่ทางบริษัทเชื่อว่า ด้วยจุดเด่นและความเชี่ยวชาญจาก Binance รวมถึงการนำเหรียญที่น่าสนใจเข้ามาในตลาดไทยได้เร็วเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดนักลงทุนได้สามารถนำเหรียญที่น่าสนใจและอยู่ในสายตานักเข้ามาในตลาดได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ความท้าทายหลักในไทยคือ เรื่องภาษีที่ยังไม่ชัดเจน เช่น กรณีการนำเหรียญเข้ามาในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลฯ ไทย จะคำนวนกำไร ระบุจุดที่เป็นต้นทุนอย่างไรเพื่อเสียภาษี ความกังวลเหล่านี้ทำให้นักลงทุนไทยส่วนใหญ่ยังซื้อขายผ่านระบบ P2P (Peer to Peer) ดังนั้นหากภาครัฐมีความชัดเจนขึ้นเชื่อว่าจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมมากขึ้น เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://www.forbesthailand.com/video/the-key-success-og-beauty-gems" alt="&quot;รับปากแล้ว ต้องทำให้ได้&quot; หัวใจความสำเร็จ 60 ปี Beauty Gems - สุริยน ศรีอรทัยกุล">"รับปากแล้ว ต้องทำให้ได้" หัวใจความสำเร็จ 60 ปี Beauty Gems - สุริยน ศรีอรทัยกุล</a> ​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events