<h2>ความต้องการมาสก์ดูแลผิวของ GP Club ที่มาแรงในจีนได้เปลี่ยนให้ Kim Jung-woong เจ้าของกิจการเกมกลายเป็นนักธุรกิจเครื่องสำอางรายใหญ่</h2>
Liu Jing วัย 32 ปี เดินทางมาเที่ยว Seoul จากชายฝั่งตะวันออกของจีน นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ อาจใช้เวลาเที่ยวชมเมือง แต่ไม่ใช่ Liu ผู้ซึ่งกำลังต่อแถวหลังเพื่อนร่วมชาติอย่างน้อย 12 คนในร้านค้าปลอดอากรรอให้ถึงคิวของเธอเพื่อซื้อแผ่นมาสก์หน้าของ JM Solution แต่ละกล่องมีมาสก์ 10 แผ่น ราคาประมาณ 30 เหรียญสหรัฐฯ แต่ Liu จะไม่เดินออกไปพร้อมมาสก์แค่กล่องเดียว

สำหรับเงินเทียบเท่ากับ 18,000 เหรียญนั้น เธอและคนอื่นๆ ซื้อตู้บรรจุมาสก์ขนาดเท่ากับตู้เย็น 3 ตู้ ซึ่งมีขนาดใหญ่จนต้องใส่รถเข็นกลับไป

Liu ไม่ได้ซื้อมาสก์ไปใช้เอง เธอคือ daigou ซึ่งเป็นคำภาษาจีนใช้เรียกนักรับหิ้วของที่เดินทางไปต่างแดนเพื่อกว้านซื้อผลิตภัณฑ์ดังๆ และเอากลับมาขายต่อในประเทศตัวเอง

นักรับหิ้วของแบบ Liu เป็นส่วนหนึ่งที่ดันให้ Kim Jung-woong ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ GP Club เข้ามาสู่ทำเนียบ Korea’s 50 Richest ของเราที่อันดับ 30 ด้วยทรัพย์สินสุทธิที่ราว 1.15 พันล้านเหรียญ

<img class="alignnone wp-image-26592 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/02/มาส์กหน้า-GP-Club-03.jpg" alt="Kim Jung-woong ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ GP Club" width="350" height="525" />

Kim ปัจจุบันอายุ 44 ปี เริ่มทำร้านวิดีโอเกมของตัวเองในช่วงมัธยมปลาย และภายใน 10 ปีก็ทำเงินได้มากพอสู่การรุกตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับเล่นเกมของจีน อีก 10 ปีหลังจากนั้น เขาก็มุ่งสู่ธุรกิจเครื่องสำอางในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่หลังเกิดความขัดแย้งทางการทูต ที่เริ่มขึ้นในปี 2016 และจุดชนวนการคว่ำบาตรสินค้าเกาหลีในจีน

Kim ได้บ่มเพาะจำนวนผู้ติดตามอย่างกลุ่มผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียลของจีน ซึ่งปลุกให้เกิดการหลั่งไหลของนักรับหิ้วของที่ตั้งใจเลี่ยงการแบนและส่งมาสก์ของ GP Club จากเกาหลีกลับไปขายในจีนด้วยตัวเอง

เส้นทางของ Kim สู่ตลาดมาสก์หน้ามูลค่า 1.5 หมื่นล้านเหรียญต่อปีของจีนนั้นยาวไกลและคดเคี้ยว เมื่อ Kim อายุ 15 ปี พ่อของเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ ทิ้งให้แม่และย่าเลี้ยงดูเขารวมถึงพี่ชายและพี่สาว ความยากลำบากจุดไฟแห่งการเป็นเจ้าของธุรกิจของเขา

“ในช่วงแรก ผมมีแรงขับเคลื่อนมาจากความต้องการหาเงิน” เขากล่าว Kim เป็นเกมเมอร์ตัวยงเช่นเดียวกับวัยรุ่นหลายๆ คน เขาทำงานพาร์ตไทม์ที่ร้านวิดีโอเกมเล็กๆ แห่งหนึ่งของคู่สามีภรรยาสูงวัย

ความคลั่งไคล้เกมของ Kim กลายมาเป็นความสามารถในการขายเกมอย่างรวดเร็ว ด้วยเงินเก็บ 4,000 เหรียญจากการทำงาน และอีก 3,000 เหรียญที่หยิบยืมครอบครัวมา Kim เปิดร้านขายวิดีโอเกมและเกมคอนโซลเล็กๆ ของตัวเองที่อะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง และตั้งชื่อว่า Game Paradise ซึ่งเป็นที่มาของ GP Club ในทุกวันนี้

ความคลั่งไคล้วงเกาหลีและละครทีวีระลอกใหม่ นำไปสู่ความอยากมีผิวฉ่ำวาวขาวใสเหมือนดารา ซึ่งก็คือ เทรนด์ความงามแบบเกาหลี แบรนด์ความงามยักษ์ใหญ่สุดของเกาหลีส่งออกสินค้าไปจีนมาหลายปีแล้วและตอนนี้แม้กระทั่งแบรนด์เล็กกว่าก็สามารถขายสินค้าออนไลน์ให้ผู้บริโภคจีนได้หรือขายให้กับชาวจีนที่มาเที่ยวเกาหลี ซึ่งเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว

คลื่นความนิยมเกาหลีระลอก 2 เป็นโอกาสให้ Kim ได้ใช้ประโยชน์จากสายสัมพันธ์ที่มีอยู่ในจีน และในปี 2013 GP กลายเป็นผู้จัดจำหน่ายแบรนด์เกาหลี ที่ยังคงพยายามเกาะกระแสคลื่นความงามเกาหลีเข้าไปสู่ตลาดจีน

<img class="alignnone size-full wp-image-26593" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/02/มาส์กหน้า-GP-Club-04.jpg" alt="" width="600" height="339" />

ในเดือนเมษายน 2016 Kim เปิดตัวแบรนด์สบู่อาบน้ำและโลชั่นของตัวเองขึ้นมา ชื่อ JM Solution ที่ย่อมาจาก “การเดินทางสู่ความมหัศจรรย์” ไลน์ผลิตภัณฑ์แรกของ JM กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ก็ต้องสะดุดลงเร็วกว่าคาด เมื่อเกาหลีเห็นพ้องตอบรับการวางระบบต่อต้านขีปนาวุธของสหรัฐฯ ชื่อ THAAD เข้ามาในประเทศ ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกันขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในฤดูร้อนปี 2016

ขณะที่สื่อรัฐบาลยังกระตุ้นให้ผู้บริโภคจีนไม่ใช้สินค้าเกาหลีด้วย ทำให้ยอดขายของ GP เองก็ไม่รอด “ผมสูญเงินไปพันล้านวอนที่ไม่สามารถเอากลับมาได้จากหุ้นส่วนค้าปลีกรายหนึ่ง เราถูกยกเลิกคำสั่งซื้อมูลค่า 3 พันล้านวอน” Kim กล่าว

“ผู้คนบอกผมตรงๆ ว่าให้ ‘หยุดผลิต’” แต่เขาไม่ทำเช่นนั้น ตรงข้าม Kim ลงทุนเงินทั้งหมดที่เขามีในตอนนั้นคือ 1.5 พันล้านวอนไปกับผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งก็คือ แผ่นมาสก์หน้า โดยแตกต่างจากมาสก์หน้าแบบเดิมๆ ที่ต้องทามาสก์เปียกๆ ลงบนผิว แล้วปล่อยให้แห้งก่อนลอกออกมาหรือไปล้างออก แผ่นมาสก์หน้านี้เป็นแผ่นทิชชูบางๆ ที่ตัดมาพอดีกับใบหน้า เว้นช่องไว้ตรงตาและปาก และเคลือบด้วยสารที่ให้ความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิว ผู้บริโภคจีนต่างซื้อมาสก์นี้เป็นมูลค่า 1.5 หมื่นล้านเหรียญต่อปี ตามข้อมูลของ Bain &amp; Co

GP มุ่งที่จะโตอย่างก้าวกระโดดเพียงอย่างเดียวในจีนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว บริษัทยังต้องจัดการกับความเสียหายที่เกิดจากแบรนด์จำนวนมากมายที่นั่นด้วย นั่นก็คือของปลอม “มีสินค้าปลอมแล้วในตลาดจีน” ขณะที่ Kim หวังว่าการขายหุ้นไอพีโอ IPO จะทำให้ GP มีเงินสดที่จำเป็นต้องใช้ในการเชื่อมส่วนที่แบ่งแยกเหล่านั้นไว้ด้วยกัน แต่เมื่อพิจารณาจากทุกอย่างแล้ว ความสำเร็จเป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวสำหรับ Kim ผู้ที่รู้สึกว่าพ่อเสียชีวิตไปก่อนเวลาอันควร

“ความฝันของผมคือ สามารถใช้ชีวิตที่ดีขึ้นอยู่อย่างสุขสบายร่วมกับครอบครัว”

เรื่อง: Grace Chung เรียบเรียง: ชูแอตต์

<hr />

<a href="https://bit.ly/39j1ZrV">คลิกอ่านฉบับเต็ม "เบื้องหลัง GP Club มาสก์ดูแลผิวของ Kim Jung-woong" ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับมกราคม 2563 ได้รูปแบบ e-magazine</a>

<a href="https://bit.ly/39j1ZrV"><img class="alignnone wp-image-25422 size-medium" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/FB080-EBOOK-RES150_Page_001-229x300.jpg" alt="" width="229" height="300" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events