Forbes วิเคราะห์มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตรปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจมากกว่า 100 แห่ง พร้อมส่งคำถามง่ายๆ คือ “MBA ของคุณคุ้มค่าหรือไม่?” ให้กับศิษย์เก่า 17,500 คนรอบโลก เพื่อค้นหาคำตอบว่า เรียน MBA ที่ไหนดี จากผู้เรียนจริง

คำถามที่เหมือนง่ายนี้บางครั้งก็ตอบไม่ได้ง่ายๆ หากเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการเรียน MBA ซึ่งในมหาวิทยาลัยระดับท็อปอาจมีค่าเทอมสูงถึง 350,000 เหรียญสหรัฐฯ ดังนั้นเราจึงช่วยตอบคำถามนี้โดยการให้เหล่าบัณฑิตเปรียบเทียบรายได้ของตนเองว่า หลังเรียนจบ MBA มาได้ 5 ปี พวกเขาทำเงินได้สูงขึ้นมากแค่ไหน

จากการสำรวจบรรดาศิษย์เก่า Forbes พบว่า การได้รับปริญญาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำยังคงมีคุณค่า เพราะสามารถใช้เพิ่มฐานรายได้ได้ครอบคลุมกับค่าใช้จ่ายที่เสียไปภายในเวลา 4 ปี

โดยศิษย์เก่าผู้เข้าเรียนปีการศึกษา 2014 ในมหาวิทยาลัยชั้นนำ 25 อันดับแรกของสหรัฐอเมริกา สามารถเพิ่มรายได้เฉลี่ยเป็น 193,000 เหรียญต่อปีภายในปี 2018 จากเดิมที่เคยมีรายได้เฉลี่ย 73,000 เหรียญต่อปีก่อนเข้า เรียน MBA นั่นหมายความว่า พวกเขาสามารถเพิ่มฐานรายได้เฉลี่ยปีละ 10% หลังคว้าปริญญา MBA

ทั้งนี้ Forbes ได้แบ่งการจัดอันดับออกเป็นมหาวิทยาลัยภายในประเทศสหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัยทั่วโลกยกเว้นสหรัฐอเมริกา ดังนี้

10 หลักสูตร MBA ที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกาประจำปี 2019

อันดับ 1

มหาวิทยาลัย: Booth - University of Chicago เมือง: Chicago รัฐ: Illinois จำนวนรับสมัครต่อปี: 591 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 730 ค่าใช้จ่าย: 149,032 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 94,400 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 2

มหาวิทยาลัย: Stanford Business School of Graduate เมือง: Palo Alto รัฐ: California จำนวนรับสมัครต่อปี: 419 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 732 ค่าใช้จ่าย: 143,526 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 90,800 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 3

มหาวิทยาลัย: Kellogg - Northwestern University เมือง: Evanston รัฐ: Illinois จำนวนรับสมัครต่อปี: 478 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 740 ค่าใช้จ่าย: 150,108 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 89,600 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 4

มหาวิทยาลัย: Harvard Business School เมือง: Boston รัฐ: Massachusetts จำนวนรับสมัครต่อปี: 930 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 730 ค่าใช้จ่าย: 161,428 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 86,500 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 5

มหาวิทยาลัย: Wharton - University of Pennsylvania เมือง: Philadelphia รัฐ: Pennsylvania จำนวนรับสมัครต่อปี: 862 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 732 ค่าใช้จ่าย: 158,326 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 84,700 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 6

มหาวิทยาลัย: Tuck School of Business - Dartmouth College เมือง: Hanover รัฐ: New Hampshire จำนวนรับสมัครต่อปี: 287 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 720 ค่าใช้จ่าย: 152,923 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 82,700 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 7

มหาวิทยาลัย: Columbia Business School เมือง: New York รัฐ: New York จำนวนรับสมัครต่อปี: 756 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 740 ค่าใช้จ่าย: 159,669 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 80,900 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 8

มหาวิทยาลัย: Sloan School of Management - MIT เมือง: Cambridge รัฐ: Massachusetts จำนวนรับสมัครต่อปี: 409 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 730 ค่าใช้จ่าย: 154,240 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 80,900 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 9

มหาวิทยาลัย: SC Johnson - Cornell University เมือง: Ithaca รัฐ: New York จำนวนรับสมัครต่อปี: 280 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 700 ค่าใช้จ่าย: 141,838 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 78,300 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 10

มหาวิทยาลัย: Ross School of Business - University of Michigan, Ann Arbor เมือง: Ann Arbor รัฐ: Michigan จำนวนรับสมัครต่อปี: 423 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 720 ค่าใช้จ่าย: 140,347 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 78,000 เหรียญสหรัฐฯ

10 หลักสูตร MBA ที่ดีที่สุดจากทั่วโลก (ยกเว้นสหรัฐฯ) ประจำปี 2019

*จัดอันดับเฉพาะหลักสูตรระยะ 1 ปี

อันดับ 1

มหาวิทยาลัย: IMD เมือง: Lausanne ประเทศ: สวิตเซอร์แลนด์ จำนวนรับสมัครต่อปี: 90 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 680 ค่าใช้จ่าย: 85,048 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 168,900 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 2

มหาวิทยาลัย: Insead เมือง: Fontainebleau และมีแคมปัสในสิงคโปร์ ประเทศ: ฝรั่งเศส, สิงคโปร์ จำนวนรับสมัครต่อปี: 1,032 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 710 ค่าใช้จ่าย: 89,540 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 154,700 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 3

มหาวิทยาลัย: Judge Business School - University of Cambridge เมือง: Cambridge ประเทศ: สหราชอาณาจักร จำนวนรับสมัครต่อปี: 206 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 700 ค่าใช้จ่าย: 65,349 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 153,000 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 4

มหาวิทยาลัย: SDA Bocconi School of Management เมือง: Milan ประเทศ: อิตาลี จำนวนรับสมัครต่อปี: 108 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 665 ค่าใช้จ่าย: 57,200 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 133,500 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 5

มหาวิทยาลัย: Said Business School - University of Oxford เมือง: Oxford ประเทศ: สหราชอาณาจักร จำนวนรับสมัครต่อปี: 315 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 690 ค่าใช้จ่าย: 71,000 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 127,300 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 6

มหาวิทยาลัย: IE Business School เมือง: Madrid ประเทศ: สเปน จำนวนรับสมัครต่อปี: 667 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 686 ค่าใช้จ่าย: 79,098 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 104,300 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 7

มหาวิทยาลัย: Indian School of Business (ISB) เมือง: Hyderabad ประเทศ: อินเดีย จำนวนรับสมัครต่อปี: 896 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 710 ค่าใช้จ่าย: 36,610 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 90,500 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 8

มหาวิทยาลัย: Warwick Business School เมือง: Coventry ประเทศ: สหราชอาณาจักร จำนวนรับสมัครต่อปี: 115 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 660 ค่าใช้จ่าย: 48,087 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 83,800 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 9

มหาวิทยาลัย: Mannheim Business School เมือง: Mannheim ประเทศ: เยอรมนี จำนวนรับสมัครต่อปี: 55 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 680 ค่าใช้จ่าย: 42,367 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 83,000 เหรียญสหรัฐฯ

อันดับ 10

มหาวิทยาลัย: ESMT Berlin เมือง: Berlin ประเทศ: เยอรมนี จำนวนรับสมัครต่อปี: 51 คน คะแนน GMAT เฉลี่ย: 650 ค่าใช้จ่าย: 49,000 เหรียญสหรัฐฯ หลังเรียนจบ 5 ปี บัณฑิตทำรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย: 81,600 เหรียญสหรัฐฯ

อ่านเพิ่มเติม

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine