<h2>Stanley Ho มหาเศรษฐีชาวอ่องกง และ ชายผู้อยู่เบื้องหลังอาณาจักรกาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เสียชีวิตลงด้วยวัย 98 ปี ส่งต่ออาณาจักรแห่งการเสี่ยงโชคให้ทายาทบริหารต่อไป</h2>
Ho ก่อร่างอาณาจักรกาสิโนของเขาโดยการบริหารของ SJM Holdings ภายใต้การปกครองของโปรตุเกสที่สร้างเกาะมาเก๊าแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการเสี่ยงโชคที่ใหญ่ที่สุดในโลก และวางมือจาก SJM Holdings ในปี 2018 ด้วยตำแหน่งประธานใหญ่ของบริษัท

Ho แบ่งอาณาจักรกาสิโนของเขาให้กับสมาชิกในครอบครัวที่ประกอบไปด้วยภรรยา 4 คน รวมถึงบุตรราว 17 คน ที่หลายๆ คน นั่งบริหารในตำแหน่งสำคัญๆ ของกลุ่ม

Pansy Ho บุตรสาวผู้มีอายุมากที่สุดจากภรรยาคนที่สองที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับการจัดอันดับเป็นมหาเศรษฐีหญิงที่ร่ำรวยที่สุดในฮ่องกงปัจจุบันมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ราว 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเธอเข้ามาบริหารงานแทนบิดาในตำแหน่งประธานแห่ง Shun Tak Holdings บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ให้บริหารเรือข้ามฟากระหว่างฮ่องกงและมาเก๊า รวมไปถึงธุรกิจโรงแรม

ด้านน้องสาวของเธอ Daisy Ho นั่งตำแหน่งประธานที่ SJM Holdings ต่อจาก Stanley Ho ที่ประกาศวางมือจากตำแหน่ง และ Lawrence Ho บุตรชายจากภรรยาคนที่สองบริหารธุรกิจ Melco Resorts ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ Nasdaq ผ่าน Melco International Development บริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกง โดยเขามีมูลค่าทรัพย์อยู่ที่ราว 2 พันล้านเหรียญฯ

ขณะที่ Angela Leong บุตรสาวจากภรรยาคนที่ 4 ในฐานะประธานร่วมบริหาร SJM และ ผู้ถือหุ้นลำดับ 2 มีทรัพย์สินอยู่ที่ราว 3.2 พันล้านเหรียญฯ

Ho ได้รับฉายาว่า “เจ้าพ่อมาเก๊า” เป็นหลานทวดของ Robert Hotung มหาบุรุษแห่งฮ่องกง เขาเกิดในครอบครัวที่มั่งคั่ง แต่จากผลกระทบจากการขยายอาณาจักรของญี่ปุ่นเมื่อปี 1941 ทำให้ต้องย้ายไปตั้งหลักที่มาเก๊าและเริ่มสร้างฐานะการเงินด้วยการขนส่งสินค้าไปยังเมืองจีน บารมีเขาทำให้ปี 1962 Stanley Ho ผนึกกลุ่มนักลงทุนและชนะสิทธิการบริหารธุรกิจการพนันทั้งหมดในเกาะมาเก๊าเป็นเวลายาวนาน

หลังจากมาเก๊ากลับไปอยู่ภายใต้การปกครองของจีน ดูเหมือนว่าการปกครอง 400 ปีของโปรตุเกสให้กับเขาคือสิทธิการบริหารด้านการพนันของกลุ่ม SJM Holdings ซึ่งปัจจุบันประกอบไปด้วย Galaxy Entertainment Group Melco Resorts &amp; Entertainment, MGM China Holdings, Sands ในประเทศจีน และ Wynn มาเก๊า

Ho เคยประสบอุบัติเหตุทางด้านศรีษะที่บ้านพักราวกลางปี 2009 ถึงขั้นผ่าตัดสมอง และต้นปี 2011 ทายาทรุ่นสองและรุ่นสามต่างเริ่มเข้ามาสานต่อธุรกิจที่เขาสร้างไว้

เรียบเรียงจากบทความ  Legendary Casino Kingpin Stanley Ho Dies At Age 98 ที่เผยแพร่บน Forbes.com


คลิกอ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/lawrence-ho-%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b9%82%e0%b8%99%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b9%8a%e0%b8%b2.html">‘Lawrence Ho’ กับยุครุ่งเรืองของทายาทธุรกิจกาสิโนแห่ง Macau</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดบทความด้านธุรกิจ ติดตามได้ที่ Facebook: Forbes Thailand Magazine</a>

&nbsp;

Stanley Ho ผู้สร้างอาณาจักรกาสิโนแห่งมาเก๊าเสียชีวิตด้วยวัย 98 ปี

<h2>แม้จะเป็นเศรษฐีพันล้านผู้บริหารกาสิโนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ Francis Lui แห่ง Galaxy Entertainment Group กลับชอบทำตัวติดดิน ผู้โดยสารในเรือเฟอร์รี่จากฮ่องกงไป Macau อาจได้กระทบไหล่เขาจริงๆ ในชั้นโดยสารราคาประหยัด แต่อย่าทำเป็นเล่นไป</h2>
แม้ Francis Lui ใกล้อายุ 63 ปีแล้ว เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ชนะรายใหญ่ของ Macau ต่อจากเจ้าพ่อกาสิโนระดับตำนาน Stanley Ho และกลายเป็นหน้าเป็นตาของวงการพนันในอดีตเขตปกครองของโปรตุเกสแห่งนี้ได้ จากรายงานของ JPMorgan และ Sanford Bernstein กล่าวว่า Galaxy น่าจะสร้างกำไรได้ 1.3 หมื่นล้านเหรียญฮ่องกง (1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในปี 2018 ซึ่งคิดเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิของบริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวโยงกับตระกูล Ho อย่าง SJM Holdings, Melco Entertainment และ MGM China รวมกันซึ่งคาดไว้ 6.2 พันล้านเหรียญฮ่องกง

Galaxy Group โชว์ฝีมือด้วยการนำ Macau ให้เปลี่ยนจากการไล่ล่านักพนันกระเป๋าหนักเหมือนล่าฝูงวาฬ มาเป็นการกวาดต้อนคลื่นนักพนันรายได้ปานกลางจากจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งกลุ่มใหญ่กว่า และขนเงินมาให้เยอะกว่ากันมาก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เป็นสิ่งที่วางแผนไว้แล้ว เพราะ Macau และหน่วยงานรัฐบาลปักกิ่งต้องการเพิ่มความหลากหลายให้เศรษฐกิจของ Macau และผลักดันเป็น “ศูนย์กลางของโลก” ด้านการท่องเที่ยวและพักผ่อน จึงสนับสนุนให้กาสิโนหาจุดขายเพิ่มอีก

นอกเหนือจากการพนัน เช่น การช็อปปิ้ง ร้านอาหาร และสิ่งบันเทิงโมเดลนี้เคยเปลี่ยนแปลง Las Vegas ให้มีรายได้ 2 ใน 3 จากกิจกรรมที่ไม่ใช่การพนัน และแม้สิงคโปร์จะเห็นผลน้อยกว่า แต่ก็มีรายได้ 1 ใน 5 มาจากสิ่งอื่นนอกเหนือจากการพนัน ส่วน Macau ยังต้องไปอีกไกล เพราะตอนนี้รายได้ที่ไม่ได้มาจากการพนันยังมีเพียง 1 ใน 10 แต่ก็หมายถึง Galaxy ยังมีที่ว่างให้โตอีกมาก

<img class="alignnone size-full wp-image-10316" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/Fransis-Lui-06.jpg" alt="" width="638" height="425" />

แม้การพนันจะยังเป็นตัวขับเคลื่อนการท่องเที่ยว Macau ต่อไปในอนาคตอันใกล้ แต่ลูกค้าจากแผ่นดินใหญ่ที่มีความต้องการซับซ้อนมากขึ้นย่อมอยากได้สิ่งอื่นเพิ่มขึ้น “เราเชื่อว่าตลาดแมสจะเป็นจุดเติบโตในอนาคต ขับเคลื่อนโดยกลุ่มคนรายได้ปานกลางจากประเทศจีนที่เพิ่มขึ้นและกลุ่มอื่นๆ อย่างลูกค้ากลุ่ม MICE การประชุม (meetings) การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (incentives) การจัดงานประชุมใหญ่ (conventions) และการแสดงสินค้าและนิทรรศการ (exhibitions)” Lui ซึ่งเป็นรองประธานกรรมการของ Galaxy กล่าว

ดังนั้น นอกจากการพนัน Galaxy Macau จึงเริ่มโฟกัสเรื่องอาหาร เพราะแม้นักเดินทางชาวจีนจะอยากลองอาหารนานาชาติบ้าง แต่สุดท้ายก็มักเลือกสิ่งที่คุ้นเคย Galaxy Macau จึงมีร้านอาหารตำรับกวางตุ้งเป็นทางเลือกให้แขก 16 ร้าน โดยมีร้านอาหารจีน ตำรับอื่น 9 ร้าน และร้านอาหารตำรับ Macau อีก 9 ร้าน รวมเป็นร้านอาหารจีนตำรับท้องถิ่น 18 ร้าน ขณะที่คู่แข่งอย่าง Wynn Palace มีร้านอาหาร 15 ร้าน และ MGM Cotai มี 10 ร้าน

<img class="alignnone size-full wp-image-10308" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/Fransis-Lui-04.jpg" alt="" width="638" height="426" />

Galaxy ก้าวขึ้นมาเป็นต่อด้วยการชิงสัมปทานกาสิโนใน Macau ระยะเวลา 20 ปีมาได้เมื่อต้นปี 2002 ตอนนั้น Galaxy ไม่มีประสบการณ์ด้านการพนัน แถมยังต้องตั้งหลักใหม่หลังจากจบความเป็นหุ้นส่วนในช่วงสั้นๆ กับมหาเศรษฐีอเมริกัน Sheldon Adelson แห่ง Las Vegas Sands ผู้พัฒนา Venetian Macao ที่กลายมาเป็นคู่แข่ง Lui เล่าว่าเขาและบิดาวัย 89 ปี Lui Che Woo ประธานกรรมการของ Galaxy ใช้ความไร้ประสบการณ์ของบริษัทให้เป็นประโยชน์ “เราไม่มีมรดกตกทอด จึงไม่มีวิธีการทำงานที่ตายตัว”

ในปี 2004 Galaxy เริ่มเรียนรู้เรื่องการพนันโดยก่อตั้งกาสิโนชื่อ City Clubs 4 แห่งในโรงแรมของบริษัทอื่น โดยโรงแรมพร้อมกาสิโนแห่งแรกของ Galaxy คือ StarWorld ซึ่งเปิดเมื่อเดือนตุลาคม 2006 และตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Wynn Macau ในย่านศูนย์รวมการพนันใจกลางคาบสมุทรแห่งนี้ มุ่งจับนักพนันกระเป๋าหนัก “มันเป็นประสบการณ์เล็กๆ ที่มีแค่มิติเดียว” Lui กล่าวถึง StarWorld “สิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างสร้างมาเพื่อนักพนันจริงๆ”
<ul>
 	<li>อ่านเพิ่มเติม <a href="https://forbesthailand.com/world/%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a1-10-%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a8.html">10 อันดับ มหาเศรษฐีฮ่องกง ที่มั่งคั่งที่สุดประจำปี 2019</a></li>
</ul>
หลังจากแยกกับ Adelson ในปี 2002 Francis Lui ตั้งเป้าหมายสำหรับ Galaxy ไว้ที่ย่าน Cotai และกลายเป็นกาสิโนแห่งที่ 3 ในพื้นที่นี้ Galaxy Macau ใช้เงินลงทุน 14.9 ล้านเหรียญฮ่องกง สร้างบนที่ดินขนาด 4.27 ล้านตารางฟุตใน Cotai และ Lui ก็ได้โอกาส พลิกวงการด้วยรีสอร์ตที่ดึงดูดทั้งนักพนัน กระเป๋าหนักและตลาดแมส Galaxy สร้างคอมเพล็กซ์ใน Cotai โดยแบ่งเป็นหลายเฟส เฟสแรกเสร็จในปี 2011 และเฟสที่ 2 เสร็จ ในปี 2015 ใช้เงินลงทุนรวม 5 พันล้านเหรียญ สหรัฐฯ และเพิ่มห้องพักจาก 2,300 ห้องเป็น 3,800 ห้อง ใบอนุญาตกาสิโนของ Galaxy จะหมดอายุ ในปี 2022 แต่ Lui มั่นใจว่าความสัมพันธ์ อันดีที่บริษัทมีกับรัฐบาล Macau จะช่วยให้ “วิน-วิน” กันทั้งสองฝ่าย

ตอนนี้บริษัทกำลังสร้าง Galaxy Macau เฟส 3 และ 4 ซึ่งจะเพิ่มห้องพักอีก 4,500 ห้อง โดยเฟส 3 เล็งจับตลาดกลุ่ม MICE ด้วยพื้นที่จัดประชุม ขนาด 4 แสนตารางฟุตและอารีน่า 16,000 ที่นั่ง และสะพานฮ่องกง-Zhuhai-Macau ที่เพิ่งเปิดใช้งานก็จะช่วยให้ Macau เข้าถึงผู้มาเยือน 80 ล้านคนต่อปีที่เดินทางผ่าน สนามบินนานาชาติฮ่องกงได้

<hr />

<a href="https://buffet.ookbee.com/magazine/forbes/issue/1969cee6-51e1-4127-a766-351d15a867b8">คลิกอ่านบทความฉบับเต็มของ “ดาวเรียงรายให้ Galaxy” ในนิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ มิถุนายน 2562 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<a href="https://buffet.ookbee.com/magazine/forbes/issue/1969cee6-51e1-4127-a766-351d15a867b8"><img class="alignnone wp-image-8479" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/06/cover-june.jpg" alt="" width="314" height="410" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events