<h2>SABINA ปิดดีลซื้อหุ้น “โมดา” ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกในฟิลิปปินส์ รุกถือหุ้นใหญ่ 77.33% ของทุนจดทะเบียน พร้อมเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศ มั่นใจธุรกิจเติบโตตามอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ เผย “โมดา” เตรียมเพิ่มร้านค้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วฟิลิปปินส์เป็น 44 แห่งภายในปีนี้ ตั้งเป้ารายได้แตะ 200 ล้านบาทภายใน 5 ปี</h2>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/03/c3QHvVwewih6Qqn945WD.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="c3QHvVwewih6Qqn945WD.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="350,467" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในภายใต้แบรนด์ “ซาบีน่า” โดย ดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลงนามร่วมกับ Cecilia Valdez-Saculo ผู้บริหาร บริษัท โมดา เอสบีเอ็น จำกัด (Moda SBN) ซึ่งประกอบธุรกิจค้าปลีก และเป็นตัวแทนจำหน่าย (Distributor) สินค้าแบรนด์ “ซาบีน่า” ในประเทศฟิลิปปินส์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หลังจากบริษัท ซาบีน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SABINA บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อหุ้น “โมดา” ในสัดส่วน 77.33% ของทุนจดทะเบียน โดยการลงนามดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประเทศฟิลิปปินส์&nbsp;&nbsp;&nbsp; ดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA เปิดเผยว่า การตัดสินใจเข้าซื้อหุ้น “โมดา” ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ SABINA ขยายการลงทุนในต่างประเทศในรูปแบบของการเข้าซื้อกิจการ เพราะที่ผ่านมาการขยายสู่ตลาดต่างประเทศของ SABINA จะดำเนินการในรูปแบบของข้อตกลงกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศนั้นๆ ซึ่งการเลือกประเทศฟิลิปปินส์เป็นหมุดหมายแรก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากจะมาจากกำลังซื้อที่มีโอกาสเติบโตสูง จากจำนวนประชากรที่มากถึงกว่า 112 ล้านคน และในจำนวนนี้เป็นผู้หญิงมากถึง 49.9% โดยเป็นผู้หญิงในกลุ่มเจนแซด (อายุระหว่าง 10-24 ปี) ในสัดส่วน 29% และกลุ่มเจนมิลเลนเนียม (อายุระหว่าง 25-39 ปี) 24% ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ SABINA แล้ว ยังมีไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ที่มีความชื่นชอบและมั่นใจสินค้าแบรนด์ไทยเป็นอย่างมากอีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ลูกค้าฟิลิปปินส์ชื่นชอบคุณภาพสินค้า “ซาบีน่า” อยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเราทำตลาดผ่าน “โมดา” ในฐานะตัวแทนจำหน่ายได้อย่างน่าสนใจ จนถึงจุดที่เราคิดว่าต้องขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ ทำให้เราศึกษาข้อมูลตลาดในฟิลิปปินส์อย่างจริงจัง และพบว่า ตลาดค้าปลีกในฟิลิปปินส์ยังเติบโตได้อีกมาก เห็นได้จากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ในปี 2565 ซึ่งอยู่ที่ 7.6% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2562&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ปี 2566 ก็ยังคงมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรายได้ต่อหัวของประชากรอยู่ในระดับที่สูง ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่นี่มีความสุขกับการจับจ่ายใช้สอย ขณะที่ “โมดา” ก็มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญในตลาดค้าปลีกของฟิลิปปินส์ และมีหัวใจของการบริการซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับธุรกิจ ทำให้เรามั่นใจและเลือกที่จะลงทุนในฟิลิปปินส์” นางสาวดวงดาวกล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบัน “โมดา” มียอดขายประมาณ 50-60 ล้านบาท ซึ่ง SABINA จะเริ่มรับรู้รายได้และกำไรตามสัดส่วนถือหุ้น ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2566 ขณะที่ที่ผ่านมา “โมดา” สร้างการเติบโตผ่านการขยายร้านค้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของฟิลิปปินส์ จากจำนวน 31 แห่งในปี 2563 เพิ่มเป็น 34 แห่งในปี 2564 และ 38 แห่งในปี 2565 โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนร้านค้าเป็น 44 แห่งในปี 2566 และคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 200 ล้านบาทได้ภายใน 5 ปี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดชุดชั้นใน “ซาบีน่า” ในฟิลิปปินส์หลังจากนี้ นอกจากจะขยายจำนวนร้านค้าตามแผนเดิมของ “โมดา” ที่มีความแข็งแกร่งในการบุกตลาดผ่านห้างสรรพสินค้าชั้นนำแล้ว SABINA จะทำตลาดผ่านห้างสรรพสินค้าสไตล์โมเดิร์นเทรด รวมถึงป๊อปอัพสโตร์ หรือการตั้งร้านชั่วคราวตามจุดต่างๆ ที่มีความหนาแน่นของลูกค้า และการขยายผ่านออนไลน์ในรูปแบบที่ไม่หน้าร้าน ซึ่งเป็นตลาดที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในฟิลิปปินส์ และเป็นตลาดที่ SABINA มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ทำให้เชื่อว่า การเติบโตของ “โมดา” ในปีนี้จะขยายตัวได้มากถึง 20-30% จากปีก่อน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นอกจากขยายตลาดในต่างประเทศแล้ว SABINA ยังมีแผนสำหรับตลาดในประเทศซึ่งเป็นตลาดหลักที่ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะหลังจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเราพยายามจับกลุ่มนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากการปรับปรุงหน้าร้านซาบีน่าช็อป การจัดวางสินค้า เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งสัญญาณยอดขายไตรมาสแรกของปีนี้มีแนวโน้มดีกว่าที่เราประเมินไว้ ส่วนไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เราจะรับรู้รายได้และกำไรจาก “โมดา” ที่จะช่วยหนุนให้งบการเงินของ SABINA แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าวรับชมบทสัมภาษณ์เพิ่มเติม: <div class="se-component se-video-container __se__float-center" style="width: 100%; min-width: 100%;" contenteditable="false"><figure style="width: 100%; height: 56.25%; padding-bottom: 56.25%; margin: auto;"><iframe src="https://www.youtube.com/embed/7gWU254oPqg" data-proportion="true" data-percentage="100%,56.25%" data-size="100%,56.25%" data-align="center" data-file-name="7gWU254oPqg" data-file-size="0" data-origin="100%,56.25%" style="width: 100%; height: 100%;" data-index="0"></iframe></figure></div> อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/other/news/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA-%E0%B9%84%E0%B8%AD-%E0%B8%88%E0%B8%B5-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A-25-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B8%99" alt="โรงงานบรรจุภัณฑ์ &quot;เอส ไอ จี&quot; ครบรอบ 25 ปี ในไทย ดันนวัตกรรมและโซลูชันยั่งยืน">โรงงานบรรจุภัณฑ์ "เอส ไอ จี" ครบรอบ 25 ปี ในไทย ดันนวัตกรรมและโซลูชันยั่งยืน</a>​<hr class="__se__solid"><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

SABINA ปิดดีลซื้อ "โมดา" ฟิลิปปินส์ ปูพรมวางสินค้าในฟิลิปปินส์

<h2>SABINA ประเมินรายได้ไตรมาส 2 ปี 2564 ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้ (QoQ) และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) ประเมินผลกระทบโควิดระลอก 3 พบไม่หนักเท่า 2 ครั้งก่อนหน้า เหตุผู้บริโภคมีความหวังเรื่องวัคซีน ทำให้กำลังซื้อไม่ถึงกับหยุดชะงัก</h2>
เผยบริษัทฯ ปรับกลยุทธ์การขาย เน้นเจาะพื้นที่เป้าหมายที่มีลูกค้าแน่นอน พร้อมตุนยอดขายจากอีเว้นท์ใหญ่ของแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ชั้นนำ ทั้งลาซาด้าและช้อปปี้ ส่งผลให้ SABINA ขึ้นแท่นสินค้าขายดีอันดับหนึ่งในกลุ่มแฟชั่น ขณะที่ตลาดส่งออกหลักอย่างเวียดนามเติบโตได้ดี เช่นเดียวกับคำสั่งผลิตสินค้า OEM จากสหราชอาณาจักรที่ลงออเดอร์ล่วงหน้าถึงเดือนส.ค.

บุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า SABINA ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระลอกที่ 3 ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาอย่างใกล้ชิด

ผ่านพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าในช่วงครึ่งแรกของเดือนเมษายนรวมถึงวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้บริษัทฯ พบว่า แม้ยอดขายจะได้รับผลกระทบ แต่เมื่อเทียบกับการแพร่ระบาดในระลอกแรกเมื่อปี 2563 และการระบาดในระลอกที่สองในช่วงปลายปี 2563 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2564 ก็ถือว่า ผลกระทบในระลอกที่ 3 เกิดขึ้นน้อยกว่า 2 ครั้งก่อนหน้าอย่างชัดเจน

“แม้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้จะกระจายเป็นวงกว้าง แต่ก็ไม่เหมือนกับ 2 ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นไม่มีวัคซีนเป็นความหวัง ขณะที่ในรอบนี้ เราเชื่อว่า การกระจายวัคซีนต้านโควิดจะมีความพร้อมในเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ซึ่งจะช่วยสกัดการแพร่กระจายของโรคได้ ความหวังเรื่องวัคซีนทำให้ความมั่นใจของผู้บริโภคไม่ได้ลดลงมากเหมือนกับ 2 ครั้งแรก

นอกจากนี้ ในรอบนี้รัฐบาลไม่ได้ประกาศล็อคดาวน์ เราก็ยังปรับกลยุทธ์ด้านการขาย โดยเน้นการเข้าหาและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในหลายช่องทาง เราใช้วิธีหาปลาในแหล่งที่มีปลา หมายถึงเจาะพื้นที่ที่มีลูกค้าแน่นอน ซึ่งการโฟกัสพื้นที่ขายต้องแม่นยำเพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

โดยช่วงที่ผ่านมา เราตุนยอดขายจากอีเว้นท์ใหญ่ของแพลตฟอร์มช้อปปิ้งชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นการฉลองครบรอบ 9 ปีเบิร์ธเดย์ลาซาด้า และแคมเปญ 4.4 ของช้อปปี้ ซึ่งเราเป็นสินค้าที่มียอดจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มแฟชั่น

ทำให้เรามั่นใจว่า ยอดขายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จะยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2564 (QoQ) และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY)” บุญชัยกล่าวและเสริมว่า

ปัจจัยบวกที่สนับสนุนการเติบโตในไตรมาสที่ 2 ยังมาจากการส่งออก (Export) สินค้าไปยังประเทศเวียดนาม ซึ่งมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี ทำให้สินค้าชุดชั้นในของเราในตลาดเวียดนามเติบโตได้อย่างน่าพอใจ เช่นเดียวกับการรับจ้างผลิต (OEM) ซึ่งฐานลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในสหราชอาณาจักร

ขณะนี้เริ่มส่งคำสั่งผลิตล่วงหน้ามาแล้วจนเดือนสิงหาคม จึงเท่ากับว่าช่องทางขายทั้ง 4 ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นค้าปลีก (Retail) ผ่านเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าและซาบีน่า ช็อป ช่องทางออนไลน์ (NSR : Non Store Retailing) ส่งออก (Export) ภายใต้แบรนด์ SABINA และรับจ้างผลิต (OEM) ส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%8B%E0%B8%B5-%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%B5.html">เคทีซี เผยผลไตรมาสแรกปี 64 รายได้รวมลด สวนทางกำไรสุทธิ 1.63 พันล้าน</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

SABINA จับสัญญาณยอดขายไตรมาส 2

เรื่อง: ANURADHA RAGHUNATHAN เรียบเรียง: นวตา สันติวัฒนา
<h2>การซื้อชุดชั้นในที่อินเดียเป็นเรื่องน่าลำบากใจ ทั้งพนักงานชายที่เดินกันให้ขวักไขว่ พนักงานขายหญิงที่ไม่รู้เรื่องรายละเอียดสินค้า ไปจนถึงบรรยากาศความขวยเขินและอึดอัดใจที่เข้ามาบดบังความสุขในการเลือกซื้อสินค้า</h2>
Richa Kar ผู้ก่อตั้ง Zivame ร้านค้าออนไลน์ขายชุดชั้นในสำหรับผู้หญิงพยายามเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้โดยก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 2011 เว็บไซต์ของ Kar จำหน่ายสินค้ากว่า 5,000 รายการจาก 50 แบรนด์และมีขนาดชุดชั้นในมากกว่า 100 ไซส์ให้เลือกสรร ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ร้านค้าออนไลน์ยังให้ความเป็นส่วนตัวและอิสระในการเลือกซื้อสินค้า

“ลองจินตนาการว่าคุณกำลังจะจ่ายเงินซื้อเสื้อชั้นในแต่มีพนักงานขายผู้ชายยืนอยู่ตรงหน้า มันทำให้คุณเขินอายจนแทบจะอยากเดินหนี” Kar วัย 35 ปีกล่าว “ผู้หญิงต้องการบรรยากาศที่ผ่อนคลายสบายใจเมื่อเลือกซื้อสินค้าของใช้ส่วนตัว เป็นเรื่องจำเป็นและละเอียดอ่อน ในประเทศอย่างอินเดีย ประเด็นนี้คือปัญหาด้านวัฒนธรรม และเราได้นำเทคโนโลยีมาเพื่อแก้ปัญหา”

ตลาดชุดชั้นในมูลค่า 3 พันล้านเหรียญของอินเดียมีสัดส่วนค่อนข้างใหญ่ในตลาดขายปลีก แต่ร้านส่วนใหญ่จำหน่ายทั้งสินค้าชุดชั้นในและเสื้อผ้าประเภทอื่นด้วย “เราต้องการเจาะตลาดสินค้าเฉพาะประเภทและขึ้นเป็นผู้นำในตลาดนั้น” Kar ซึ่งอยู่ระหว่างการเปลี่ยนตลาดแบบเดิมๆ ให้ทันสมัยขึ้นกล่าว

Zivame ซึ่งได้ระดมทุนกว่า 48 ล้านเหรียญในช่วงเวลา 4 ปีได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภคหญิงชาวอินเดียที่มีกำลังซื้อและต้องการเติมความสุขให้กับตัวเอง ร้านค้าออนไลน์แห่งนี้มีผู้เข้าใช้งานเดือนละ 2.5 ล้านคนและสามารถจำหน่ายเสื้อชั้นในได้ 2 ตัวต่อนาที คาดมีรายได้ทะลุ 15 ล้านเหรียญเมื่อเดือนมีนาคม 2016 จากการจัดส่งสินค้าประมาณ 200,000 ชิ้นต่อเดือน (การส่งคืนสินค้าไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่คิดค่าบริการเมื่อสั่งสินค้ามูลค่ามากกว่า 15 เหรียญ)

Kar คว้าปริญญาด้านวิศวกรรมศาสตร์จาก Birla Institute of Technology &amp; Sciences และจบด้านบริหารจาก Narsee Monjee Institute เธอยังจำได้ถึงปฏิกิริยาแรกของแม่ตอนที่บอกว่าเธอจะลาออกจากงานประจำเงินเดือนสูงที่ SAP เพื่อมาเปิดธุรกิจร้านขายสินค้าออนไลน์ “อะไรนะ? วิศวกรที่จบปริญญา MBA จะมาขายชุดชั้นในผ่านอินเทอร์เน็ต” ระหว่างที่เธอดูแลโครงการหนึ่งที่ SAP เธอพบว่ารายได้ 1 ใน 4 ของ Victoria’s Secret แบรนด์ชั้นนำในตลาดระดับโลกมาจากการจำหน่ายสินค้าผ่านทางออนไลน์ ทำให้เธอนึกถึงความเป็นไปได้ในตลาดอินเดีย

หลังจากเริ่มธุรกิจ Zivame ด้วยเงินก้อนแรกจำนวน 600,000 เหรียญซึ่งมาจากเงินเก็บของเธอรวมกับของแฟนเธอในขณะนั้น (ปัจจุบันทั้งคู่สมรสกันแล้ว) บวกกับเงินจากญาติและเพื่อนๆ เธอรับรู้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าร้านค้าปลีกในอินเดียส่วนใหญ่เลือกสต็อกสินค้าชุดชั้นในเฉพาะขนาดที่ขายดีเท่านั้น ทำให้ผู้บริโภคในตลาดต้องการทางเลือกรวมถึงอิสระในการตัดสินใจ

ดังนั้นเธอจึงเริ่มพัฒนาแบรนด์สินค้าของตัวเองโดยเริ่มกระบวนการตั้งแต่ออกแบบ ผลิตและจัดส่ง เธอส่งแบรนด์สินค้าต่างๆ ออกสู่ตลาดเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่ต่างกันออกไป และตัดเย็บด้วยมือผลิตขึ้นที่ยุโรปตะวันออก บังกลาเทศ จีน ลาตินอเมริกา รวมถึงในอินเดียด้วยเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่จะผลิตในต่างประเทศเนื่องจากมีความเชี่ยวชาญมากกว่า

เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา Zivame เปิดหน้าร้านให้ลูกค้าทดลองใส่ที่ Indiranagar ย่านอันทันสมัยใน Bangalore เพื่อช่วยให้สาวๆ รู้ทรวดทรงและขนาดชุดชั้นในของตน รวมถึงให้บริการแนะนำวิธีสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์
“เราไม่ต้องการก้าวเข้าไปทำธุรกิจที่ต้องมีการสต็อกสินค้า (ตามร้านสาขา) เพราะคุณไม่มีทางเก็บสต็อกสินค้าได้ทุกประเภททุกขนาด” Kar กล่าว “การซื้อชุดชั้นในไม่ได้เป็นเรื่องฉุกเฉินเร่งด่วน เมื่อมีการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ สินค้าเหล่านั้นสามารถจัดส่งไป 1 หรือ 2 วันหลังจากนั้น”

แน่นอนว่าความสำเร็จบนโลกออนไลน์ย่อมดึงดูดคู่แข่งรายใหม่เข้าสู่ตลาด ปัจจุบันตลาดในอินเดียมีทั้งผู้เล่นอย่าง PrettySecrets, Clovia และ Secret Angel นอกจากนี้ Zivame ยังต้องต่อกรกับแบรนด์ค้าปลีกอย่าง Lovable Lingerie และ Jockey

ทว่านักลงทุนจากมาเลเซียที่เล็งเห็นชื่นชอบธุรกิจของ Kar โดยทันที กองทุนเพื่อความมั่งคั่งของรัฐขนาด 3.5 หมื่นล้านเหรียญที่ได้ลงทุนในหลายภาคธุรกิจ ตั้งแต่อุตสาหกรรมพลังงาน ธุรกิจการแพทย์ไปจนถึงบริการด้านการเงินในภูมิภาคต่างๆ ได้ตัดสินใจลงทุนใน Zivame ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของการลงทุนข้ามภูมิภาคของมาเลเซีย สำหรับการเข้ามาลงทุนในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของอินเดีย

กองทุนไม่สนใจตอนที่ได้รับข้อมูลผ่านสื่อและข่าวประชาสัมพันธ์ แต่ Kar นำเสนอข้อมูลทางธุรกิจต่อผู้บริหารกองทุนที่ติดต่อเข้ามาในปีที่ผ่านมาช่วงที่เธอกำลังระดมทุนรอบที่ 3 การนำเสนอแผนธุรกิจของเธอดึงดูดให้กองทุนควักกระเป๋าร่วมลงทุนพร้อมข้อความสนับสนุน Zivame ที่ว่า “ภารกิจมุ่งส่งเสริมพลังและศักยภาพสตรีทั้งในและนอกประเทศอินเดีย”

<iframe src="https://www.youtube.com/embed/aI50ihdAHfs" width="100%" height="315" frameborder="0" allowfullscreen="allowfullscreen" data-mce-fragment="1"></iframe>

<hr />

<a href="http://goo.gl/lvtWCi">คลิ๊กอ่านบทความเพื่อจุดประกายไฟฝันทางด้านธุรกิจ จาก Forbes Thailand ฉบับ APRIL 2016 ในรูปแบบ E-Magazine</a>
<a href="http://goo.gl/lvtWCi"><img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/APRIL%202016/COVER-Resize.png" alt="" width="259" height="339" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events