วาดวงสวิงได้อย่างโดดเด่นตั้งแต่เด็ก คว้ารางวัลมากมายจากการแข่งขันกอล์ฟทั้งในไทยและต่างประเทศ เป็น “ดาวรุ่ง” เลือดไทยที่วงการกอล์ฟทั่วโลกจับตา วันนี้ เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาววัย 17 ปี เทิร์นโปรลงแข่ง European Tour ทัวร์นาเมนต์ระดับโลก ไล่ล่าชัยชนะโกยแต้ม เพื่อขึ้น Top 10 นักกอล์ฟหญิงโลกให้ได้ในปีนี้ สร้างชื่อให้ประเทศไทย ด้วยความเชื่อที่ว่า “ทุกอย่างเป็นไปได้” “เมกับโมเกิดและโตที่กรุงเทพฯ ตอนเมอายุ 5 ขวบครึ่ง และโมอายุ 7 ขวบคุณพ่อเปิดร้านโปรช็อปขายอุปกรณ์กอล์ฟกลัวลูกๆ จะไปกวน เลยยื่นไม้ให้อันหนึ่งให้เอาไปเขี่ยเล่นที่สนามกอล์ฟ โปรเดินไปเดินมาก็ช่วยสอน นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรา” เอรียา เล่าความผูกพันกับกีฬากอล์ฟ พร้อมพูดถึง โมรียา จุฑานุกาล หรือโม พี่สาวซึ่งเป็นนักกอล์ฟที่ลงแข่ง LPGA อยู่ในขณะนี้ เอรียา เข้าเรียนชั้นอนุบาลที่ จ.นครปฐม แล้วย้ายมาศึกษาระดับประถมศึกษาที่กรุงเทพฯ แต่ตารางฝึกซ้อมแน่นทำให้ไม่มีเวลาทำการบ้าน ครูจึงเรียกผู้ปกครองเข้าพบ แต่เมื่อทราบเหตุผลแล้วก็สนับสนุนเต็มที่ สองพี่น้องจึงได้เรียนครึ่งวัน แล้วจัดช่วงบ่ายเป็นเวลาของการซ้อมหนัก แต่ทั้งคู่กลับไม่รู้สึกว่าขาดวัยเด็ก เพราะได้ทำในสิ่งที่รักอย่างเต็มที่ ทว่าเส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เอรียาเริ่มต้นชีวิตนักกอล์ฟด้วยการพบกับความพ่ายแพ้มาโดยตลอด หากสิ่งนั้นกลายเป็น “แรงผลัก” ให้ฮึดสู้ ตั้งใจซ้อม และพัฒนาทักษะการเล่นอย่างหนัก โดยมีโค้ชคนแรกคือพ่อ สมบูรณ์ จุฑานุกาล แต่เมื่อต้องฝึกปรือฝีมืออย่างจริงจัง สมบูรณ์จึงตัดสินใจเสาะหาโค้ชมือดีให้บุตรสาว “ช่วงเปลี่ยนโปรต้องเริ่มทุกอย่างใหม่ตั้งแต่การจับไม้ อันดับที่เคยได้ต้นๆ ของรุ่นเด็กในเมืองไทยก็ร่วง แต่เชื่อมั่นว่าคุณพ่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ ไม่มีใครก้าวขึ้นไปตลอดเวลาโดยไม่ถอยลงมาแล้วกลับขึ้นไปใหม่ และเวลากลับมาก็แค่มั่นใจในตัวเองว่าต้องดีกว่าเดิม” เธอยังย้ำว่า ถ้าลง 2 ต้องก้าวขึ้น 3 “เม เป็นคนมั่นใจในตัวเอง และเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้ ถ้าคิดเล่นกอล์ฟสบายๆคงไม่มีวันนี้ ความรู้และความเก่งไม่มีที่สิ้นสุด เมมาจากที่โหล่และพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนมีวันนี้ ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เมเจอทุกอย่างในชีวิต” เอรียา พิสูจน์ความเชื่อของเธอว่า ทุกคนมีโอกาสพัฒนาฝีมือเหมือนกันหมด ด้วยการผ่านรอบคัดตัวเข้าไปเล่นรายการ JuniorWorld ที่สหรัฐอเมริกา และคว้าอันดับ 2 เมื่ออายุเพียง 8 ขวบ จากนั้นแข่งขันคว้าแชมป์ในหลายประเทศ พร้อมเลือกลงแข่งรายการใหญ่เพื่อสั่งสมประสบการณ์จนฝีมือเป็นที่ประจักษ์จน สมาคมกอล์ฟเยาวชนแห่งสหรัฐอเมริกา (AJGA) มอบรางวัลนักกอล์ฟเยาวชนหญิงแห่งปีแก่ เอรียาติดกัน 2 ปีซ้อนในปี 2011-2012 แต่การไต่เต้าที่ว่าครอบครัวจุฑานุกาลก็ต้องขายบ้าน ขายรถ รวมทั้งทุ่มเงิน ถึงตอนนี้รวมมูลค่าทั้งหมดเฉียด 20 ล้านบาท เพื่อให้บุตรสาวทั้ง 2 คนได้เดินบนเส้นทางกอล์ฟตามที่ฝัน เรียกว่า วางชีวิตครอบครัวเป็นเดิมพันอนาคตและเมื่อลูกสาวคนใดคนหนึ่งผ่านการคัดตัว เข้าแข่งขันรายการในต่างประเทศ ครอบครัวก็จะเดินทางไปด้วยกันทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือดูแลและเก็บเกี่ยว ประสบการณ์ เธอเล่าอีกว่า คุณพ่อพูดเสมอว่าทุกอย่างเป็นสมบัติของครอบครัว และเสี่ยงแล้วที่จะให้ลูกทั้ง 2 คน ถ้าไม่ประสบความสำเร็จทุกอย่างก็จบ เรียกได้ว่า “หลังชนฝา” ช่วงที่แข่ง Amateur ก็รับสปอนเซอร์ไม่ได้ เพราะมีข้อห้าม เครียดและกดดันว่าครอบครัวไม่มีทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ได้แต่คิดว่าต้องพัฒนาฝีมือให้เก่ง และเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้ “ครอบครัวเราประหยัดมากถึงขั้นไม่กินข้าวที่คลับเฮาส์ ไปกินโรงอาหารแคดดี้ 30บาทก็อิ่มเหมือนกัน ถามว่าอายไหม ความจนไม่ใช่ความอาย ไม่เคยคิดว่ารวยอย่างเดียวทำให้ประสบความสำเร็จ แต่เชื่อว่าความมุ่งมั่นและความตั้งใจมากกว่าที่ทำให้เราไปถึงเป้าหมาย” ฐานะการเงินเริ่มดีขึ้น เมื่อเอรียา เทิร์นโปรเมื่อต้นปีนี้ สปอนเซอร์หลายรายติดต่อเข้ามาสนับสนุน รวมตัวเลขต่อปีแล้วเกือบ10 ล้านบาท ไม่นับเงินรางวัลจากการแข่งขันถึงราว 10 ล้านบาทภายในเวลาไม่กี่เดือน ด้วยวัยเพียง 17 ปีกับความสำเร็จที่หลั่งไหลเข้ามา ทั่วโลกรู้จักในนาม Thai Sisters แต่เด็กสาวกลับถ่อมตัวว่า “ยังไม่เก่ง” อยู่เมืองไทยอาจฝีมือดี แต่เมื่อต้องประมือกับนักกอล์ฟระดับโลกทำให้รู้ว่าต้องพัฒนาทักษะอีกมาก ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่ากดดันอยู่พอสมควร เพราะเวลาแข่งคิดเสมอว่าทำเพื่อคนไทย แต่ท้ายสุดก็พลิกความกดดันเป็นกำลังใจเพื่อทำวันต่อไปให้ดีขึ้นกระนั้นก็ยัง มี “ฝันร้าย” ที่เอรียาบอกว่าจะขอจดจำ ไปชั่วชีวิต นั่นคือพลาดการคว้าแชมป์รายการ Honda LPGA Thailand 2013 ซึ่งหากทำได้ก็จะกลายเป็นคนไทยคนแรกที่ชนะ LPGA ทันที เอรียาเล่า ย้อนเหตุการณ์ว่า เฝ้ารอวันที่จะเป็นแชมป์ LPGA มาตลอดชีวิต เมื่อแมตช์นั้นมาถึงจึงเป็นความหวังทุกอย่างวินาทีที่พลาดคือ ช็อตสุดท้ายที่พัตต์ไม่ลงปล่อยโอกาสให้หลุดมือไปเพราะความใจร้อน ตั้งแต่เล่นกอล์ฟมาวันนั้นร้องไห้เสียใจที่สุดในชีวิต “จะให้ลืมก็ลืมไม่ได้ เลยตั้งใจจำทุกช็อตจำทุกการเล่น จำทุกความคิดที่ทำให้แพ้เพราะถ้าลืมไปจะเป็นบทเรียนที่ไม่มีค่าเลย และคิดว่ามีอะไรบ้างที่ต้องพัฒนาขึ้นไปอีก เอาจุดอ่อนเรื่องความใจร้อนมาเป็นบทเรียน เพราะทำให้พลาดสิ่งสำคัญในชีวิต โอกาสจะผ่านมาอีกเมื่อไรไม่รู้ แต่เชื่อว่าจะต้องมาแน่นอน และถ้าไม่ผ่านเข้ามาก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อเจอโอกาสอีกครั้ง” เป้าหมายของเอรียา ปลายปีนี้จึงเป็นการ Qualify LPGA ส่วนเป้าหมายไกลกว่านั้นคือ การติด Top 10 ของโลก พร้อมกับตั้งใจสร้างมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้า และอีกส่วนหนึ่งคือ สนับสนุนให้เยาวชนด้อยโอกาสได้เล่นกอล์ฟ เธอบอกต่อด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญสุดในชีวิต คนมีเงินอาจไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน แต่ตัวเธอมีทุกอย่าง มีครอบครัวที่รักและให้กำลังใจมาโดยตลอด นับเป็นความสุขอย่างที่สุด และยิ่งโชคดีมากเท่าไรก็ยิ่งอยากช่วยเหลือคนอื่น “นี่คือความฝันที่แท้จริง” “ฟ้าไม่ได้ส่งให้เมเล่นกอล์ฟเพื่อมีเงินให้ตัวเอง แต่ส่งเมลงมาเพื่อช่วยเหลือคนอื่นให้มีความสุข” สมบูรณ์ จุฑานุกาล “ลมใต้ปีก” Thai Sisters กล่าวนึกถึงภาพความสำเร็จของ โม-โมรียาและเม-เอรียา จุฑานุกาล ที่มีคุณพ่อ สมบูรณ์ คอยผลักดันและทุ่มเทชีวิตเพื่ออนาคตของลูกอย่างเต็มที่ สมบูรณ์ ในวัย 61 ยังดูกระฉับกระเฉง อดีตเขาคือนักธุรกิจด้านตกแต่งภายในแต่วิกฤตเศรษฐกิจปี 2540ทำธุรกิจล้ม ความเครียดทำให้หันไปเล่นกอล์ฟ พร้อมกับพยายามใช้หนี้ 30 กว่าล้านบาทจนหมด แล้วเริ่มจับธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง ก่อนที่ปี 2542 จะหันเหชีวิตมาเปิดร้านโปรช็อป และขณะขายของก็เอาไม้กอล์ฟให้ลูกสาวไปตีเล่นนอกร้านเพื่อไม่ให้มาเกะกะ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นถนนนักกอล์ฟของโมรียา และเอรียา เมื่อเห็นโมและเมหายใจเข้าออกเป็นกอล์ฟ สมบูรณ์จึงตั้งเป้าให้ลูกสาวเล่นกอล์ฟเป็นอาชีพท่ามกลางเสียงสบประมาทของผู้ คนรอบข้าง “ตอนนั้นไม่มีใครคิดเหมือนผม เขาบอกว่าผมบ้าเกินไป แม้แต่โปรกอล์ฟยังกลัวความคิดผม แต่ผมเชื่อว่าเขาทำได้” สมบูรณ์เล่ายิ้มๆ เขาทุ่มสุดตัว ขายบ้าน ขายร้านโปรช็อป ขายที่ดิน ขายรถหรู ลดภาระทุกด้านให้มากสุด เพื่อ “สร้าง”ความฝันให้เป็นความจริง “ผม บอกกับลูกว่าพ่อทุบหม้อข้าวตัวเองแล้ว เหลือแต่ข้างหน้าที่ลูกต้องฝ่าไปให้ได้ เขาก็รู้ว่าต้องเล่นให้ดีเพื่ออนาคต ครอบครัวเราจึงมาวางแผนสู้ไปด้วยกัน” เคล็ดลับในการเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ ยอดคุณพ่อแนะว่า เมื่อลูกเล็กต้องเข้มงวด เมื่อลูกโตต้องผ่อนคลายและยืดหยุ่น สมบูรณ์และ ภรรยาจัดตารางฝึกซ้อมและดูแลอย่างใกล้ชิด ตื่นเช้าไปวิ่งจากนั้นไปโรงเรียน บ่ายซ้อมกอล์ฟ ตกเย็นว่ายน้ำ เข้านอน 3-4 ทุ่ม พร้อมวางแผนโภชนาการให้ลูกรับประทานอาหาร 5 หมู่ ดื่มนมสดเพิ่มแคลเซียมวันละ 2 ลิตร เข้มงวด ห้ามลูกเถียง แต่เมื่อสองสาวเข้าสู่วัยรุ่น สมบูรณ์ก็ปรึกษาจิตแพทย์เพื่อเข้าใจพฤติกรรม พร้อมยืดหยุ่นและรับฟังมากขึ้นขณะเดียวกันก็หมั่นเติมเต็มความรู้ให้ลูกอยู่ เสมอ โค้ชที่ไหนฝีมือดี จะมีชื่อเสียงหรือไร้อันดับสมบูรณ์ไม่ลังเลจะพาลูกสาวไปเรียนรู้เพื่อนำส่วน ดีมาปรับใช้ “เงินรางวัลของโมและ เม...รวมกันยังไม่หักภาษีก็มากกว่า 10 ล้านบาท ถามว่าคุ้มกับที่ลงทุนไหม ใครก็รู้ว่าใช้จ่ายเยอะไม่มีทางคุ้ม ถ้าผมไม่ลงทุนกับเขามากขนาดนี้ และยังทำงานอยู่ ผมอาจเป็นเถ้าแก่ใหญ่ก็ได้ แต่ผมทิ้งหมดทุกอย่าง เงินรางวัลที่ได้ผมก็เอาไปใช้เป็นค่าความรู้ให้ลูก เพราะถ้าเอาเงินไปซื้อบ้าน ซื้อความสะดวกสบาย ลูกผมก็ไม่สามารถพัฒนาฝีมือขึ้นมาได้” ความฝันของสมบูรณ์ใน วันนี้จึงต้องการเห็นโมรียาหรือเอรียาขึ้นเป็นนัก กอล์ฟมือหนึ่งของโลกหรืออย่างน้อยต้องติด 1 ใน 10 เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยทั้งประเทศ “ต้องเชื่อว่าทำได้...ถ้าไม่เชื่อทุกอย่างก็จบ”

เรื่อง: สุทธาสินี จิตรกรรมไทย ภาพ: สุกรี สุขปลั่ง