<h2 class="p1">หลังจากทุ่มทุนซื้อแอสเสตมูลค่า 1.5 พันล้านบาทของกลุ่มพรินซิเพิล แคปิตอล ล่าสุด กลุ่ม "คาร์ลตัน โฮเทล" จากสิงคโปร์ เจ้าของเชนโรงแรมหรูสไตล์เอเชีย ได้ฤกษ์เปิดตัวโรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท สวนกระแสปัจจัยลบการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า โดยมั่นใจว่าตลาดท่องเที่ยวไทยยังไปได้</h2>
Mark Bulmer ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท กล่าวว่า ด้วยประสบการณ์ที่ร่วมงานกับ คาร์ลตัน โฮเต็ล กรุ๊ป มาเป็นเวลา 8 ปี และประสบการณ์ 6 ปี ที่เคยเป็นผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมคาร์ลตันในสิงคโปร์ทั้ง 2 แห่ง ทำให้มั่นใจว่าคาร์ลตัน กรุงเทพฯ จะได้การตอบรับที่ดีจากตลาด “ผมสามารถยืนยันได้จากประสบการณ์ของผมว่า โรงแรม คาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท เป็นการผสมผสานความเป็นเอกลักษณ์ของคาร์ลตันกับวัฒนธรรมการต้อนรับแบบไทยได้อย่างลงตัวที่สุด” Bulmer ย้ำและว่า แขกผู้เข้าพักจะสามารถเพลิดเพลินไปกับความหรูหราระดับ 5 ดาวในราคาที่คุ้มค่า โดยเฉพาะที่ตั้งของโรงแรมอยู่ในทำเลที่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอโศก และสถานีพร้อมพงษ์ ซึ่งเดินทางได้สะดวก
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าที่ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว Bulmer เผยว่า เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ แต่เนื่องจากโรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ รองรับนักท่องเที่ยวหลายกลุ่ม ไม่เฉพาะชาวจีน แต่ยังครอบคลุมตลาดอื่นๆ รวมทั้งตลาดการประชุมและธุรกิจ ห้องจัดเลี้ยง ซึ่งช่วงเปิดตัวก็มีงานอีเวนต์หลายงานเข้ามา เชื่อว่าจะได้การตอบรับที่ดี


<figure><img class="size-full wp-image-27084" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/02/คาร์ลตัน04.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> Mark Bulmer ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท</figcaption></figure>
สำหรับอัตราการเข้าพัก ด้วยความที่เป็นโรงแรมเปิดใหม่ อาจต้องใช้เวลาในการสร้างการรับรู้และขยายตลาด และด้วยโพสิชั่นของแบรนด์คาร์ลตัน ซึ่งเป็นโรงแรมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ของเอเชีย มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมบริการที่ได้มาตรฐาน และห้องพักที่มีดีไซน์เฉพาะตัว ห้องสวีตขนาดกว้างขวางรวม 338 ห้อง เริ่มตั้งแต่พื้นที่ 37 ตารางเมตร ไปจนถึง 129 ตารางเมตร ซึ่งทุกห้องได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน จะสร้างความประทับใจกับแขกผู้มาเยือนได้อย่างแน่นอน
&nbsp;
<h2 class="p1">ดีไซน์เฉพาะตัว</h2>
นอกจากนี้ การออกแบบสไตล์โปร่งด้วยหน้าต่างกระจกกันเสียงจากพื้นจรดเพดาน พร้อมม่านทึบแสงและมู่ลี่ไฟฟ้า สมาร์ตทีวีขนาด 49 นิ้ว ระบบ Mirror Chromecast สามารถส่งคอนเทนต์ไปแสดงบนหน้าจอทีวี และเปิดหน้าจอสมาร์ตโฟนของ Apple TV ได้ พร้อมเตียงเดี่ยวขนาดคิงไซซ์ หรือเตียงคู่ พร้อมที่นอนเกรดพรีเมียมของ Sealy Posturepedic ห้องน้ำแบบแยกโซนแห้งและห้องอาบน้ำแบบฝักบัว ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ โต๊ะทำงานพร้อมปลั๊กเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบมีสายและไร้สาย ตู้เซฟอิเล็กทรอนิกส์ และมินิบาร์ รวมถึงระบบควบคุมไฟฟ้าแสงสว่างที่ใช้เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว สิ่งเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์ของคาร์ลตันที่สัมผัสได้
นอกจากความมีชื่อเสียงในเรื่องของห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวก และการบริการของโรงแรมในเครือคาร์ลตันแล้ว ความเป็นเลิศในเรื่องอาหารก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ได้รับการยกย่องจากห้องอาหารชื่อดัง เช่น “วาล็อค (Wah Lok)”  ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งที่สร้างชื่อเสียงอันโด่งดังมาเป็นเวลาถึง 3 ทศวรรษ เสมือนเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรม และเป็นหนึ่งในร้านอาหารจีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสิงคโปร์


<figure><img class="size-full wp-image-26736" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/02/คาร์ลตัน03.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> ห้องอาหาร “เพลท” (Plate) ร้านอาหารแบบ all-day-dining เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน</figcaption></figure>
นอกจากนี้ยังมี “เพลท” (Plate) ร้านอาหารแบบ all-day-dining เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน ทั้งบุฟเฟ่ต์ และแบบ a-la-carte มีอาหารหลากหลาย อาทิ อาหารนานาชาติแบบคลาสสิก อาหารไทยยอดนิยม รวมถึงอาหารสิงคโปร์ และอาหารสไตล์เปอรานากันจานเด่นที่ขึ้นชื่อ ทักซิโด้ (Tuxedo) - คาเฟ่และร้านเบเกอรี่ ตั้งอยู่ส่วนเฉลียงริมระเบียงบริเวณล็อบบี้ โดดเด่นในเรื่องของวัฒนธรรมเกี่ยวกับกาแฟ และเป็นที่แรกที่ใช้เครื่องชงกาแฟ Modbar Expresso ในโรงแรมระดับ 5 ดาว รวมถึงศิลปะในการทำขนม ที่ครัวเบเกอรี่เป็นแบบครัวเปิดซึ่งแขกสามารถมองเห็นขั้นตอนการทำขนมจากทีมเชฟผู้ชำนาญการที่รังสรรค์สารพันขนมอบสดใหม่ ชุดน้ำชา-กาแฟยามบ่าย เบียร์ ไวน์ และค็อกเทล ไว้บริการแขกทุกวัน   
“คูลลิ่งทาวเวอร์” (Cooling Tower) บาร์บนชั้นดาดฟ้า เปิดทิวทัศน์ตระการตาของกรุงเทพฯ ผ่อนคลายไปกับเครื่องดื่มค็อกเทลที่รังสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะ รวมถึงไวน์และเบียร์สด และของว่างชนิดต่างๆ “พลันจ์” (Plunge) บาร์ริมสระน้ำ ตั้งอยู่บนชั้น 10 ระหว่างศูนย์ออกกำลังกายและริมสระน้ำ ให้บริการเครื่องดื่ม น้ำผลไม้สด และเครื่องดื่มที่เพิ่มความสดชื่นนานาชนิด รวมถึงของว่างหลากชนิด
&nbsp;
<h2 class="p1">จุดเด่น “คลับเลานจ์”</h2>
นอกจากนี้ พื้นที่ทั้งหมดของชั้น 10 ได้รับการออกแบบเพื่อกิจกรรมสันทนาการ สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย แขกผู้เข้าพักจะได้เพลิดเพลินกับสระว่ายน้ำกลางแจ้ง และน้ำตก บาร์ริมสระ สตูดิโอออกกำลังกาย ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สปาสุดหรูโดย Let 's Relax และ Kids’ Zone


<figure><img class="size-full wp-image-27083" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/02/คาร์ลตัน02-1.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> ห้องประชุมสัมมนา</figcaption></figure>
ส่วนบริเวณชั้น 33 เป็นที่ตั้งของคาร์ลตัน คลับ เลานจ์ (Carlton Club Lounge) ที่มองเห็นทัศนียภาพอันกว้างไกลของกรุงเทพฯ จากห้องรับรองทั้งในร่มและกลางแจ้ง แขกที่เข้าพักในห้องคาร์ลตัน คลับ สามารถเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวก และบริการระดับพรีเมียม รวมถึงอาหารเช้าสุดพิเศษ อาหารว่าง และเครื่องดื่มตลอดวัน และช่วงเวลาแห่งความสุขกับค็อกเทล และคานาเป้ รวมถึงการใช้บริการห้องประชุมสำหรับแขกไม่เกิน 6 ท่าน
&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม
<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/%e0%b8%84%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a5%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%99-%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b9%82%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b9%8c-%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2.html">“คาร์ลตัน สิงคโปร์” บุกไทยซื้อโรงแรมดังเปิดเชนหรูสไตล์เอเชีย</a></li>
</ul>
&nbsp;

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events