<h2>Carro (ประเทศไทย) พร้อมส่งมอบประสบการณ์ซื้อ-ขายรถยนต์แบบไร้รอยต่อ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ผลักดันด้วยเทคโนโลยี AI ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “click.buy.drive.”</h2>
ภายหลังจาก Carro บริษัทสตาร์ทอัพ จากสิงคโปร์ ผู้ให้บริการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ขึ้นแท่น “ยูนิคอร์น” รายแรกของวงการด้านตลาดยานยนต์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เตรียมเทคโนโลยีและเงินระดมทุนที่ได้รับกระจายการลงทุนใน 4 ประเทศ ที่ Carro ให้บริการธุรกิจซื้อขายรถยนต์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ ประเทศไทย

เป็นจังหวะที่ดีที่ บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย อรรณพ เกษตระทัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงความสำเร็จของ Carro และแผนกลยุทธ์รุกตลาดรถยนต์มือสองในประเทศไทย ด้วยการเตรียมนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์และประเมินราคาขาย และขยาย CARRO Automall เพิ่มอีก 2 สาขา รวมเป็น 4 สาขา เขตกรุงเทพและปริมณฑล ภายในสิ้นปี

Carro เข้ามารุกธุรกิจในประเทศไทยในปี 2561 ในนามบริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด ปัจจุบันมีเป้าหมายหลักในการติด 3 อันดับแรกในใจผู้บริโภค ในฐานะผู้นำด้านบริการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองแพลตฟอร์มออนไลน์แบบครบวงจร หรือ “One-stop Shopping Place”

อรรณพ เกษตระทัต ซีอีโอ คาร์โร ประเทศไทย กล่าวว่า ปี 2564 เป็นปีที่ 4 ที่ Carro เข้ามาทำตลาดและให้บริการในประเทศไทย โดยมีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องเป็นที่น่าพอใจ โดยล่าสุด เมษายน-พฤษภาคม 2564 มูลค่าการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของคาร์โร ประเทศไทย เติบโตขึ้นเป็น 6 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563

ส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้ เกิดจากการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม AI อำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ในเรื่องความโปร่งใส ราคาดี และปลอดภัยในทุกขั้นตอน ซึ่งจะช่วยลดความกังวลใจในการเป็นเจ้าของรถยนต์มือสองของผู้บริโภค ทำให้สามารถทำธุรกรรมซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว และล่าสุดได้เตรียมนำเทคโนโลยี AI ล่าสุดมาใช้ในประเทศไทย

"ไม่เกินปลายปี 2564 คาร์โร ประเทศไทย จะนำเทคโนโลยี AI ล่าสุดที่สามารถวิเคราะห์และประเมินราคาของรถยนต์มือสองได้อย่างแม่นยำ ด้วย 3 แกนหลักการทำงานได้แก่ ความสามารถในการค้นหารอยขูดขีดและยุบของผิวและตัวถังรถยนต์ การแสดงวิดีโอภาพเคลื่อนไหวแบบ 360 องศาจากภาพถ่ายทั้งภายในและภายนอก และ การฟังเสียงเพื่อวิเคราะห์การทำงานของเครื่องยนต์ โดยทั้งสามส่วนจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับฐานดาต้าเบสและประมวลออกมาเป็นราคาที่เหมาะสมที่สุด" อรรณพ กล่าวและเสริมว่า

นอกจากเทคโนโลยีล่าสุดที่เตรียมนำมาใช้ในการช่วยการซื้อขายและประมูลรถยนต์แล้วนั้น ยังมีบริการด้านสินเชื่อและการประกันผ่านบริษัทในเครือฯ ด้านสินเชื่อจาก Genie Finance และด้านการประกันภัยอย่าง Genie Insurance

ปัจจุบันบริการของ Carro ประเทศไทย แบ่งเป็น 4 ส่วนได้แก่ CARRO Express แพลตฟอร์มการขายรถยนต์, CARRO Automall การฝากขายรถในนาม CARRO Automall โดยรถทุกคันที่ฝากขายจะผ่านการตรวจสภาพจากผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด 200 จุด พร้อมการันตีความพึงพอใจ โดยสามารถคืนรถได้ภายใน 5 วัน และรับประกันคุณภาพนาน 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร ซึ่งในปลายปี 2564 จะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา รวมเป็น 4 สาขาในที่สุด

การประมูลผ่านแอพพลิเคชั่น CARRO Wholesale ที่มีสมาชิกผู้ซื้อมากกว่า 3,000 รายในระบบ และ กลุ่ม CARRO Floor Auction บริการที่ช่วยลูกค้าสถาบันต่างๆ ที่มีรถหลุดจำนองหรือจำนำเพื่อนำเข้าสู่ตลาดรถยนต์มือสองเป็นช่องทางใหม่ที่รองรับรถที่เข้ามาในจำนวนที่มากจากสถาบันและบริษัทพันธมิตรต่างๆ โดยจะเป็นการนำเข้าการประมูลออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่ไปด้วยกัน

ทั้งนี้ คาร์โร ประเทศไทย เผยว่าได้เตรียมทุ่มงบกลยุทธ์ทางการตลาดราว 100 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นตลาดภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “click.buy.drive.” โดยปัจจุบันรถยนต์มือสองที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรกแบ่งตามประเภทได้แก่ กลุ่มรถยนต์ อีโค-คาร์, รถยนต์เอสยูวี และ รถซีดาน โดยราคารถยนต์ที่ได้รับความนิยมอยู่ในช่วงราคา 2-8 แสนบาท

“สุดท้ายนี้ด้วยความมั่นใจในผลิตภัณฑ์และบริการระดับคุณภาพของเรา ผมมีความมั่นใจที่จะผลักดันแบรนด์ให้เติบโตขึ้น จนเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจอันดับต้นๆในตลาดรถยนต์มือสองของประเทศไทย เพราะท้ายที่สุดแล้วการที่เรานำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบที่มีความโปร่งใสในทุกขั้นตอน

โดยที่ลูกค้าสามารถตรวจสอบได้ก่อนทำการตัดสินใจซื้อนั้น จะเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์คาร์โรมากยิ่งขึ้น ผ่านประสบการณ์ซื้อ-ขายแบบ Seamless Online Purchase Experience ได้ง่ายๆ ผ่านปลายนิ้วคลิก” อรรณพกล่าวทิ้งท้าย

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/it/line-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A-10-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%95-%E0%B8%95.html">LINE ครบรอบ 10 ปี ในไทย เติบโต ตอบโจทย์ ชีวิตดิจิทัล</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a> 

&nbsp;

Carro (ประเทศไทย) เตรียมเปิดตัวประสบการณ์ซื้อ-ขายรูปแบบใหม่ จาก AI

<h2>Carsome แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับรถยนต์มือสองครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้นำเสนอวิถีการซื้อรถยนต์รูปแบบใหม่ให้กับกลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทย</h2>
<img class="alignnone size-full wp-image-45758" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/carsome_003.jpg" alt="" width="600" height="450" />

Carsome ประกาศแต่งตั้ง ปภัสรินทร์ สิริบรรลือยศ ให้ดำรงตำแหน่ง Country Head (หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ) ประจำประเทศไทย พร้อมนำประสบการณ์การบริหารงานธุรกิจอีคอมเมิร์ซนานกว่า 12 ปี จากหลายประเทศทั่วเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาขับเคลื่อนธุรกิจและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในประเทศไทย

พร้อมเดินหน้าปรับโฉม และยกระดับประสบการณ์ในการซื้อรถยนต์มือสองโดยนำเสนอกระบวนการที่เป็นดิจิทัลและโปร่งใส เพื่อแก้ไขปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในการเลือกซื้อรถมือสองนั่นคือ ปัญหาเรื่องความไว้วางใจ

โดยผลสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อรถมือสองของผู้บริโภคคนไทยพบว่าร้อยละ 52 มองหาความโปร่งใสด้านราคาร้อยละ 50 ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสภาพรถยนต์โดยละเอียด และร้อยละ 45 ศึกษาข้อมูลด้านการขยายเวลาการรับประกัน จากความต้องการทั้งหมดนี้ Carsome สามารถตอบโจทย์และพร้อมมอบประสบการณ์การซื้อรถยนต์มือสองที่โดดเด่นและแตกต่างให้กับผู้บริโภคได้

“เรากำลังสร้างบริการที่น่าเชื่อถือตั้งแต่ต้นจนจบ (end-to-end) เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าในการซื้อรถยนต์มือสอง สำหรับผู้บริโภคแล้ว อีคอมเมิร์ซเปรียบเสมือนการรับประกันคุณภาพที่ผ่านกระบวนการที่ไม่ยุ่งยากและให้ผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้ และนั่นคือสิ่งที่ Carsome กำลังดำเนินการอยู่

เป้าหมายของเราคือการสร้างความไว้วางใจและความมั่นใจต่ออุตสาหกรรมรถยนต์มือสอง เริ่มตั้งแต่การจัดหารถยนต์มือสอง บริการด้านสินเชื่อ บริการหน้าร้าน ไปจนถึงบริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้าซื้อและขายรถยนต์ที่เราได้อย่างสบายใจ” ปภัสรินทร์ สิริบรรลือยศ Country Head ประจำประเทศไทย กล่าว

<img class="alignnone size-full wp-image-45759" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/carsome_004.jpg" alt="" width="640" height="480" />

<img class="alignnone size-full wp-image-45760" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/05/carsome_005.jpg" alt="" width="640" height="480" />

กุญแจสำคัญของ “วิถีการซื้อรถยนต์รูปแบบใหม่” คือคำมั่นสัญญาที่เรามอบให้กับลูกค้า ซึ่งประกอบด้วย การรับประกัน 1 ปี และการรับประกันคืนเงินภายใน 5 วัน สำหรับรถที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากCarsome ซึ่งรถยนต์ทุกคันที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดถึง 175 จุด ต้องเป็นรถยนต์ที่ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุหนัก ไม่มีปัญหาด้านโครงสร้าง และไม่เคยได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม

ไม่เพียงแค่ส่วนของคุณภาพรถยนต์และการรับประกันเท่านั้น เรายังคำนึงถึงความสะดวกสบายและความสบายใจของลูกค้าเป็นหลักอีกด้วย โดยลูกค้าสามารถเลือกรับบริการที่บ้านได้ในกรณีที่ไม่สะดวกเดินทางมายังศูนย์บริการจะมีบริการส่งรถตรงถึงหน้าประตูบ้านลูกค้า

“วิถีการซื้อรถยนต์รูปแบบใหม่” สำหรับผู้บริโภค เริ่มต้นจากการเลือกดูรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่มีให้เลือกมากมายพร้อมข้อมูลโดยละเอียดจากเว็บไซต์ จากนั้นสามารถทำการจองเพื่อทดลองขับผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที และสามารถเข้ามาทดลองขับได้ที่ ศูนย์บริการครบวงจรหรือเลือกรับบริการทดลองขับที่บ้าน โดยเราจะส่งรถที่เลือกไปให้ทดลองถึงหน้าประตู

หลังจากยืนยันการสั่งซื้อแล้ว Carsomeยังช่วยอำนวยความสะดวกทุกขั้นตอน รวมถึงขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับงานเอกสารทั้งหมด เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นและสะดวกสบาย ทั้งบนช่องทางออนไลน์และการบริการหน้าร้านจากCarsome จากนั้นลูกค้าสามารถรับรถได้ที่ศูนย์บริการครบวงจรของCarsome หรือเลือกรับบริการจัดส่งรถให้ถึงบ้าน

“เมื่อเราทำให้การซื้อรถยนต์มือสองคุณภาพดีเป็นเรื่องง่าย และเพิ่มบริการเสริมที่ทำให้ทุกขั้นตอนในการซื้อรถยนต์มือสองเป็นไปด้วยความราบรื่น เราเชื่อมั่นว่าความเชี่ยวชาญและแนวคิดในการให้บริการลูกค้าของเราจะทำให้Carsome กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ซื้อและผู้ขายรถยนต์มือสองด้วยเช่นกัน” ปภัสรินทร์ กล่าวเสริม

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/other/sharge-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81.html">SHARGE เล็งขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจชาร์จรถ EV สู่เป้าหมาย 3 พันล้านใน 5 ปี</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Carsome นำเสนอ “วิถีการซื้อรถยนต์รูปแบบใหม่” ในประเทศไทย

<h2>iCar Asia Thailand กลุ่มบริษัทผู้ดูแลเว็บไซต์ซื้อ-ขายรถยนต์ one2car.com, เว็บไซต์รวบรวมข่าวสารรถยนต์ autospinn.com และ thaicar.com ซึ่งเป็นที่รู้จักและไว้วางใจในหมู่ผู้ซื้อขายรถยนต์ทั้งมือหนึ่งและมือสองเปิดเผยแผนการเพื่อเร่งการขยายตลาดโดยมุ่งเน้นลูกค้าเป็นจุดสำคัญในปี 2560</h2>
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราเห็นการเติบโตขึ้นของการลงประกาศโฆษณาขายรถยนต์ 25% โดยรวมแล้วมีรถยนต์ในแพลตฟอร์มอยู่กว่า 40,000 คัน ซึ่งในส่วนของรถบ้านนั้นมีการเติบโตของจำนวนรถกว่า100%” พรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กล่าวและเผยแผนดำเนินงานสำหรับปี 2560

โดยเป้าหมายหลักก็คือสร้าง One2Car.com เป็นช่องทางการซื้อขายรถยนต์ใหม่และมือสอง ที่มีการให้บริการหลากหลาย ครบวงจร ใช้งานง่าย รวมทั้งเสริมสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานและบริการที่ดีให้แก่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายผ่านฟีเจอร์การสนทนาในแอพพลิเคชั่น One2Car

ทั้งนี้ One2Car.com ในประเทศไทยร่วมกับพันธมิตรธุรกิจให้บริการตรวจสอบสภาพรถยนต์ ตลอดจนให้บริการจัดไฟแนนซ์, ประกันภัยรถยนต์ (Car Insurance) และแพ็กเกจการรับประกันชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ (Extended Warranty) อาทิ ธนาคารธนชาต แรบบิทไฟแนนซ์ สนับสนุนในส่วนดีลเลอร์และส่วนการให้สินเชื่อกับผู้ซื้อ

ในส่วนของแอพพลิเคชั่น One2Car เวอร์ชั่นใหม่ที่จะเปิดให้ใช้งานในเร็วๆ นี้ ผู้ซื้อและผู้ขายจะสามารถแชทคุยกันผ่านแอพพลิเคชั่นได้โดยตรงมีระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถที่ต้องการเข้ามาลงประกาศขายในเว็บไซต์ นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงหน้าตาเว็บไซต์ เพื่อให้ง่ายและรวดเร็วต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น ทางบริษัทหวังว่า การพัฒนาระบบครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ซื้อที่สนใจให้กับผู้ขายรถยนต์ รวมถึงจำนวนการซื้อขายผ่านช่องทางดังกล่าว

ปัจจุบัน มีผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น One2Car แล้วกว่า 400,000 ครั้ง และเชื่อว่าจะมียอดการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นอีกหลังจากที่เวอร์ชั่นใหม่ที่มีระบบแชทคุยในตัวจะเปิดใช้งานภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ทุกวันนี้มีรถลงประกาศขายกว่า 40,000 คัน ผู้ใช้งานเข้าเว็บอีก 2.5 ล้านคนต่อเดือน จำนวนดีลเลอร์กว่า 1,000 ราย และคาดว่าจะมีมากกว่า 2,000 รายภายในปีนี้

ไอคาร์ เอเชีย ประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งของไอคาร์ เอเชีย ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศออสเตรเลีย (Australian Securities Exchange) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มีเป้าหมายสร้างเครือข่ายครบวงจรด้านยานยนต์ในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events