The Standard, Bangkok Mahanakhon ชูแฟล็กชิพแห่งเอเชีย ปักหมุดคอนเซปต์แหวกแนวใจกลางกรุงเทพฯ - Forbes Thailand

The Standard, Bangkok Mahanakhon ชูแฟล็กชิพแห่งเอเชีย ปักหมุดคอนเซปต์แหวกแนวใจกลางกรุงเทพฯ

หลังจากประเดิมโรงแรม The Standard แห่งแรกในประเทศไทยด้วย The Standard, Hua Hin ที่ปลุกตลาดท่องเที่ยวหัวหินให้ครึกครื้นด้วยคอนเซปต์ใหม่และดีไซน์ที่มีสีสันสดใสเมื่อปลายปีที่ผ่านมา วันนี้ The Standard กำลังปักหมุดแห่งที่ 2 ด้วย The Standard, Bangkok Mahanakhon ที่คิง เพาเวอร์ มหานคร ตึกไอคอนิกของเมือง พร้อมกับคอนเซปต์แหวกแนวฉีกกฎโรงแรมตามแบบฉบับของ The Standard The Standard, Bangkok Mahanakhon มาพร้อมห้องพัก 155 ห้องขนาด 40 ตารางเมตรไปจนถึงเพ้นท์เฮาส์ขนาด 144 ตร.ม.ใน 8 สไตล์ที่แตกต่างเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การเข้าพักที่ไม่เหมือนใคร พร้อมห้องอาหารหลากหลายประเภทเอาใจนักชิม และบาร์สุดฮิปสำหรับนักดื่มที่จะเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ใหม่กระตุกต่อมความสนุกให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ปักหมุดแฟล็กชิพแห่งเอเชีย “โรงแรม The Standard เน้นความสนุกสนาน สีสันและความมีชีวิตชีวา ที่บอกเล่าผ่านแฟชั่น ดนตรี ไนท์ไลฟ์และอาหาร ซึ่งกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีองค์ประกอบเหล่านี้ทั้งหมด และยังเป็นเมืองที่มี Energy อีกด้วย” อมาร์ ลัลวานี่ Executive Chairman ของ Standard International บริษัทแม่ของเครือโรงแรม The Standard และ Bunkhouse Group เปิดเผยถึงเบื้องหลังการเลือกปักหมุดแฟล็กชิพแห่งแรกในเอเชียที่กรุงเทพฯ ลัลวานี่เป็นชาวต่างชาติอีกคนที่หลงรักกรุงเทพฯ เขาคุ้นเคยและรู้จักกรุงเทพฯ เป็นอย่างดีเพราะได้ใช้เวลา 2 ปีพำนักในเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลกแห่งนี้ และได้มีโอกาสสัมผัสเรื่องราว ผู้คน ดนตรี ศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งล้วนเต็มไปด้วยความสนุก ความมีชีวิตชีวา และเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร “แฟล็กชิพของเราในแต่ละภูมิภาคจะต้องอยู่ในเมืองที่มีผู้คนจากทุกที่ทั่วโลกมาเยือน ซึ่งก่อนโควิด-19 กรุงเทพฯ คือ เมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุดในโลก และเราเชื่อว่า หลังจากโควิด-19 คลี่คลายและนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเดินทางกันอีกครั้ง กรุงเทพฯ ก็จะยังคงเป็นเมืองอันดับหนึ่งที่ทุกคนอยากมาเยี่ยมเยือน” การเลือกทำเลที่ตั้งของแฟล็กชิพแห่งแรกในเอเชียที่กรุงเทพฯ เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย ซึ่งคิง เพาเวอร์ มหานคร หนึ่งในอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดดเด่นเรื่องดีไซน์และสถาปัตยกรรมรูปแบบพิกเซล 3 มิติ และมีทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจ แวดล้อมไปด้วยแหล่งเอ็นเตอร์เทนและแฮงค์เอาท์ ตอบโจทย์การปั้น The Standard ในกรุงเทพฯ ให้เป็นแฟล็กชิพแห่งเอเชีย “เราโชคดีที่ได้อาคารแห่งนี้เปิด The Standard แห่งแรกในกรุงเทพฯ ด้วยการสนับสนุนของบริษัท คิง    เพาเวอร์ ที่เลือกเราในฐานะแบรนด์โรงแรมที่สร้างความแตกต่างไม่เหมือนใคร และบริษัท แสนสิริ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหลัก ที่ช่วยสนับสนุนการพัฒนาโรงแรมของเราในไทย พันธมิตรทั้งสองสนับสนุนวิสัยทัศน์ของเราและทำให้ The Standard สามารถปักหมุดในกรุงเทพฯ เพื่อมอบประสบการณ์และบริการที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้” จัดเต็มไลฟ์สไตล์และดีไซน์นอกกรอบ Anything But Standard คือ คอนเซปต์หลักในการดีไซน์ และส่งมอบบริการและประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครตามแบบฉบับของ The Standard ที่ใช้โลโก้แบบกลับหัว “โลโก้ The Standard ที่กลับหัว คือ ความหมายของ Anything But Standard เราจึงเป็นทุกสิ่งยกเว้นสิ่งที่เป็นมาตรฐาน และทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับมาตรฐานโรงแรมทั่วไป เพราะธุรกิจโรงแรมไม่จำเป็นจะต้องเป็นแบบแผน ทำตามกฎเดิมๆ เทรนพนักงานในแบบเดิมๆ หรือจ้างพนักงานแบบเดียวกัน” สำหรับ The Standard จะเน้นให้พนักงานแสดงออกถึงตัวตนและบุคลิกในแบบฉบับของแต่ละคน ซึ่งพนักงานส่วนใหญ่เป็นคนวัยหนุ่มสาวชาว Millennials ที่การสะท้อนตัวตนเป็นสิ่งสำคัญ โดยในการคัดเลือกทีมงาน บางครั้งเป็นการคัดเลือกจากคนที่อาจจะไม่มีประสบการณ์ในการทำงานโรงแรม แต่มีความสนใจและความรู้เรื่องดนตรีและแฟชั่น ความพิเศษและแตกต่างที่ The Standard, Bangkok Mahanakhon มีทั้งการตกแต่ง ออกแแบบดีไซน์ภายใน การจัดแสง การเลือกสีเฟอร์นิเจอร์ รายละเอียดต่างๆ ที่มีความหมายซ่อนตัวอยู่ ชิ้นงานศิลปะมากมาย การตกแต่งด้วยวัสดุพื้นถิ่น เพื่อสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์แบบเด่นชัด โดยได้รับการออกแบบโดย Jaime Hayon ศิลปินและดีไซเนอร์ชาวสเปนที่ไม่เคยทำโรงแรมมาก่อน แต่เลือกใช้สี ลวดลายและรูปทรงงานออกแบบที่เปี่ยมด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ ร่วมกับทีมออกแบบของ The Standard “ก้าวแรกที่เข้ามาที่โรงแรม เราจะเห็นกล่องจัดแสดงผลงานศิลปะขนาดใหญ่ที่เรียกว่า The Box ที่ถูกจัดวางไว้ด้านหลังรีเซพชั่นจุดเช็กอิน เป็นไฮไลต์ของโรงแรมที่ทุกคนจะได้สัมผัสอาร์ตแกลลอรีที่จะมีผลงานของศิลปินต่างๆ ผลัดเปลี่ยนกันมาจัดแสดง เรียกได้ว่า ทุกครั้งที่มาเยือนโรงแรม เราจะได้เห็นงานศิลปะชิ้นใหม่ๆ เสมอ” อาร์ตแกลลอรีที่รอทักทายแขกผู้มาเยือนตรงจุดนี้ถือเป็นสิ่งที่ The Standard ตั้งใจรังสรรค์ให้สำหรับคนทั่วไปหรือคนกรุงเทพฯ สามารถเข้ามาเสพย์งานศิลป์ที่โรงแรมได้ ซึ่งแตกต่างจากโรงแรมทั่วไปที่มักสร้างเพื่อตอบโจทย์แขกที่มาพัก
The Standard Grill
The Standard, Bangkok Mahanakhon ดึงเอาความคลาสสิกมาลงที่ห้องอาหาร The Standard Grill สเต็กเฮาส์สไตล์อเมริกันที่มีแม่แบบมาจาก New York เน้นการตกแต่งที่ผสมผสานความโค้งมน และสีที่ตัดเข้ากันดีได้อย่างลงตัว
Ojo
นอกจากนี้ ยังมี Mott 32 Bangkok ตำนานความอร่อยสไตล์โมเดิร์นกวางตุ้งจากฮ่องกงสำหรับคออาหารจีน ซึ่งเป็นสาขาแรกในไทย และ Ojo ห้องอาหารเม็กซิกันบนชั้น 76 ที่ตกแต่งในสไตล์เรโทร โดยได้เชฟหนุ่มฝีมือเด็ด Francisco Paco Ruano มารังสรรค์เมนูให้นักชิมได้ลิ้มลองอาหารเม็กซิกันแท้ๆ
The Parlor
สำหรับสายดื่มสายปาร์ตี้ มีทั้งบาร์ในโรงแรมและรูฟท็อปบาร์ เริ่มที่ The Parlor แหล่งแฮงค์เอาท์ที่มีโซน    อินดอร์และเอาท์ดอร์ที่จะเป็นคอมมูนิตี้ใหม่สำหรับกลุ่มคนครีเอทีฟ ไม่ว่าจะมาจิบกาแฟในยามเช้า นั่งอ่านหนังสือในช่วงเย็น หรือฟังทอล์คโชว์ต่อด้วยปาร์ตี้ค็อกเทลในยามค่ำ “The Parlor จะเป็นที่สำหรับพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิด หรือเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ของนักเขียนพร้อมแจกลายเซ็นต์ก็ได้ เป็นพื้นที่ที่เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง และด้วยความที่เรารักในดนตรี เรามีบูธดีเจที่มีขนาดใหญ่จากซาวด์สตูดิโอของเราเองที่จะมาสร้างเสียงเพลงและเพิ่มสีสันแบบไม่จำเจ”
Tease
ติดกับ The Parlor คือ Tease ซึ่งเป็น Tea Room ที่ถูกออกแบบด้วยลายกราฟฟิคที่นำรูปทรงเรขาคณิตโดยเฉพาะสี่เหลี่ยมจตุรัสมาตัดสลับกับสีขาวดำเท่านั้น
Sky Beach
ปิดท้ายด้วย Sky Beach รูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในไทย บนชั้น 78 ชั้นเดียวกับ Observation Desk ของคิง เพาเวอร์ มหานคร สำหรับจิบค็อกเทลและดื่มด่ำบรรยากาศระฟ้าวิวเมืองกรุงเทพฯ แบบสุดลูกหูลูกตา 360 องศา
คุณอมาร์ ลัลวานี่
“เราตั้งใจให้ The Standard, Bangkok Mahanakhon เป็นมากกว่าโรงแรม เราต้องการให้เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของกรุงเทพฯ ด้วยกิจกรรมมากมายและบริการต่างๆ ทุกคนสามารถมาได้ทุกช่วงเวลา” ลัลวานี่ กล่าว The Standard, Bangkok Mahanakhon พร้อมเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ สามารถดูข้อมูลโรงแรมเพิ่มเติมได้ทาง https://www.standardhotels.com/bangkok/properties/bangkok และเชิญมาประเดิมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ได้ก่อนที่ Ojo ห้องอาหารเม็กซิกันที่ชั้น 76 และ Sky Beach บาร์รูฟท้อปบนขั้น 78 ที่จะเปิดพร้อมกันในวันที่ 8 มิถุนายนนี้