ขึ้นชื่อว่าการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง แต่การที่เราเลือกเก็บเงินไว้เฉยๆ แทนที่จะนำไปลงทุนเพื่อทำให้ทรัพย์สินที่มีงอกเงยก็ถือเป็นความเสี่ยงเช่นกัน เพราะอนาคตทรัพย์สินที่เคยมีอาจจะมีมูลค่าลดลงจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง การลงทุนผ่านสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนทรัพย์สินที่มีอยู่ให้งอกเงยจึงเป็นวิธีบริหารความมั่งคั่งที่เป็นที่นิยม เพราะผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพื่อออกแบบพอร์ตโฟลิโอให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงิน บนพื้นฐานความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพราะแต่ละคนย่อมมีเป้าหมายทางการเงินที่แตกต่างกัน ทำให้โจทย์ในการลงทุนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น บางคนอยากเกษียณไว และมีอิสรภาพทางการเงินตั้งแต่อายุ 50 ปี ขณะที่บางคนที่มีครอบครัว นอกจากจะต้องการสร้างหลักประกันให้ครอบครัว ยังมองไปถึงการส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่น
เพราะเป้าหมายที่แตกต่าง หัวใจสำคัญที่จะทำให้ไปสู่เป้าหมายทางการเงินที่คาดหวังได้อย่างไม่สะดุด ต้องมาจากการวางแผนที่รัดกุม โดยไม่ได้มองแค่เป้าหมายการเงินระยะสั้นหรือระยะยาว แต่ให้ความสำคัญกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นระหว่างทาง มารู้จักวิธีการบริหารความมั่งคั่งที่น่าจะตอบโจทย์การลงทุนได้ดีที่สุด
ธนาคารยูโอบี ขอแนะนำ Risk-First Approach การบริหารพอร์ตฯ ที่ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงเป็นอันดับแรก เป็นการบริหารความมั่งคั่งที่เป็นซิกเนเจอร์ของยูโอบี ในการเติมเต็มเป้าหมายทางการเงิน และนำไปสู่การแสวงหาโอกาสในการลงทุน เพิ่มผลตอบแทนที่เหมาะสม ตามแผนการลงทุนที่ออกแบบไว้ให้ลูกค้าอย่างดี
จุดเด่นของ Risk-First Approach คือ แม้จะเน้นสร้างความสมดุลระหว่างความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับผลตอบแทนที่ได้รับ แต่สิ่งที่ทำให้แนวคิดนี้โดดเด่นและแตกต่าง คือ “ก่อนจะมองหาโอกาสในการเพิ่มพูนผลตอบแทนได้ ต้องเริ่มจากการเรียนรู้และเข้าใจความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นก่อน” เหตุผลที่ต้องมอง “ความเสี่ยง” ให้ออกก่อนจะมองถึง “ผลตอบแทน” เพราะหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หลายคนไม่อาจพิชิตเป้าหมายที่วางไว้คือ ไม่สามารถแบกรับความเสี่ยงได้ ทำให้ต้องยอมเทขายสินทรัพย์ที่ถือไว้ก่อนเวลาอันควร จึงทำให้การบริหารพอร์ตฯไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่ถ้าใช้หลัก Risk-First Approach ปัญหานี้จะหมดไป เพราะยูโอบีจะช่วยประเมินและทำให้เห็นภาพรวมการลงทุนตั้งแต่ต้นว่า ถ้าเลือกบริหารพอร์ตฯแบบนี้จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงอะไรบ้าง และต้องรับความเสี่ยงในระดับไหน เพื่อการออกแบบพอร์ตฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกระจายพอร์ตฯการลงทุนให้หลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน หรือต่อให้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้นั่นเอง
ทีนี้มาเจาะลึกกันว่าการบริหารความมั่งคั่งแบบ Risk-First Approach เป็นอย่างไร ขั้นแรกทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากยูโอบีจะช่วยลูกค้าคนสำคัญกำหนดเป้าหมายในการลงทุนให้ชัดเจน ขั้นตอนต่อมา คือ การทำความเข้าใจความเสี่ยงในการลงทุนแต่ละประเภท เพื่อประเมินระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพราะการลงทุนแต่ละประเภทก็มีความเสี่ยงแตกต่างกัน ซึ่งความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน โดย Risk-First Approach แบ่งความเสี่ยงเป็น 3 กลุ่มได้แก่
• ความเสี่ยงที่จำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมาย
• ความเสี่ยงที่เลือกลงทุนได้
• ความเสี่ยงที่ยอมรับได้
หลังจากตีโจทย์ทั้งสองข้อได้แล้ว ก็วางแผนการลงทุนที่เหมาะกับเป้าหมายและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ จะแบ่งการลงทุนเป็น 3 ส่วน ได้แก่
• Protect เพื่อปกป้องและส่งต่อความมั่งคั่ง เช่น ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ประกันบำนาญ รวมถึงการบริหารเงินสำรองฉุกเฉินให้เพียงพอ
• Build สร้างความมั่งคั่งผ่านการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ หรือสามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอในระดับที่เหมาะสม เพื่อสร้างผลตอบแทนและบรรลุเป้าหมายการลงทุนระยะยาว เช่น ตราสารหนี้คุณภาพดี กองทุนรวมผสมที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายเพื่อสร้างสมดุลพอร์ต
• Enhance เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนผ่านการลงทุนที่ดูสภาวะตลาดเป็นหลัก โดยจะประเมินจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ มูลค่า แนวโน้ม และวัฏจักรของธุรกิจ
จะเห็นได้ว่า แม้ในทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงแต่เราสามารถเลือกบริหารความมั่งคั่งให้สร้างผลตอบแทนให้งอกเงย บนพื้นฐานความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่วางไว้ด้วยแนวคิด Risk-First Approach จากยูโอบี ที่มีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนพร้อมให้คำแนะนำด้วยความใส่ใจ เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถพิชิตเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นใจ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ UOB Privilege Banking โทร. 0 2081 0999
หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.uob.co.th/privilegebanking