DOHOME มุ่ง DIGITAL TRANSFORMATION เตรียมพร้อมสู่โลกอนาคต - Forbes Thailand

DOHOME มุ่ง DIGITAL TRANSFORMATION เตรียมพร้อมสู่โลกอนาคต

บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง และให้บริการด้านวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร ภายใต้แนวคิดการดำเนินธุรกิจ “ครบ ถูก ดี...ที่ดูโฮม” DOHOME เข้าทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2562 ด้วยราคา IPO 7.80 บาท คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์กว่า 14,478 ล้านบาท จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้านของบริษัทฯ ปัจจุบันจึงมีมูลค่าหลักทรัพย์ (Market Cap) กว่า 60,000 ล้านบาท ถือเป็นหนึ่งในสองของบริษัททางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และมีมูลค่าหลักทรัพย์สูงสุด DOHOME เป็นธุรกิจ Modern Trade อันดับต้นๆ ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 2.7%            (ที่มา: กระทรวงพาณิชย์ อ้างอิงจากรายงานวิจัยกรุงศรี) โดยในปี 2564 มีการเติบโตที่โดดเด่น จากผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1 และ 2 บริษัทฯ มียอดขายรวมเติบโต 33.7% และ 38.3% (YoY) ยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) เติบโต 22.5% และ 23.6% (YoY) จากกลยุทธ์ต่างๆ รวมถึงทีมงานที่พร้อมและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ในช่วงครึ่งปีแรกจึงทำให้บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 12,529 ล้านบาท ถือเป็นสถิติสูงสุดของ    บริษัทฯ ช่วยเล่าให้ฟังเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DOHOME DOHOME เป็นธุรกิจที่ก่อตั้งขึ้นในจังหวัดอุบลราชธานี เป้าหมายของเราคือการเป็น ‘One stop Home Product Destination’ สำหรับผู้บริโภค เรามีผลิตภัณฑ์มากกว่า 100,000 SKU และดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด “สินค้า ครบ ราคาถูก คุณภาพดี” เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เราย้ายสำนักงานใหญ่จากจังหวัดอุบลราชธานีเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ปัจจุบันเรามีสาขาขนาดใหญ่ทั้งหมด 14 สาขา และยังมีแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมจังหวัดต่างๆ ที่มีศักยภาพและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เรามีแผนขยายสาขาขนาดใหญ่ให้ครบ 36 สาขา ภายในปี 2568 ในฐานะธุรกิจที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัว เราให้ความสำคัญกับพนักงานเป็นอันดับแรก เราผลักดันให้พนักงานของเรามีนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และสร้างสถานที่ทำงานที่มีความสุขร่วมกัน DOHOME ถือว่าคู่ค้าทางธุริกจมีความสำคัญมากต่อความสำเร็จของเรา และตลอดจนพนักงานของเราที่มีส่วนสำคัญมากในการทำให้องค์กรของเราเติบโตอย่างยั่งยืน เราดำเนินธุรกิจด้วยนโยบายที่มีความรับผิดชอบใส่ใจต่อสังคม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญของความ สามารถขององค์กรให้เกิดความคล่องตัวและ ยืดหยุ่นมากขึ้น DOHOME รับมือกับการ Disruption ของ COVID-19 อย่างไร และมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้พร้อมสำหรับอนาคตมากขึ้นอย่างไร? นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมลูกค้าทีละน้อย เนื่องจากร้านค้าปลีกส่วนใหญ่ปิดตัวลงและหลายคนต้องอยู่บ้าน จึงทำให้ผู้บริโภคเริ่มปรับปรุงบ้านและตกแต่งบ้าน โดยปกติเรามักจะพึ่งลูกค้าที่เดินเข้าในสาขา แต่ในปีที่แล้วอินเทอร์เน็ตได้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดรูปแบบการซื้อใหม่ๆ ของผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้เราจึงปรับให้เข้ากับวิธีการใหม่ในการทำธุรกิจอย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาการเติบโตของบริษัทฯ    สิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับเราคือการเสริมความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของเรา นอกจากนี้เรายังจัดทีม ‘Change management’ ขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานทุกคนตระหนักถึงทิศทางใหม่ที่เรากำลังดำเนินการอยู่และจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งใหม่ๆ ที่บริษัทกำลังดำเนินการ สำหรับเรา ก่อนที่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลจะเกิดขึ้นสิ่งสำคัญมากคือต้องแน่ใจว่าพนักงานของเราจะเข้าใจวัตถุประสงค์ ยกระดับทักษะ และมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน ด้วยการสนับสนุนอันแข็งแกร่งจากฝ่ายบริหารของ DOHOME เราพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการในการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี เพื่อเสริมสร้างความสามารถภายในองค์กร รวมถึงการสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ DOHOME วางใจเลือก SAP เพื่อจัดการกับความ ท้าทายสำคัญที่เกิดขึ้น คุณช่วยอธิบายสิ่งที่นำไปสู่การตัดสินใจนี้ได้ไหม ว่ามีประโยชน์อะไรบ้าง? การลงทุนในเทคโนโลยีที่เหมาะสมเป็นก้าวแรกสู่การเติบโตของธุรกิจและบรรลุเป้าหมาย กลยุทธ์ของเราคือ การรวมข้อมูลและทำให้กระบวนการทางธุรกิจเป็นแบบอัตโนมัติ และด้วยเหตุนี้ เราจึงเปลี่ยนแปลงแกนหลักของเราให้เป็นดิจิทัลด้วย SAP S4HANA ซึ่งเป็นการจัดเก็บข้อมูลที่ทำให้ทุกคนในองค์กรเข้าถึงได้ง่าย สามารถทำงานร่วมกันและวางแผนได้ดียิ่งขึ้น การเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ยังช่วยให้เราบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้ดียิ่งขึ้น ระยะเวลาในการเติมสินค้าที่ลดลงช่วยลดสต็อกสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม การบรรลุประสิทธิภาพใหม่เหล่านี้ช่วยให้เราตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้เรายังใช้ประโยชน์จาก SAP Intelligent Robotic Process Automation (IRPA) เพื่อลดกระบวนการแบบ Manual และเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานในแต่ละวัน สำหรับในเรื่องการพัฒนาการเรียนรู้ เพื่อให้ทันกับการเติบโตในอนาคต SAP SuccessFactors จึงเป็นเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับกลยุทธ์เราที่ให้ความสำคัญกับบุคลากรของเราเป็นอันดับแรก เราใช้ระบบการจัดการ การเรียนรู้ เพื่อฝึกอบรมพนักงานและพัฒนาบุคลากรให้สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ ความรู้และความเชี่ยวชาญของทีม SAP รวมถึงพันธมิตรที่ช่วยเรื่องการดำเนินการ ได้แก่ Atos สำหรับ SAP S4HANA และ ABeam สำหรับ SAP SuccessFactors และ Round 2 สำหรับ IRPA ต่างมอบระบบสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมในทุกด้าน ด้วยความสามารถทางเทคโนโลยีใหม่ๆ วันนี้องค์กรและบุคลากรของเราจึงมีขีดความสามารถมากขึ้นในการจัดการกับความไม่แน่นอนในอนาคต หลายบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการ เปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโลกยุคหลัง    โรคระบาด คุณจะให้คำแนะนำอะไรกับพวกเขา? การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลช่วยให้องค์กรตามทันความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้าและโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ จึงไม่ถือว่าเป็นการลงทุนสูงอีกต่อไป แต่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการอยู่รอดของธุรกิจในยุคใหม่นี้ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเป็นวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องและจะขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจต่อไป เมื่อเราพิจารณาถึงโลกยุคหลังการแพร่ระบาด COVID-19 สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ พฤติกรรม ดิจิทัลของผู้บริโภคเปลี่ยนไปตลอดกาล ลูกค้าซื้อของออนไลน์มากขึ้นและใช้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อมากขึ้น เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และลำโพง เสียงอัจฉริยะ องค์กรต้องคำนึงถึงแนวโน้มใหม่ เหล่านี้เพื่อดึงและรักษา  ผู้บริโภคในโลกดิจิทัลไว้