Hublot เปิดตัวนาฬิกาคอลเลคชั่นพิเศษ South East Asia Special Editions
Hublot เปิดตัว 5 เรือนเวลารุ่นพิเศษ South East Asia Edition เพื่อร่วมฉลองและชื่นชมวัฒนธรรมการสะสมนาฬิกาหรูที่ขยายตัว แพร่หลาย ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งนาฬิกาคอลเลคชั่นพิเศษนี้ ประกอบไปด้วยรุ่น Big Bang ทั้งหมด 3 รุ่น (ขนาด 44มม, 41มม, และ 38มม), Classic Fusion Aerofusion Chronograph Ceramic ขนาด 45 มม. หนึ่งรุ่น, และ Spirit of Big Bang 42มม. อีกหนึ่งรุ่น)
คอลเลคชั่นสำหรับผู้หญิง
ความแตกต่างระหว่างนาฬิกา Hublot อิดิชั่นพิเศษ เฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และรุ่นที่มีจำหน่ายทั่วไปนั้น อยู่ที่การประดับเพชรและรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ โดยทั้ง Big Bang และ Big Bang Automatic รุ่นนี้จะมีการประดับเพชรน้ำงามขนาดใหญ่หนึ่งแถวรอบหน้าปัด แตกต่างจากรุ่นทั่วไปที่ประดับด้วยเพชรขนาดเล็กเรียงสองแถวรอบหน้าปัด ทั้งสองรุ่นยังมีความคล้ายคลึงกันในเทคนิคการออกแบบ แต่งพื้นผิวตัวเรือนสตีลแบบขัดเงาและขัดซาติน หน้าปัดสีดำขัดซาตินเป็นลาย sunray เข็มนาฬิกาเคลือบโรเดียมและสารเรืองแสงสีขาวเพื่อการมองเห็นที่ดีในที่แสงน้อย พร้อมสายยางรับเบอร์ แต่งหุ้มด้วยหนังจระเข้สีดำ
หากมองความแตกต่างของทั้งของนาฬิกาหรูจากสวิสทั้งสองรุ่นพิเศษนี้ นอกจากเรื่องของขนาดตัวเรือนแล้ว ยังอยู่ที่กลไกการทำงาน รุ่น Big Bang “Steel Diamonds” นั้น ประกอบด้วยฟังก์ชั่นแสดงวันที่ผ่านช่องที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ขณะที่รุ่น Big Bang Chronograph มีฟังก์ชั่นจับเวลา (ซึ่งคนรักนาฬิกาคงจะคาดเดาได้เรียบร้อยแล้วจากชื่อรุ่น) ข้อแตกต่างอื่นๆ ยังอยู่ในรายละเอียดเล็กๆ อย่างเช่น รูปแบบของตัวเลขแสดงหลักชั่วโมงแบบ military-stencil และขีดแสดงค่านาทีสีแดง แมทช์กับเข็มโครโนกราฟ ทั้งสองรุ่นสามารถกันน้ำได้สูงถึงระดับ 100 เมตร และมีสมรรถนะการสำรองพลังงาน 42 ชั่วโมง
ทั้งรุ่น Big Bang “Steel Diamonds” และ Big Bang Chonograph มาพร้อมสายยางรับเบอร์ แต่งหนังจระเข้สีดำ จับคู่ความแตกต่าง ทั้งคุณสมบัติการกันน้ำได้ดีของยาง และความนุ่ม สวมใส่สบาย รวมทั้งรูปลักษณ์ที่สวยหรูของหนังไว้อย่างลงตัว และยังเป็นการผสมผสานที่เหมาะกับการใช้งานในสภาพภูมิอากาศแบบศูนย์สูตรของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดี
คอลเลคชั่นสำหรับผู้ชาย
ความแตกต่างระหว่างนาฬิกา Hublot อิดิชั่นพิเศษ เฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รังสรรค์ขึ้นสำหรับผู้ชายที่ชื่นชอบนาฬิกา เมื่อเทียบกับรุ่นที่มีจำหน่ายทั่วไปนั้น ค่อนข้างเห็นได้ชัดกว่าคอลเลคชั่นสำหรับผู้หญิง เรือนเวลารุ่นพิเศษคอลเลคชั่นสำหรับผู้ชายชุดนี้ประกอบไปด้วย Big Bang Chronograph ตัวเรือนวัสดุฟรอสต์คาร์บอนไฟเบอร์, Classic Fusion Aerofusion Chronograph และ Spirit of Big Bang ทั้งสามรุ่นดีไซน์โทนสีดำแต่งรายละเอียดด้วยสีทอง ที่สื่อถึงความสภาพภูมิอากาศที่อบอุ่นสว่างไสวอันเป็นเอกลักษณ์ของภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำหรับรุ่น Big Bang Chronograph นั้น โดดเด่นการผสมผสานศิลปะการออกแบบเรือนเวลาของ Hublot ในยุค ’80 ที่อาศัยการนำสองวัสดุที่แตกต่างสุดขั้วอย่างทองคำและยางรับเบอร์มาผลิตนาฬิกา เข้ากับความสวยงามของลวดลายอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวเรือนและหน้าปัดวัสดุ frosted carbon fibre เสริมให้ สีเหลืองทองของขีดตำแหน่งแสดงเวลาต่างๆ และเข็มนาฬิกา (ซึ่งเคลือบสารเรืองแสงสีขาวเพื่อการอ่านค่าได้ดีแม้ในที่แสงน้อย) เคลือบทองคำ 3N ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น พร้อมด้วย แต่งด้วยสัญลักษณ์รูปตัว “H” ของแบรนด์ Hublot เคลือบทองคำ 3N บริเวณด้านล่างของโคนเข็มโครโนกราฟสีแดง ซึ่งเป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่สะท้อนความใส่ใจในการออกแบบดีไซน์ ทั้งเพื่อความสวยงามและต้องตาต้องใจแฟนนาฬิกา Hublot ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปะการออกแบบที่ใช้โทนสีดำช่วยขับเน้นดีไซน์การตกแต่งสีเหลืองทองทั้งหมดดูสว่าง สะดุดตา
หน้าปัดเรือนนาฬิการุ่นนี้ ยังมีฟังก์ชั่นแบบ tri-compax chronograph ซึ่งหมายความว่า บนหน้าปัดหลักยังประกอบไปด้วยสามหน้าปัดย่อย ได้แก่ หน้าปัดแสดงรอบเวลา 30 นาที ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา, แสดงค่า 12 ชั่วโมง ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา, และแสดงค่าวินาที ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ตามลำดับเมื่อเรียงตามเข็มนาฬิกา รายละเอียดอื่นๆ ของ Big Bang ขนาด 44มม. รุ่นพิเศษเพื่อคนรักนาฬิกาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ยังคงอยู่ในโทนสีดำเช่นเดียวกับตัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นสายยางรับเบอร์สีดำแต่งลายเส้นริ้วตลอดสาย ตัวล็อคแบบบานพับ (deployant buckle clasp) วัสดุเซรามิกสีดำและสเตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีดำ ภายในประกอบด้วยกลไกแบบอัตโนมัติ HUB4104 calibre ของ Hublot ซึ่งประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนทั้งหมด 252 ชิ้น และใช้อัญมณีภายในทั้งหมด 27 เม็ด ทำงานที่ความถี่ 4Hz และสามารถสำรองพลังงานได้ 42 ชั่วโมง
ส่วนนาฬิกาผู้ชายอีกสองรุ่นในคอลเลคชั่นพิเศษนี้ ทั้ง Classic Fusion Aerofusion Chronograph และ Spirit of Big Bang ตัวเรือนนาฬิกาเป็นวัสดุเซรามิกสีดำ แตกต่างกันที่เทคนิคการขัดแต่งพื้นผิว การขัดแต่งพื้นผิวแบบซาตินบนผิวทองคำ 3N ของขีดเข็มและสัญลักษณ์ต่างๆ รวมทั้งสัญลักษณ์ “H” ของแบรนด์ Hublot ด้วย
ตัวเรือนของนาฬิกา Classic Fusion Aerofusion Chronograph นั้น เป็นวัสดุเซรามิกสีดำ ขัดแต่งพื้นผิวแบบขัดเงาและขัดซาติน ขณะที่ส่วนปุ่มจับเวลารูปทรงสี่เหลี่ยมที่ควบคุมฟังก์ชั่นโครโนกราฟ และเม็ดมะยม เป็นทองคำ King Gold 18K ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของ Hublot สำหรับอีกรุ่น คือ Spirit of Big Bang ตัวเรือนรูปทรง tonneau วัสดุเซรามิกสีดำแต่งพื้นผิวแบบไมโครบลาสต์ เม็ดมะยมและปุ่มจับเวลาวัสดุไทเทเนียมเคลือบ PVD แต่งด้วยรับเบอร์สีดำ รวมทั้งฝาหลังตัวเรือนที่ยังคุมโทนความเข้มเป็นวัสดุเซรามิกสีดำ
กลไกภายในของ Classic Fusion Aerofusion Chronograph คือกลไกแบบอัตโนมัติฟังก์ชั่นโครโนกราฟของ Hublot HUB1155 สำรองพลังงาน 42 ชั่วโมง และกันน้ำได้ที่ความลึกระดับ 50 เมตร ส่วนรุ่น Spirit of the Big Bang ภายในคือกลไก HUB4700 อีกหนึ่งกลไกที่ยอดเยี่ยมของ Hublot สามารถสำรองพลังงานได้ 50 ชั่วโมง และมีสมรรถนะการกันน้ำลึกถึง 100 เมตร
คอลเลคชั่นพิเศษของ Hublot สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ เมื่อมองโดยรวมแล้ว สามารถกล่าวได้ว่าเป็นเสมือนบทสรุปการรวมตัวของทุกสิ่งที่ทำให้ Hublot ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์นาฬิกาสวิสแท้ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับไปทั่วโลก นั่นคือ นวัตกรรมด้านวัสดุศาสตร์ ดีไซน์ที่โดดเด่น และความล้ำเลิศของกลไกการทำงาน ถือได้ว่าเป็นคอลเลคชั่นที่เปิดตัวมาเพื่อเฉลิมฉลองและชื่มชมในวัฒนธรรมอันเกี่ยวข้องกับการสะสมและมองเห็นคุณค่าของเรือนเวลาชั้นสูง ซึ่งเป็นที่นิยมและแพร่หลายในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งบรรดาคนรักนาฬิกา ทั้งนักสะสมระดับมืออาชีพและผู้ที่ชื่นชอบสนใจต่างก็ไม่ควรพลาดโอกาสเป็นเจ้าของเรือนเวลาคอลเลคชั่นพิเศษเช่นนี้
กดติดตามข่าวสารนวัตกรรมล่าสุดและเรือนเวลารุ่นพิเศษจาก Hublot ได้ก่อนใคร
ผ่าน Hublot Bangkok Instagram