34 ปีแอมเวย์ไทย กับความสำเร็จและการเติบโตอย่างยั่งยืน - Forbes Thailand

34 ปีแอมเวย์ไทย กับความสำเร็จและการเติบโตอย่างยั่งยืน

แอมเวย์ ในฐานะหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมขายตรงไทยที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจมายาวนานถึง 34 ปี การทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องถือว่าเป็นความท้าทาย  อย่างมาก ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาหลายธุรกิจได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส    โควิด-19 ทำให้ต้องอาศัยการปรับตัวและใช้ปัจจัยต่างๆ ในการฝ่าวิกฤตนี้ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตและอยู่ในใจผู้บริโภคตลอดไป กิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปัจจัยความสำเร็จของแอมเวย์ที่สามารถดำเนินธุรกิจและเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจผู้บริโภคยาวนานกว่า 34 ปี คือ คุณภาพของสินค้าที่เป็นที่ยอมรับในกลุ่มคนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Health & Well-Being) การ    เตรียมความพร้อมทางด้านดิจิทัลเพื่อสนับสนุนนักธุรกิจแอมเวย์และลูกค้า ความน่าเชื่อถือขององค์กร รวมถึงความแข็งแกร่งของวิสัยทัศน์ที่ต้องการมอบคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้คน” ปรับกลยุทธ์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เมื่อวิเคราะห์กลยุทธ์ทางการตลาดและการสื่อสารของแบรนด์แอมเวย์ จะเห็นได้ว่าแบรนด์มีความโดดเด่นในเรื่องของการปรับตัวและพัฒนาแผนกลยุทธ์อยู่อย่างต่อเนื่อง เช่น การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัย    นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ยกตัวอย่างการเปิดตัวสินค้าไลน์ใหม่ n*by Nutrilite ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบใหม่โดนใจกลุ่ม Young Gen และ Young at Heart  Artistry Skin Nutrition ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวด้วยการนำ “เทคโนโลยีผิวที่ล้ำสมัย” ผสานเข้ากับ “ส่วนผสมจากพืชธรรมชาติ” จากฟาร์มออร์แกนิคนิวทริไลท์ ทั้งยังเป็น clean beauty ปราศจากส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิว ไม่มีส่วนผสมที่มาจากสัตว์และไม่มีการทดลองกับสัตว์ และล่าสุด Atmosphere Mini เครื่องกรองอากาศสำหรับห้องขนาดเล็ก ตอบโจทย์สำหรับคนเป็นภูมิแพ้อากาศ ด้วยประสิทธิภาพการกรองที่มากกว่า PM2.5 เพราะสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.0024 ไมครอน* หรือเล็กกว่า PM 2.5 ถึง 1,000 เท่า ด้วยประสิทธิภาพการกรองมากถึง 99.99%* สามารถกรองเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรียและสิ่ง      ปนเปื้อนในอากาศได้กว่า 300 ชนิด** ลงทุนพัฒนาด้านดิจิทัลต่อเนื่อง เข้าใจไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เพื่อให้แบรนด์ขายตรงยังคงเดินหน้าต่อไปในโลกอนาคต แอมเวย์ทุ่มงบลงทุนด้านดิจิทัลเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ให้การทำธุรกิจแอมเวย์ง่ายขึ้น เช่น การเพิ่มช่องทางการซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของบริษัท การเข้าถึงข้อมูลสินค้า และการติดต่อสอบถามเรื่องต่างๆ ด้วย Chatbot อีกทั้งได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่น Amway Click เพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจให้สะดวกครบจบในที่เดียว ถือเป็นการ Simplified Shopping Experience ครั้งใหญ่ของแอมเวย์ประเทศไทย “แอมเวย์พร้อมรองรับการเติบโตในยุคดิจิทัลด้วยการพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับนักธุรกิจแอมเวย์และผู้บริโภคด้วยอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มรูปแบบ      แอพพลิเคชั่นหลากหลายที่สนับสนุนการทำธุรกิจให้ง่ายขึ้น รวมถึงการทำให้นักธุรกิจแอมเวย์สามารถสร้างการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย (Social Selling) ด้วยการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ต่างๆ เข้ากับประสบการณ์ด้านดิจิทัล ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุด” กิจธวัช กล่าวเสริม ในส่วนของแผนการสื่อสาร เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้การสื่อสารใน      รูปแบบ offline ถูกปรับไปเป็น online เกือบทั้งหมด ผลดีคือการแชร์ข้อมูลสินค้าถึงกลุ่มผู้บริโภครวดเร็วและเกิดการบอกต่อเป็นวงกว้างมากขึ้น นักธุรกิจแอมเวย์มีประสบการณ์ใหม่จากการจัดอบรมแบบออนไลน์ของบริษัท การจัดประชุมธุรกิจแบบออนไลน์ของทีมงานตนเอง และที่สำคัญกว่านั้นคือการสื่อสารแบบออนไลน์ช่วยสนับสนุนนักธุรกิจแอมเวย์สามารถสร้าง Personal Branding ผ่านแพลตฟอร์ม Social Media ส่วนตัว สร้างสรรค์เรื่องราวให้น่าสนใจจนกลายเป็น Micro-influencer ได้ ด้วยเหตุนี้แอมเวย์จึงเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่กลุ่มคนรุ่นใหม่เริ่มคุ้นเคยเมื่อพูดถึงอาชีพอิสระที่เริ่มต้นได้ง่าย สามารถสร้างธุรกิจของตนเองได้สะดวกและรวดเร็ว “โควิด-19” ปัจจัยสร้างการเปลี่ยนแปลง พร้อมปรับแผนให้เข้ากับสถานการณ์ เมื่อพูดถึงตัวอย่างการปรับตัวขององค์กร ตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19    แอมเวย์มีการเตรียมความพร้อมและปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์อย่างรวดเร็วในทุกด้าน ทั้ง Infrastructure ให้ระบบการซื้อสินค้าบนช่องทางออนไลน์ทำได้ง่ายและไม่ติดขัด เชื่อมต่อไปยัง Logistic ที่ทำการขนส่งตรงต่อเวลาและจัดการสต็อคสินค้าได้อย่างเหมาะสม รวมถึง Communications เน้นการสื่อสารภายในขององค์กรกับพนักงาน และการสื่อสารภายนอกกับนักธุรกิจแอมเวย์และสมาชิกที่มีความชัดเจนและทันสถานการณ์ นอกจากนั้น ด้วยวัฒนธรรมองค์กรที่เน้น Growth Mindset ในการบริหารงานแบบมุมมองเชิงบวก ทำงานเป็นทีมเวิร์ค เปิดเผยและรับฟัง แอมเวย์จึงสามารถปรับแผนทุกด้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ “การจะทำให้แบรนด์แอมเวย์คงอยู่อย่างยั่งยืน เรามุ่งเน้นความจริงใจต่อผู้บริโภค สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า รับประกันความพอใจ เพื่อครองใจผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง รวมถึงต้องพร้อมปรับเปลี่ยนและพัฒนาองค์กรให้สามารถขับเคลื่อนไปได้ท่ามกลางสถานการณ์ต่างๆ และสนับสนุนโอกาสในการสร้างรายได้ควบคู่ไปกับการปลูกฝังจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจให้แก่นักธุรกิจ  แอมเวย์ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ Helping People Live Better, Healthier Lives. ที่เรายึดมั่นมาโดยตลอด” กิจธวัช กล่าวทิ้งท้าย
* ทดสอบโดยห้องทดลองอิสระตามมาตรฐาน EN1822 European HEPA ผลทดสอบแบบ Single Pass Efficiency ** ทดสอบโดยห้องทดลองอิสระด้วยวิธีการประเมินด้วยแบบจำลองคอมพิวเตอร์ *** ทดสอบโดยปล่อยสิ่งปนเปื้อนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าสู่เครื่องกรองอากาศในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม