Miskawaan ชูเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยและทดสอบค่ามะเร็งถึงระดับยีนส์ เพื่อต่อยอดสู่การฟื้นฟูและบำบัดผู้ป่วยมะเร็งด้วยระบบภูมิคุ้มกัน - Forbes Thailand

Miskawaan ชูเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยและทดสอบค่ามะเร็งถึงระดับยีนส์ เพื่อต่อยอดสู่การฟื้นฟูและบำบัดผู้ป่วยมะเร็งด้วยระบบภูมิคุ้มกัน

มร.เดวิด บอม ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสกวาน เฮลธ์ กรุ๊ป จำกัด หรือ MHG ศูนย์ดูแลรักษาและฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวมภายใต้ความเชื่อที่ว่า ‘หมอที่ดีที่สุดคือร่างกายของคุณเอง’ กล่าวว่า “MHG เราใช้ศาสตร์การรักษาที่เรียกว่า ‘สมุทัยเวชศาสตร์’ (Functional Medicine) ซึ่งมุ่งเน้นการเข้าใจถึงความซับซ้อนของร่างกายมนุษย์ และวินิจฉัยถึงต้นเหตุของโรคเป็นรายบุคคล โดยค้นลึกลงไปถึงระดับเซลล์และชีวเคมี ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง ผ่านการวิเคราะห์จากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมไปถึงการใช้ยาและสารสกัดต่างๆ จากธรรมชาติในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ที่ช่วยป้องกันและต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคมะเร็ง” สมกับปณิธาณที่ว่า “MHG is the Future of Healthcare for Humans” เป็นศูนย์ดูแลและรักษาสุขภาพแห่งอนาคตสำหรับทุกคน มร.บอม ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงนอกจากจะช่วยป้องกันการเกิดโรคแล้ว ยังช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งสามารถฟื้นฟูร่างกายเพื่อต่อสู้กับมะเร็งได้ดียิ่งขึ้น เราจึงเปิด Miskawaan Integrative Cancer Care (MICC) สถานฟื้นฟูและบำบัดผู้ป่วยมะเร็งมิสกวาน โดยเป็นส่วนหนึ่งและใช้แนวทางการรักษาของ MHG ที่ถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงผู้ป่วยมะเร็งเป็นหลัก ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบการรักษา ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันมะเร็ง การตรวจวินิจฉัยและทดสอบค่ามะเร็งเฉพาะบุคคลด้วยเทคโนโลยี Metavectum ซึ่งผลการทดสอบนี้จะช่วยให้แพทย์ประเมินวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยรายนั้นต่อมะเร็งชนิดนั้นได้แม่นยำมากขึ้น เนื่องจากมะเร็งทุกชนิดมีลักษณะเฉพาะ และแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล การวินิจฉัยและการรักษา จึงจำเป็นต้องออกแบบเฉพาะบุคคลด้วย ซึ่งโจทย์สำคัญของเราคือ การทำให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแม้จะเป็นโรคมะเร็ง แต่ก็สามารถมีชีวิตที่ยืนยาวและอยู่กับมะเร็งได้อย่างมีความสุข” ทุกขั้นตอนในการรักษามะเร็งในแบบฉบับของมิสกวาน นำทีมโดยนายแพทย์โจฮานเนส เวสต์โซเลย์ วิสัญญีแพทย์จากประเทศเยอรมนี ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทมิสกวาน เฮลธ์ กรุ๊ป ผู้มีประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 20 ปีในการบุกเบิกวิธีการรักษามะเร็งรูปแบบใหม่ โดยเชื่อว่าร่างกายและสุขภาพของแต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงต้องออกแบบวิธีการรักษาผู้ป่วยแบบองค์รวมตามแบบฉบับของแต่ละบุคคล
นายแพทย์โจฮานเนส เวสต์โซเลย์ วิสัญญีแพทย์จากประเทศเยอรมนี
นพ. เวสต์โซเลย์ ได้ให้ความเห็นว่า “ส่วนต่างๆ ในร่างกายเชื่อมโยงเป็นระบบชีววิทยาเดียวกันทั้งหมด ผมจึงรักษาแบบองค์รวมทั้งร่างกายของคนไข้ ไม่ใช่แค่รักษาเฉพาะโรคของพวกเขา กล่าวคือจะกำจัดเซลล์มะเร็งอย่างไรโดยไม่ทำให้สุขภาพของคนไข้อ่อนแอลงเรื่อยๆหลังการรักษา นอกจากนี้ผมยังทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ดร.รีเบคก้า เซอร์เบล หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันของมิสกวาน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการก่อตัว การลุกลาม และการรักษามะเร็ง เราร่วมกันพัฒนาตัวยาและสารสกัดที่เป็นประโยชน์ต่างๆทางหลอดเลือด (IV Infusion) ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของมิสกวาน ซึ่งตัวยาเหล่านี้มีลักษณะทางชีวภาพแบบเดียวกันกับธรรมชาติ ข้อดีของตัวยาที่ปราศจากสารพิษนี้คือการให้ผลลัพธ์ในการรักษาที่ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นผลร้ายและช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ให้ผ่านทางหลอดเลือดดำเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาผู้ป่วยโดยไม่ต้องผ่านการดูดซึมเหมือนการรับประทาน เพราะสารอาหารที่มีประโยชน์บางอย่าง ร่างกายเราก็ไม่สามารถรับประทานเพื่อให้ได้ปริมาณมากเพียงพอกับความต้องการ หน้าที่หลักของเราคือการนำความรู้ในเชิงวิทยาศาสตร์มาใช้ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดกับคนไข้ และสรรหาสิ่งที่เหมาะกับคนไข้แต่ละบุคคลอย่างแท้จริง” ทั้งนี้ MICC รวมถึง “โปรแกรมบำบัดและฟื้นฟูร่างกายหลังการรักษาโรคมะเร็ง” ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ไม่เหมือนใคร โดยได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวของแต่ละบุคคล หลังจากผ่านการบำบัดรักษามะเร็ง ด้วยวิธีการดั้งเดิม เช่น เคมีบำบัด การฉายรังสี หรือการผ่าตัด ซึ่งเป็นโปรแกรม 4 สัปดาห์ เริ่มต้นด้วยการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดโดย ใช้ EDIM เทคโนโลยีทางการแพทย์ด้านโรคมะเร็งขั้นสูงจากประเทศเยอรมนี ควบคู่กับการตรวจโปรไฟล์ของระบบภูมิคุ้มกัน หลังจากนั้น ทีมแพทย์และนักบำบัดของ MICC จะนำผลการวินิจฉัยมาเป็นแนวทาง เพื่อออกแบบแผนฟื้นฟูสุขภาพเฉพาะบุคคลที่เหมาะสมที่สุดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่แต่ละบุคคลกำลังเผชิญอยู่ ทั้งการให้วิตามินทางสายเลือด การบำบัดด้วยโอโซน และ การนวดระบายน้ำเหลือง ซึ่งผู้ป่วยจะได้รับการดูแลทางโภชนาการที่ปรับแต่งขึ้นเป็นรายบุคคลด้วย นอกจากนี้ ยังมีการทำกายภาพบำบัด การสร้างระบบภูมิคุ้มกันใหม่ การบำบัดด้วยกิจกรรมต่างๆ การออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพจิต ก่อนทดสอบ EDIM อีกครั้งเพื่อติดตามอาการ บริการที่ไม่เหมือนใครนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็งในการฟื้นฟูสมรรถภาพและวิถีชีวิตที่ดี แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ให้บริการทางการแพทย์ เช่นโรงพยาบาล และคลินิกมะเร็งอีกด้วย โปรแกรมดังกล่าว มีให้บริการทั้งสองที่ ณ สถาบันจิณณ์ เวลเนส (JIN Wellbeing County) รังสิต และที่มิสกวาน บีชฟร้อน วิลล่า (Miskawaan Beachfront Villas) บนเกาะสมุย ซึ่งเป็นคลินิกริมหาดที่แรกในประเทศไทย พร้อมที่พักแบบวิลล่าส่วนตัวเหมาะสำหรับผู้ป่วยในการพักฟื้นกับครอบครัวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าคุณจะกลับบ้านพร้อมร่างกายและสภาพจิตใจที่แข็งแรง “โควิด-19 ทำให้หลายคนชะลอการไปพบแพทย์ ซึ่งทำให้โรคบางโรคอาจจะพัฒนาไปในทางที่แย่ลง โดยเฉพาะมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่ควรตรวจให้พบและรักษาให้เร็วที่สุด เพราะเซลล์มะเร็งก่อตัวในร่างกายของเราทุกวัน แต่ภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราแข็งแรงมากเพียงพอที่จะจัดการกับเซลล์มะเร็งได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราจึงควรให้ความสำคัญกับระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเรา” มร.บอม กล่าว “โควิด-19 ยัง ทำให้หลายคนหันมาใส่ใจเรื่องระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมากขึ้น เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงหรืออาการจากการติดเชื้อได้” Miskawaan Integrative Cancer Care (MICC) เปิดให้บริการแล้ววันนี้ ที่ชั้น 4 อาคาร เอ สถาบันจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ถนนวิภาวดีรังสิต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-086-8888 หรือ E-Mail: micc@miskawaanhealth.com เว็บไซต์: https://www.miskawaanhealth.com/cancer/