“แม่ประนอม” เจเนอเรชั่น 3 ส่งต่อสูตรลับ 63 ปีแห่งความสำเร็จ
ด้วยสินค้าคุณภาพ “ไม่ใส่สี ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่วัตถุกันเสีย” ชูแนวทางการทำธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ พร้อมเปิดตัวน้ำจิ้ม-น้ำพริกเพื่อสุขภาพ บุกตลาดออนไลน์ต่อเนื่อง รับเทรนด์หลัง COVID-19
‘ตราแม่ประนอม’ พร้อมโลโก้รูปหน้าแม่ประนอมหรือประนอม แดงสุภา ผู้เป็นเจ้าของและต้นตำรับสูตรน้ำพริกเผาไทยที่บรรจุใส่กระปุกแก้วเป็นรายแรกๆ ในประเทศ ถือเป็นแบรนด์และโลโก้ที่คุ้นหูคุ้นตาคนไทยมานานกว่าครึ่งศตวรรษ เพราะขึ้นชื่อเรื่องน้ำพริก น้ำจิ้ม และน้ำพริกแกงสูตรต่างๆ ที่มีคุณภาพ มีรสชาติถึงเครื่องและเป็นเอกลักษณ์ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องปรุงยอดฮิตประจำบ้านติดครัวคนไทยมาอย่างยาวนาน และได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศทั่วโลก
วันนี้ ตราแม่ประนอม ซึ่งเข้าสู่ปีที่ 63 เผยสูตรลับแห่งความสำเร็จที่ไม่ได้มีดีแค่เคล็ดลับในการผลิต แต่ยังเป็นสูตรลับในการบริหารธุรกิจอีกด้วย
ส่งต่อคุณภาพและความซื่อสัตย์
อุรชา พีชาสารานนท์ กรรมการ บริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด ผู้ผลิตน้ำพริกไทยและน้ำจิ้มสูตรต่างๆ ภายใต้แบรนด์แม่ประนอม เปิดเผยถึงปัจจัยแห่งความสำเร็จของแม่ประนอมที่ดำเนินธุรกิจและครองใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ว่ากุญแจแห่งความสำเร็จที่ถูกส่งต่อมาตั้งแต่รุ่นที่ 1 ซึ่งเป็นรุ่นของคุณตาและคุณยาย สู่รุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นรุ่นของคุณพ่อและคุณแม่ จนถึงรุ่นที่ 3 ที่เป็นรุ่นของตน ก็คือ เรื่องความซื่อสัตย์
“ความซื่อสัตย์เป็นเรื่องที่รุ่นคุณตาคุณยายและรุ่นคุณพ่อคุณแม่เน้นย้ำมาตลอดและให้ความสำคัญมาก เพราะความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐานของความสำเร็จ” หลานสาวคนโตวัย 35 ปีของคุณยายประนอม กล่าว “หากเราต้องการความสำเร็จที่ยั่งยืน เราจะต้องดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารธุรกิจ มีคุณธรรมและจริยธรรมทั้งต่อพนักงานและพันธมิตรทางการค้า”
สิ่งสำคัญคือ ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า โดยการใส่ใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์แลความปลอดภัย ตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกวัตถุดิบที่ต้องผ่านการคัดสรรมาอย่างดี โดยเน้นการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทย ไปจนถึงขั้นตอนการผลิต ซึ่งดำเนินการภายใต้นโยบายหลักในการผลิตสินค้าตราแม่ประนอมที่จะต้อง ‘ไม่ใส่สี ไม่ใส่ผงชูรส และไม่ใส่วัตถุกันเสีย’ นี่คือที่มาของไอเดียในการบรรจุน้ำพริกและน้ำจิ้มในกระปุกแก้วหรือขวดแก้วของผลิตภัณฑ์แม่ประนอม เพราะเป็นการถนอมอาหารให้อยู่ได้นาน
นอกจากนี้ การใช้บรรจุภัณฑ์แก้วยังช่วยลดภาวะโลกร้อน เพราะแก้วสามารถนำมารีไซเคิลได้ไม่รู้จบ ถือเป็นการลดขยะให้กับโลกอีกทางหนึ่ง ซึ่งการใช้บรรจุภัณฑ์แก้วยังช่วยในเรื่องการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปในหลายประเทศที่ให้ความใส่ใจเรื่องขยะพลาสติก ตัวอย่างเช่นประเทศญี่ปุ่น ที่ไม่ต้องการให้มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-Use Plastic) เพราะยากต่อการรีไซเคิล
มุ่งสู่ผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารระดับโลก
อุรชา กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างการเติบโตของธุรกิจให้มีความยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารระดับโลก โดยคงมาตรฐาน คุณภาพ รสชาติ และเอกลักษณ์ของความเป็นไทย
บริษัทยังได้กำหนดพันธกิจต่างๆ ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ พันธกิจต่อลูกค้า โดยการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า พันธกิจต่อองค์กร โดยการขับเคลื่อนองค์กร เพื่อมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ ทั้งทางด้านการเติบโตและผลตอบแทนอย่างยั่งยืน พันธกิจต่อสังคม โดยส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมทั้งภายในและภายนอกองค์กร และพันธกิจต่อพนักงาน ซึ่งมีกว่า 400 คน โดยสร้างวัฒนธรรมองค์กร สร้างความภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร และส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กร
“คน คือ ทรัพยากรที่สำคัญของเรา เราต้องการทั้งคนเก่งและคนดี โดยเน้น 3 สร้าง คือ สร้างเสริมศักยภาพของบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นการ Reskill หรือ Upskill เพื่อพัฒนาศักยภาพให้กับทีมผู้บริหารและพนักงานทุกระดับให้มีความรู้และความเข้าใจใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นกับโลกภายนอก เราเปิดโอกาสให้พนักงานทุกวุฒิทุกตำแหน่งพัฒนาศักยภาพของตัวเอง เพื่อเติบโตในหน้าที่การงาน ซึ่งนำมาสู่การสร้างความผูกพันและรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของงาน เป็นการสร้างความเชื่อมั่นในองค์กรในท้ายที่สุด”
ทั้งหมดนี้คือแรงผลักดันที่ทำให้ธุรกิจของแม่ประนอมเติบโตและประสบความสำเร็จได้ โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถรักษาการเติบโตของยอดขายไว้ได้ แม้จะต้องเผชิญกับผลกระทบต่างๆ จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่น การล็อกดาวน์ที่กระทบกับยอดขายในโมเดิร์นเทรด
ปรับตัวสู้วิกฤตโควิด-19
แม้ธุรกิจของแม่ประนอมจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทจำหน่ายสินค้าในโมเดิร์นเทรด และมีร้านแฟล็กชิพสโตร์ที่ไอคอนสยาม ซึ่งเผชิญกับการล็อกดาวน์และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดน้อยลง รวมทั้งธุรกิจของลูกค้าอย่างร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์เช่นกัน บริษัทจึงเร่งปรับตัวรับสถานการณ์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป อุรชากล่าว
“ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้ได้รับประสบการณ์การซื้อของในรูปแบบใหม่ เราจึงต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และกลุ่มลูกค้า ทั้งลูกค้าเดิมที่รู้จักแบรนด์แม่ประนอมดี และกลุ่มลูกค้าใหม่ เช่น กลุ่ม New Gen โชคดีที่เราได้ทำแผนการตลาดสำหรับช่องทางออนไลน์ไว้ก่อนเกิด โควิด-19 ในแคมเปญ ‘เชื่อแม่’ และวางพื้นฐานแพลตฟอร์มออนไลน์ไว้ จึงสามารถดึงมาใช้ได้ทันทีในช่วงโควิด-19”
สำหรับช่องทางออนไลน์ของแม่ประนอม มีทั้งการจำหน่ายผ่านช้อปปี้และลาซาด้า ไลน์ออฟฟิเชียลและ เฟซบุค ซึ่งช่วงโควิด-19 ยอดขายทางออนไลน์มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากในช่วงก่อนโควิด-19 เป็นกว่า 100% ในปัจจุบัน โดยบริษัทยังคงเดินหน้าเรียนรู้ความต้องการของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ แต่ยังคงรักษาตำนานแบรนด์แม่ประนอมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน
“การปรับตัวที่รวดเร็วถือเป็นหัวใจสำคัญในการฝ่าฟันวิกฤต” อุรชากล่าว “ช่วงล็อกดาวน์ที่ร้านอาหารต้องปิด คนไม่ทานอาหารนอกบ้านและเริ่มทำอาหารทานเองที่บ้าน เราจึงคิดวิธีสื่อสารกับผู้บริโภค เช่น การให้ความรู้ วิธีปรุงเมนูต่างๆ ด้วยผลิตภัณฑ์แม่ประนอม สร้างคอนเทนท์การทำอาหารเมนูง่ายๆ แต่อร่อยแน่ๆ สั่งซื้อง่ายผ่านออนไลน์ ซึ่งทีมงานแม่ประนอมทุกคนช่วยกัน ทำให้เราผ่านพ้นวิกฤตและเดินหน้าต่อไปได้”
สำหรับปี 2565 อุรชามองว่า ยังคงเป็นปีที่ท้าทายของธุรกิจ เพราะยังมีความเสี่ยงจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ แต่คาดว่า สถานการณ์ต่างๆ น่าจะเริ่มดีขึ้นในไตรมาสที่ 2 เพราะหลายคนปรับตัวกับโควิด-19 ได้ และรู้ว่าจะต้องป้องกันตัวเองอย่างไร บริษัทจึงวางเป้าหมายการเติบโตไว้กว่า 15% โดยจะหาช่องทางการจัดจำหน่ายต่างๆ ให้มากขึ้น เพราะโลกหลังเกิดโควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องทางออนไลน์ ซึ่งมีอัตราเติบโตสูงในปี 2563 เมื่อเทียบกับปี 2562”
พลิกเกมการตลาด ดึงลูกค้าเจนใหม่
อุรชา ซึ่งคลุกคลีกับธุรกิจครอบครัวมาตั้งแต่ยังเด็ก ได้เรียนรู้ทุกแผนกของบริษัทก่อนเข้ามาร่วมงานในภาพรวมทั้งหมด โดยงานหลัก คือ การสนับสนุนส่วนงานต่างๆ ทั้งการจัดซื้อจัดหา แผนกทรัพยากรมนุษย์ กฎหมาย ไอที และความปลอดภัย ขณะที่น้องสาวอีก 2 คน ดูแลด้านการตลาดและไลน์การผลิต ทั้งสามพี่น้องได้มีส่วนในการสร้างเกมการตลาดใหม่ให้กับแบรนด์แม่ประนอม
“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราอยากสร้างแบรนด์แม่ประนอมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้รู้จักแบรนด์แม่ประนอม จากภาพแบรนด์แม่ประนอมที่เป็นของคนรุ่นแม่เป็นผู้ซื้อ แต่หากเรารีอิมเมจหรือรีโปรดักต์ใหม่ เปลี่ยนฉลากหรือเปลี่ยนรูปลักษณ์ อาจจะกระทบตลาดฐานลูกค้ากลุ่มเดิมของเรา เราจึงใช้สื่อออนไลน์ในการตีตลาดคนรุ่นใหม่ และก็ได้ผล โดยหนึ่งในแคมเปญที่เกิดเป็นไวรัล คือ โฆษณาที่รูปหน้าแม่ประนอมเคลื่อนไหวและพูดได้ ถือเป็นความสำเร็จหนึ่งของแม่ประนอม”
นอกจากนี้ แม่ประนอมยังได้ทำ Cross Marketing โดยร่วมกับกูลิโกะ ประเทศไทย เป็นรายแรก ออกสินค้ากูลิโกะรสน้ำจิ้มไก่และรสน้ำพริกเผาไทย เป็นลิมิเต็ด เอ็ดดิชั่นในช่วงสั้นๆ ก่อนเกิดโควิด-19 และประสบความสำเร็จมาก แบรนด์ต่อมา คือ แกรม แพนเค้ก เป็นแซนวิชไส้น้ำพริกเผาไทย โดยก่อนหน้านี้ แบรนด์แม่ประนอมก็ประสบความสำเร็จมาแล้วจากผลิตภัณฑ์น้ำจิ้มไก่และน้ำพริกเผาไทยในหลอดบีบ ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภค เนื่องจากพกพาสะดวก ไม่หนักและไม่ต้องเท ซึ่งหลอดบีบทำให้ยอดขายทางออนไลน์เติบโตสูงมากในช่วงโควิด-19
“บริษัทยังมองเรื่องขนาดของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากช่วงล็อกดาวน์ ธุรกิจร้านอาหารต้องหยุดชะงัก ดังนั้นการผลิตสินค้าในบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่ๆ ต้องมีการชะลอตัว และต้องหันมาผลิตในบรรจุภัณฑ์ที่มีขนาดเล็กลง และเป็นขนาดของรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำเองที่บ้านได้ พร้อมปรุงและพร้อมทาน”
เตรียมเปิดตัวน้ำจิ้ม-น้ำพริกเพื่อสุขภาพ
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ตราแม่ประนอมมี 6 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ น้ำพริก น้ำจิ้ม น้ำพริกแกง ผลิตภัณฑ์พร้อมปรุง เครื่องปรุงรสกึ่งสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ โดยผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์แม่ประนอมมีมากถึง 97 รายการ ซึ่งจะมีช่องทางการจำหน่ายที่แตกต่างกันออกไป โดยยอดขายของแม่ประนอมแบ่งเป็นยอดขายในประเทศสัดส่วน 60% และส่งออก 40%
อุรชากล่าวว่า ในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทมีทีมวิจัยที่ทำวิจัยการตลาด เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์กับกลุ่มผู้บริโภค โดยศึกษาเทรนด์โลก และความต้องการของผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่เป็นไปตามแนวโน้มการเติบโตของอาหารในอนาคตในตลาดโลก เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่มาแรงมาก
“ด้วยคอนเซ็ปท์ของแม่ประนอม คือ ไม่ใส่สี ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ซึ่งเป็นจุดแข็งของแบรนด์ เราจึงออกผลิตภัณฑ์น้ำจิ้มไก่และน้ำพริกเผาไทย สูตรไม่มีน้ำตาล ใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาล และน้ำพริกไทย สูตรน้ำมันมะกอก ในปีที่ผ่านมา ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เน้นเรื่องสุขภาพได้เป็นอย่างดี โดยจะเริ่มทำการตลาดสินค้า 3 ตัวใหม่นี้ในไตรมาสที่ 2 ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนความเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจสุขภาพ มาทำการตลาดกับแบรนด์แม่ประนอมที่เน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์” อุรชากล่าวทิ้งท้าย