ถอดรหัสแนวคิด 3 SMEs ไทย พลิก “วิกฤตเป็นโอกาส” ด้วยคู่คิดทางเงิน ที่พร้อมเคียงข้างทุกสถานการณ์

หนึ่งในเคล็ดวิชาสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยต้องมีติดตัว นอกจากจะต้องปรับตัวให้พร้อมรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลงที่อาจเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว​ อีกหนึ่งภูมิคุ้มกันชั้นดี คือ การมีคู่คิดทางการเงินที่รู้ใจ พร้อมเคียงข้างในทุกสถานการณ์ เหมือนอย่าง 3 ผู้ประกอบการไทยที่สามารถปลุกปั้นและต่อ  ยอดธุรกิจจนประสบความสำเร็จได้อย่างสง่างาม เพราะคู่คิดทางการเงินอย่าง ธนาคารกรุงไทย ที่พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยพิชิตทุกเป้าหมาย จากนี้ คือ 3 ตัวอย่างผู้ประกอบการไทยที่ปลุกปั้นธุรกิจด้วยความมุ่งมั่น  จนข้ามผ่านอุปสรรค และทำให้ธุรกิจเติบโตท่ามกลางสมรภูมิธุรกิจที่ไม่มีความแน่นอน

กว่าจะเป็นยาขมเม็ด “นกเป็ดน้ำ” ที่ครองใจคนไทยและนักท่องเที่ยว จากจุดเริ่มต้นธุรกิจที่คุณพ่อตั้งต้นจากความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการทำงานเป็น คนจัดยาและปรุงยาในร้านยาจีนแผนโบราณย่านเยาวราช สู่การก่อตั้งโรงงานผลิตยาซุ่นเซ่งเฮง เพื่อผลิตยาจีนแผนโบราณที่มีมาตรฐาน โดยมีสินค้าแจ้งเกิด คือ ยาขมเม็ด ตรานกเป็ดน้ำ ที่สร้างชื่อและทำให้มีฐานลูกค้าทั้งคนไทยเชื้อสายจีน รวมถึงนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และอีกหลายประเทศ เมื่อธุรกิจส่งต่อมาสู่ทายาทรุ่นที่ 2 คือ คุณปิง-สุเมธ นิรเพียรนันท์ ด้วยความเป็นคนหนุ่มไฟแรง บวกกับวิสัยทัศน์ของผู้นำที่ไม่หยุดนิ่ง เพื่อขยายกิจการของครอบครัวสู่​ผู้นำในด้านการผลิตและนำเข้าสมุนไพรและยาแผนโบราณที่มีคุณภาพในระดับสากล คุณปิงไม่เพียงมองหาช่องทางใหม่ๆ ในการนำเข้ายาจีนแผนโบราณที่กำลังเป็นที่นิยมในตลาด ยังมองหาวัตถุดิบที่สามารถมาผลิตได้ภายในประเทศ ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้มีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในราคาที่จับต้องได้ “จนในปี 2558 ผมเห็นโอกาสที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ เลยตัดสินใจว่าจะจดทะเบียนในรูปบริษัท เพราะตอนนั้นเรายังดำเนินธุรกิจในรูปแบบห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งการจะจดทะเบียนก็มีหลายขั้นตอนและรายละเอียดมากมายที่ต้องศึกษา ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์ บวกกับต้องการเงินลงทุน​ ผมจึงเข้าไปปรึกษากับสถาบันการเงินหลายแห่ง สุดท้ายมาลงตัวที่ธนาคารกรุงไทย ที่เข้ามาช่วยวางแผนในการดำเนินการอย่างเป็นระบบ พร้อมนำเสนอสินเชื่อ ทำให้กระบวนการต่างๆ ที่เคยมองว่าเป็นเรื่องยาก กลายเป็นเรื่องง่ายและสำเร็จได้ในเวลาอันรวดเร็ว จากวันนั้นถึงตอนนี้ผ่านมา​ 6 ปีแล้ว ผมก็ยังเป็นลูกค้าและใช้วงเงินสินเชื่อกับธนาคารกรุงไทย” มาถึงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบกับทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก แต่ผู้บริหารคนเก่งสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ เพราะมีธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ช่วยทางการเงิน “ตอนนั้น ด้วยความที่เราเป็นลูกค้าเดิมของธนาคารอยู่แล้ว ทางธนาคารเสนอสินเชื่อรักกันยาวๆ ซึ่งมาพร้อมข้อเสนอดอกเบี้ยอัตราพิเศษ แถมระยะเวลาผ่อนนาน ผมเองก็มองว่าน่าสนใจ เพราะมองว่าการมีเงินทุนไว้ต่อยอดและประคับประคองธุรกิจในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้จะส่งผลดีต่อธุรกิจ บวกกับตอนนั้นวงการแพทย์แผนไทยมีการพูดถึงสรรพคุณของสมุนไพรฟ้าทะลายโจรมากขึ้น และ​คาดว่าฟ้าทะลายโจรน่าจะเป็นที่ต้องการในอนาคต เราเลยตัดสินใจหันมาผลิตยาแคปซูลฟ้าทะลายโจร ตรานกเป็ดน้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้ธุรกิจรอดพ้นจากช่วงวิกฤต และยังจุดประกายให้เริ่มต่อยอดมาสู่การผลิตกระชายขาวที่เริ่มเป็นกระแสมากขึ้นในรูปแบบอาหารเสริมอีกด้วย”

เบื้องหลังความสำเร็จ ผู้ผลิตและจำหน่ายของใช้ในโรงแรมรายใหญ่ของไทย หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่า สินค้ากลุ่มเครื่องใช้สำหรับโรงแรม (อเมนิตี้) ที่อยู่ในห้องน้ำของโรงแรมชั้นนำหลายแห่งที่เราไปเช็กอิน ไม่ว่าจะเป็น สบู่ โลชั่น หรือของใช้ในโรงแรมอื่นๆ นั้น มาจากผู้ผลิตและจำหน่ายของใช้ในโรงแรมแบบครบวงจร ที่ชื่อว่า บริษัท ฟลอรอล แมนูแฟคเจอริ่ง กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเคล็ดลับที่ทำให้บริษัทที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทั้งในกลุ่มธุรกิจโรงแรมระดับประเทศและระดับโลก โรงพยาบาลขนาดใหญ่ ไปจนถึงเซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ สปา และสายการบินระหว่างประเทศ ที่สามารถครองความเป็นหนึ่งในตลาดมาถึงทุกวันนี้        คุณมิก-ชวิน ปิลันธนากุล รองประธานผู้จัดการ บริษัท    ฟลอรอล แมนูแฟคเจอริ่ง กรุ๊ป จำกัด เผยว่า ต้องทำความเข้าใจว่าลูกค้าของ Floral Manufacturing Group ที่แท้จริงคือกลุ่ม B2B “คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ” พอเข้าใจจุดนี้เราถึงจะสร้างศักยภาพของบริษัทขึ้นมาให้ตอบโจทย์ Functional Operation (Cost, Quality, Flexibility, Delivery) กับ Emotional Product ที่ลูกค้าต้องการ การพัฒนาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภาพสม่ำเสมอผ่านการร่วมวิจัยพัฒนาระหว่างทีม R&DของFloral กับพันธมิตรที่เป็นแบรนด์น้ำหอมชื่อดังในฝรั่งเศส 1 ใน Concept ที่เรายึดกับสินค้าของบริษัทเราตลอดคือ มูลค่าทางสายตาต้องสูง (High Perceived Value Product) และมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาปรับใช้ เพื่อให้ทันกับความต้องการของตลาด พร้อมรับมือกับเทรนด์ใหม่ๆ รวมไปถึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด อย่างโควิด-19 “อย่างที่รู้ว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของเราอย่างจัง เลยกลายเป็นที่มาของการปรับตัวครั้งใหญ่ นอกจากจะต้องคิดหาวิธีรับมือและแก้ปัญหาในการช่วยเหลือคู่ค้า ทั้งนี้เรายังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เป็นที่ต้องการของตลาดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการต่อผู้บริโภค อย่างเช่น เจลล้างมือแอลกอฮอลล์ แบรนด์ Exit07 เพื่อส่งให้กับโรงแรมและโรงพยาบาล ที่บริษัทเป็นคู่ค้าที่ดีของบริษัท ทั้งนี้ตลาดโรงพยาบาลชั้นนำที่ได้มาตรฐาน (JCI) ในประเทศไทยนั้นมีถึง 29 แห่ง และเป็นคู่ค้ากับทางเราถึง 22 แห่งในประเทศ ซึ่งถือเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ที่สุดในตลาด รวมไปถึงการส่งออกไปยังต่างประเทศ อาทิ กลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน และกลุ่มตะวันออกกลาง” อย่างไรก็ตาม นอกจากจะเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจ ผู้บริหารคนเก่งยังให้ความสำคัญกับการใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน โดยเป็นบริษัทแรกของไทยที่ริเริ่มใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากใยหิน (Stone Paper) แทนการผลิตจากกระดาษที่ทำจากต้นไม้ รวมถึงแปรงสีฟันที่ย่อยสลายได้ ไปจนถึงหลอดบรรจุภัณฑ์ไบโอพลาสติกที่สามารถย่อยสลาย ได้จากการฝังกลบตามกระบวนการ และยังร่วมกับโรงแรม อนันตรา ผลิตอักษรเบรลล์บนซองสบู่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บกพร่องทางสายตาทั่วประเทศ กว่า 30 ปีแห่งความสำเร็จ คุณมิกบอกว่า ทุกย่างก้าวของบริษัทมีธนาคารกรุงไทยเป็นเพื่อนคู่คิดที่ยืนหยัดเคียงข้างกันมายาวนาน เป็นที่ปรึกษาทั้งในด้านการลงทุน และการสนับสนุนทางการเงินอย่างเข้าใจ ตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ รวมไปถึงการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในเวลาที่ลำบาก จนเรียกได้ว่าเป็น Long Lasting  Relationship ของบริษัทก็ว่าได้

สำรวจเส้นทาง “วรรณวนัช เบเกอรี่” ที่ไม่ได้มีรสหวาน ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งแบรนด์เบเกอรี่ระดับท้องถิ่น ที่ก้าวสู่อุตสาหกรรมระดับสากล โดยมีคุณแฮป-ภาณุวัชร วัฒนกิจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วรรณวนัช เบเกอรี่ จำกัด เป็นผู้ปลุกปั้นเริ่มต้นจากการเป็นลูกมือช่วยคุณแม่ทำขนมตั้งแต่เด็ก อาศัยเรียนรู้อย่างตั้งใจ ลองผิดลองถูก จนกระทั่งริเริ่มทำขนมขายเองภายใต้แบรนด์ “วรรณวนัช” ด้วยจุดเด่นของขนมทำให้ร้านได้รับความนิยมจากการบอกต่อปากต่อปาก กลายเป็นร้านขนมของฝากขึ้นชื่อประจำจังหวัดนครปฐม ที่ทั้งคนท้องถิ่นรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างต้องหยิบติดไม้ติดมือกลับไป หนึ่งในสินค้าเด่นของวรรณวนัชคือ เค้กชิฟฟ่อน ที่ไม่มีไขมันทรานส์และดัดแปลงรสชาติให้มีความหลากหลาย จนกลายเป็นจุดเด่นของร้าน ได้รับความนิยมมากในกลุ่มผู้บริโภค และยังเป็นเบเกอรีเจ้าแรกที่มี  เค้กชิฟฟ่อนมากกว่า 10 รสชาติ มากที่สุดในประเทศไทย เพื่อต่อยอดแบรนด์ขนมให้เป็นอุตสาหกรรมระดับประเทศ คุณแฮปไม่หยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนา เริ่มจากการต่อยอดบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ที่ทำจากพลาสติกคุณภาพสูง มีมาตรฐานระดับสากล ยังมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นแซนด์วิชปังปอนด์ ขนมปังเนยนิ่ม โดยย่อไซส์ขนมให้มีขนาดพอดีคำ กินได้สะดวก ไม่หกเลอะเทอะ ในราคาที่คุ้มค่า ทำให้ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก และสามารถขยายตลาดจากนครปฐม ไปยังจังหวัดอื่นๆ รวมถึงห้างร้านต่างๆ ทั่วประเทศ, ร้านกาแฟ Amazon และ CJ  Supermarket และอนาคตยังมีแผนวางขายในช่องทางขายใหม่ๆ ในประเทศ และต่างประเทศเพิ่มอีกด้วย คุณแฮปบอกว่า เคล็ดลับความสำเร็จของแบรนด์วรรณวนัชคือ ความรักและความจริงใจในสิ่งที่ทำ หากเจอกับอุปสรรคหรือความล้มเหลว ก็พร้อมเรียนรู้และแก้ไข เหมือนอย่างในช่วงโควิด-19 คุณแฮปบอกว่า การรับมือที่ดีที่สุดคือ การเรียนรู้และวิเคราะห์สถานการณ์ว่าส่งผลกระทบต่อธุรกิจในด้านใดบ้าง เมื่อพบปัญหาและเห็นหนทางแก้ไข ต้องรีบลงมือทำอย่างรวดเร็ว อย่างช่วงโควิด-19 ทางร้านใช้เวลาไม่ถึง 1 เดือน ปรับรูปแบบธุรกิจ หันมาโฟกัสช่องทางออนไลน์ เพื่อทดแทนรายได้จากหน้าร้านที่ลดลง รวมทั้งเร่งส่งสินค้าไปยังหน้าร้านต่างๆ ที่ยังสามารถวางขายได้ เพิ่มช่องทางเดลิเวอรี รวมไปถึง e-commerce อีกสูตรสำเร็จในการปั้นธุรกิจให้เติบโตคือ การมีเพื่อนคู่คิดที่เข้าใจ คอยสนับสนุนและช่วยเหลือได้อย่างตรงจุดในทุกช่วงเวลา “ที่ร้านวรรณวนัชเติบโตและรับมือกับวิกฤตได้อย่างดี ส่วนหนึ่งเพราะได้รับการสนับสนุนที่ดีจากธนาคาร  กรุงไทย ที่ให้ทั้งคำปรึกษาการลงทุน สนับสนุนทางการเงินเพื่อขยายโรงงาน ขยายกำลังการผลิต รวมไปถึงเครือข่ายการขนส่งต่างๆ ทั่วประเทศ ธนาคารกรุงไทยจึงเป็นสถาบันการเงินที่ไว้วางใจ อยู่เคียงข้างธุรกิจ และเติบโตไปด้วยกัน นี่เป็นเพียงบางส่วนของเรื่องราวของผู้ประกอบการไทย ที่ธนาคารกรุงไทยได้รับความไว้วางใจให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งบนเส้นทางแห่งความสำเร็จ สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังตามหาความฝัน อยากเริ่มต้นธุรกิจต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะอยู่ในสเตจไหน ธนาคารกรุงไทยพร้อมเคียงข้างและเป็นส่วนหนึ่งในการสานทุกความฝันให้เป็นจริง ผ่านสินเชื่อกรุงไทย SME รักกันยาวๆ ดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้น 4% ต่อปี ผ่อนได้นานถึง 10 ปี (สูงสุด 20 ปี สำหรับอาคารพาณิชย์) ให้วงเงินสูงสุด 100 ล้านบาท โอกาสที่จะได้พลิกช่วงเวลาที่วิกฤตให้เป็นโอกาสในการดันยอดขายติดสปริงบอร์ดให้ธุรกิจมาถึงแล้ว สนใจคลิกลงทะเบียนเพื่อขอสินเชื่อรักกันยาวๆ ได้ที่นี่ สอบถามเพิ่มเติมติดต่อที่สำนักงานธุรกิจธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ หรือ Krungthai Contact Center 02-111-1111