ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีก่อน ด้วยจดหมายน้อยฉบับหนึ่งที่ถูกส่งใส่มือของ ‘ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์’ ผู้ที่ตั้งใจจะเกษียณก่อนกำหนดจากการรับหน้าที่ในหลากหลายหน่วยงาน ข้อความอันทรงพลังนั้นกลับกลายเป็นแรงบันดาลใจ และทำให้ ผศ.ดร.ณัฐพล ตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า (Digital Economy Promotion Agency (depa)) หน่วยงานใหม่ที่มีภารกิจในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล
“ดีป้า ถูกจัดตั้งตามพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560 เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยบนฐานเศรษฐกิจดิจิทัล และให้เป็นหน่วยงานที่ประสานความขัดแย้งบนความคิดที่แตกต่าง เป็นฟันเฟืองสำคัญที่ไม่เคยหยุดหมุน เพื่อสร้างอนาคตให้สังคมไทย” นี่คือข้อความสำคัญและเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ ผศ.ดร.ณัฐพล ตัดสินใจรับตำแหน่งดังกล่าว และขับเคลื่อนองค์กรแห่งนี้มานานถึง 8 ปี
ริเริ่ม-ประสาน อัปสกิลดิจิทัลให้คนไทย
ภารกิจสำคัญของ ผศ.ดร.ณัฐพล คือ ทำให้ ดีป้า เป็นต้นแบบของหน่วยงานรัฐรูปแบบใหม่ ที่ต้องมีความคล่องตัวและอยู่ได้ด้วยตัวเองอย่างยั่งยืนบนกฎ ระเบียบของหน่วยงานรัฐที่ต้องมีความต่อเนื่องในการพัฒนา นั่นจึงทำให้ ดีป้า แยกออกมาตั้งสำนักงานใหญ่ของตัวเองบนถนนลาดพร้าว ใจกลางเมือง และมีสำนักงานสาขาอีก 7 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศเพื่อเป็นแขนขาในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
“การมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี มีสำนักงานสาขาที่คนท้องถิ่นเข้าถึงได้ง่าย เกิดประสิทธิภาพในการพัฒนาคน การลงทุน ส่งผลไปสู่ภาคธุรกิจที่แท้จริง เปรียบเสมือนการมีบ้านที่ดี ที่แข็งแรง คนสามารถพึ่งพาได้ พึ่งพิงได้ เกิดความเชื่อมโยงทำให้เอกชนที่มาขยายธุรกิจและลงทุนในประเทศเกิดความมั่นใจสามารถทำงานร่วมกับท้องถิ่นและสร้างอุตสาหกรรมต่อเนื่องได้” ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าว
ดีป้า ถือเป็นผู้ริเริ่มสิ่งใหม่ๆ โดยดึงหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมทำงาน และใช้กลไกการทำงานหลากหลายรูปแบบ ทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนผ่านมาตรการต่างๆ การมอบสิทธิด้านภาษี และกลไกอื่นๆ เพื่อจูงใจให้คนไทยลุกขึ้นมาอัปสกิล รีสกิลในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็น Coding Thailand โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับประชาชนคนไทยผ่าน Digital Platform และยกระดับทักษะด้าน Coding แก่ครูและนักเรียนรวมกว่า 500,000 รายทั่วประเทศ โครงการ Thailand Digital Valley ระบบนิเวศด้านดิจิทัลระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นหน่วยงานรัฐหน่วยงานแรกที่เป็น Super Angel Fund ที่รัฐออกครึ่งหนึ่ง เอกชนออกครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยอยู่รอดได้ด้วยตัวเอง เกิด Productivity ที่จะทำให้สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว
อุตสาหกรรมสำคัญที่อยู่ในแผนการพัฒนาของ ดีป้า ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย อุตสาหกรรม Digital Content ไม่ว่าจะเป็นเกม แอนิเมชัน และคาแรกเตอร์ที่สร้างรูปแบบใหม่ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทั้งระบบ ทั้งในด้านกฎหมาย การสร้างอีเวนต์ระดับโลกโดยใช้ไทยเป็นศูนย์กลาง ดึงนักลงทุนและบริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามามีส่วนร่วมสร้างให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ หรือแม้แต่อุตสาหกรรม 5G ที่ยังต้องขับเคลื่อนต่อเนื่อง เพื่อให้ 5G เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ให้ไทยเป็นฐานการลงทุนใน 5G ทั้งในเชิงผู้ให้บริการ ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ ซึ่งจะทำให้เกิดมูลค่าการค้า การลงทุนมิติใหม่ ที่สำคัญจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในภาคธุรกิจในประเทศไทย
และแน่นอน อีกหนึ่งภารกิจที่ท้าทายคือ การนำสังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุค AI โดย ดีป้า อยู่ระหว่างการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย ระยะ 3 ปี (2567 – 2570) ที่ครอบคลุมทั้ง Ecosystem โดยหัวใจสำคัญคือ การส่งเสริมให้เกิด AI as a Services ในประเทศไทย และกระตุ้นให้เกิดการใช้ประโยชน์ “ต้องยอมรับว่า เราไม่สามารถแข่งกับ AI ระดับโลกได้ แต่ทำอย่างไรให้เราเป็นผู้ใช้ที่ชาญฉลาด ตลอดจนผลักดันให้กลุ่มผู้ประกอบการซอฟต์แวร์เดิมสร้างเทคโนโลยีใหม่ในกลุ่ม AI ขึ้น และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างบริษัทระดับโลกกับบริษัทในประเทศ สิ่งนี้จะเกิดประโยชน์มากกว่า” ผศ.ดร.ณัฐพล ระบุ
“ดีป้า” องค์กรที่ไม่เคยหยุดหมุน
ในฐานะผู้อำนวยการใหญ่ ของ ดีป้า ผศ.ดร.ณัฐพล รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างองค์กรแห่งนี้ให้เป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนประเทศไทย และเป็นฟันเฟืองที่ไม่เคยหยุดหมุน ด้วยการออกแบบองค์กรให้เป็นองค์กรที่คนสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ติดขัด และมีเป้าหมายที่ชัดเจนคือ การยกระดับเศรษฐกิจไทยให้ก้าวสู่เศรษฐกิจใหม่บนพื้นฐานของเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่ง 8 ปีที่ผ่านมาเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า การทำงานนั้นสัมฤทธิ์ผล ปัจจุบันอุตสาหกรรมดิจิทัลในประเทศไทยเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 10% มีมูลค่ากว่า 400,000 ล้านบาท และเป็นส่วนที่เกิดจากการทำงานของ ดีป้า และหน่วยงานพันธมิตรเฉลี่ย 20% รวมๆ แล้วไม่ต่ำกว่า 80,000 ล้านบาทในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา
“คนเราจะโชว์เนื้อแท้ได้ ก็ต่อเมื่อเวลาผ่านไป ดีป้า เป็นฟันเฟืองที่ทำงานภายใต้เครื่องจักรใหญ่ และต้องไม่หยุดหมุน จนกว่าจะไปถึงเป้าหมาย ผมบอกพนักงานเสมอ ไม่ว่าจะปรับรัฐบาล หรือเปลี่ยนรัฐมนตรี เราก็ต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความพยายามและความถูกต้อง สุดท้ายจะประสบความสำเร็จ”
ดังนั้น สิ่งที่ ผศ.ดร.ณัฐพล กังวลไม่ใช่ความอยู่รอดขององค์กรแห่งนี้ เพราะด้วยรากฐานที่สร้างมา เขาเชื่อว่า ดีป้า จะเป็นฟันเฟืองที่สำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัลต่อไป แต่ที่เป็นห่วงคือ “ประเทศไทยจะก้าวไม่ทัน ฉลาดไม่ทัน เร็วไม่ทัน และฉวยไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกในครั้งนี้ เพราะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแบบที่เราไม่เคยเจอมาก่อน ถ้าก้าวไม่ทัน เราจะแย่”
ในฐานะผู้นำองค์กรที่บริหารงานมา 8 ปี ผศ.ดร.ณัฐพล ยอมรับว่า การผลักดันนโยบายใหม่ๆ เป็นเรื่องยาก ต้องประสานความคิดคนให้รวมเป็นจุดเดียว แน่นอนว่า เราทำให้คนเชื่อในสิ่งที่เราพูดทั้งหมดไม่ได้ แต่เราเสนอทางเลือกที่ วิน-วิน ทุกฝ่าย ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว และพร้อมที่จะยอมรับในความผิดพลาด เพื่อทำให้องค์กรเดินไปข้างหน้า โดยไม่มีปัญหาตามมา
“ผมถือคดิว่า Never Try, Never Know ถ้าไม่เคยลอง ก็ไม่รู้ ถ้าไม่เคยผิดพลาดก็ไม่รู้จักพัฒนา ดังนั้นผมให้โอกาสทุกคนได้ลอง ได้เรียนรู้จากความผิดพลาด และกล้าที่จะยอมรับกับความผิดพลาดนั้น และผมจะไม่ลงโทษ แต่จะให้โอกาสได้แก้ไข ผมเกิดมาเพื่อจะให้โอกาสคนอื่นมากกว่าจะคว้าโอกาสจากคนอื่น” และนี่คือ ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า องค์กรที่ไม่เคยหยุดหมุน