‘ดิ เอส สุขุมวิท 36’ ที่สุดแห่งความลักชัวรีที่นักลงทุนมองหา - Forbes Thailand

‘ดิ เอส สุขุมวิท 36’ ที่สุดแห่งความลักชัวรีที่นักลงทุนมองหา

FORBES THAILAND / ADMIN
22 Nov 2017 | 11:27 PM
READ 17143
ถึงสัญญาณเศรษฐกิจโลกจะไม่คึกคัก แต่กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บ้านเรายังคงเติบโต โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในกลุ่มลักชัวรีไปจนถึงซุปเปอร์ลักชัวรี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทอสังหาริมทรัพย์บ้านเราหลายแห่งพร้อมใจกันกระโจนเข้ามาชิงส่วนแบ่งเค้กก้อนโตนี้ แน่นอนว่า คุณสมบัติที่จะสะท้อนว่าคอนโดมิเนียมไหนจัดอยู่ในระดับลักชัวรี ไม่ได้วัดกันที่ราคาต่อตารางเมตร หรือความพรีเมียมที่โครงการจัดให้ แต่หัวใจสำคัญคือ ต้องตั้งอยู่บนทำเลที่มีความลักชัวรีด้วย หนึ่งในทำเลยอดฮิตที่หลายคนต้องนึกถึงเมื่อพูดถึงความลักชัวรี หนีไม่พ้น “ทองหล่อ” ย่านที่ไม่เคยหลับใหล มีเสน่ห์และสีสันทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ครบครัน เปี่ยมไปด้วยศักยภาพด้านการคมนาคมที่เชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรี และยังมีสถานีรถไฟฟ้าเส้นหลักอย่างสถานีทองหล่อ จุดแข็งเหล่านี้เองกลายเป็นปัจจัยเสริมให้ทองหล่อกลายเป็นย่านที่เนื้อหอม มีดีมานด์คอนโดมิเนียมสูงตลอดกาลไม่ว่าจะในหมู่ชาวไทย หรือชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ที่คุ้นเคยกับย่านนี้เป็นอย่างดี
ดิ เอส สุขุมวิท 36
เพื่อตอบรับดีมานด์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่พร้อมตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยเองหรือปล่อยเช่าเพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว สิงห์ เอสเตท ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ที่แม้จะเป็นหน้าใหม่ในวงการ แต่อัดแน่นไปด้วยทีมงานคุณภาพ และประสบการณ์ในวงการธุรกิจมาอย่างช้านาน ตัดสินใจส่ง “ดิ เอส สุขุมวิท 36” คอนโดมิเนียมหรู ใจกลางสุขุมวิท ปากซอยสุขุมวิท 36  ห่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทองหล่อเพียง 20 เมตร เปิดตลาด เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่อาจปฏิเสธได้ให้กับผู้ที่มองหาคอนโดมิเนียมที่ออกแบบอย่างเข้าใจผู้อยู่อาศัย สะท้อนนิยามใหม่ของการใช้ชีวิตอย่างลงตัว แถมยังคุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาว เพราะที่ดินผืนงามในย่านซีบีดี (ศูนย์กลางธุรกิจ) แบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว “ดิ เอส สุขุมวิท 36” ถือเป็นโครงการล่าสุดภายใต้แบรนด์ ดิ เอส เป็นโครงการที่ 3 ของสิงห์ เอสเตท หลังจากเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในระดับลักชัวรีมาแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ ดิ เอส อโศก และ ดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ ความพิเศษของการกลับมาครั้งนี้ นอกจากจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ผ่านมา เพื่อยกระดับผลงานให้ดีขึ้น ในครั้งนี้ สิงห์ เอสเตท ยังได้ร่วมลงทุนกับ ฮ่องกง แลนด์ ผู้นำในด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกเป็นครั้งแรกอีกด้วย แน่นอนว่า การร่วมมือครั้งสำคัญนี้ ณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) มั่นใจว่าประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์มาแล้วมากมายในหลายประเทศในเอเชียทั้ง ฮ่องกง สิงคโปร์  อินโดนีเซีย ของฮ่องกงแลนด์ จะเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ที่เติมเต็มเข้ากับความชำนาญและประสบการณ์ที่สิงห์ เอสเตท มีเป็นอย่างดี แม้จะเป็นครั้งแรกที่ฮ่องกงแลนด์เข้ามาร่วมในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยในไทยก็ตาม นอกจากนี้เพื่อให้ ดิ เอส สุขุมวิท 36 สมกับเป็นตัวเลือกที่หอมหวานสำหรับผู้ที่มองหาลักชัวรีคอนโดมิเนียมอย่างแท้จริง สิงห์ เอสเตท ยังเทหมดหน้าตัก เพื่อสร้างมาตรฐานระดับเวิลด์คลาส ด้วยการดึงเอาดีไซเนอร์ระดับโลกที่ฝากผลงานไว้ตามแลนด์มาร์คของโลกมาแล้ว มาผนึกกำลังกันเพื่อรังสรรค์ที่อยู่อาศัยที่เรียกว่าเป็น Iconic แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ขึ้น ซึ่ง ณัฐวุฒิ ยอมรับอย่างอารมณ์ดีว่า ความมุ่งมั่นจะสร้างสิ่งที่ดีกว่าให้ลูกค้านี้ ค่าใช้จ่ายสูงมากจริงๆ แต่ก็พร้อมยอมจ่าย
ณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)
สำหรับทีมงานมืออาชีพดีกรีระดับโลกที่สิงห์ เอสเตท ชวนมาร่วมในโครงการนี้ รับรองว่าเอ่ยชื่อมาต้องรู้จัก เริ่มจาก “SOM” หนึ่งในบริษัทสถาปัตย์ที่ใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดในโลกจากฝั่งอเมริกา มีความชำนาญในด้านการออกแบบ เคยฝากฝีมือไว้กับสถาปัตยกรรมระดับแลนด์มาร์คของโลกมากมาย มารับหน้าที่ช่วยดูแลด้านการออกแบบร่วมกับ Tandem บริษัทออกแบบชั้นนำของไทย ขณะที่งานออกแบบ Landscape เราเลือกใช้บริษัท Shma บริษัทภูมิสถาปนิกไทยที่ทำงานในระดับสากล ส่วนงานตกแต่งภายในให้บริษัท dwp ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลกเข้ามาดูแลเช่นกัน “ในครั้งนี้ ทีมงานออกแบบที่เราเลือกไม่ทำให้เราผิดหวัง มีการลงพื้นที่จริง เพื่อออกแบบตามบริบทของสังคมไทย จนตกผลึกออกมาเป็นแนวคิด A Harmony of Contrast หรือ สมดุลแห่งความแตกต่าง หลอมรวมอัตลักษณ์ความเป็นไทยเข้ากับการออกแบบสมัยใหม่ กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นตามแบบเรือนไทยโบราณ มีการเปิดช่องลมผ่าน ยกพื้นใต้อาคารเพื่อให้มีการไหลเวียนของอากาศภายใน หมดกังวลเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอก เพราะถึงจะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ แต่เราออกแบบให้ส่วนที่พักอาศัยถอยห่างจากริมถนนเข้ามาถึง 84 เมตร” ณัฐวุฒิ ยังเผยถึงรายละเอียดของห้องพักอาศัยทั้ง 338 ยูนิตว่า ประกอบด้วย ห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 38.50-43.25 ตารางเมตร แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 73.50-77.00 ตารางเมตร แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 116.75-124.25 ตารางเมตร และเพ้นท์เฮ้าส์ ขนาด 252 ตารางเมตร ทุกห้องมีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัว มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในโครงการเพื่อให้การใช้ชีวิตในโครงการสะดวกสบายยิ่งขึ้น จัดเต็มกับพื้นที่ส่วนกลางที่ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกตอบโจทย์ทุกวัฒนธรรมการอยู่อาศัย อาทิ สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ออนเซ็น สกายเลาจน์ เธียเตอร์รูม กอล์ฟซิมูเลเตอร์ ฯลฯ “ทุกรายละเอียดที่กลั่นกรองอย่างพิถีพิถันนี้ เป็นผลจากการตกผลึกของทีมการตลาดของสิงห์ เอสเตท ที่ได้ทำการศึกษาอย่างหนักว่า ใครคือกลุ่มผู้อยู่อาศัยเป้าหมายของโครงการ และ ที่อยู่อาศัยแบบไหนจะตอบโจทย์ผู้อยู่ได้ดีที่สุด” จากคำถามตั้งต้นนี้เองนำมาสู่การต่อยอดในการพัฒนาโครงการ จนทำให้ดิ เอส สุขุมวิท 36 แตกต่างจากโครงการภายใต้แบรนด์ดิ เอสที่ผ่านมา ตั้งแต่ทำเลที่ตั้ง จะเห็นว่าโครงการนี้อยู่บนทำเลที่ไพรม์กว่า 2 โครงการที่ผ่านมา ขณะที่สเปซและฟังก์ชั่น โครงการนี้มอบความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยจำนวนห้องที่ลดลง และขยายพื้นที่ต่อห้องให้กว้างขึ้น มีการนำนวัตกรรมต่างๆ เข้ามายกระดับการอยู่อาศัย โดยคัดเฉพาะที่มองแล้วว่าจำเป็นกับการใช้ชีวิต ไม่ใช่แค่เพียงเป็นกิมมิคที่ใส่มาเพื่อดึงดูดผู้อยู่อาศัยแต่ไม่ได้ใช้งานจริง “ในส่วนของดีไซน์ เรายังคงมาตรฐานและจุดเด่นในการร่วมงานกับดีไซน์ระดับเวิลด์คลาสซึ่งเราเริ่มมาตั้งแต่ 2 โครงการแรกไว้ เพราะเชื่อมั่นในมุมมองที่เป็นสากลของบริษัทระดับโลก มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งพื้นที่ส่วนกลาง และ ภายในห้อง ซึ่งเรามองเผื่อสำหรับลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า จำเป็นต้องมีโปรดักส์ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตของกลุ่มผู้เช่าที่เล็งไว้มากที่สุด" "โครงการนี้เราออกแบบให้มีอ่างอาบน้ำทุกห้อง สอดคล้องกับวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบการแช่น้ำ เพราะมองว่าทองหล่อเป็นย่านที่ชาวญี่ปุ่นคุ้นเคยและอาศัยอยู่มาก ดังนั้นมีแนวโน้มว่าลูกค้าของโครงการจะมีทั้งนักลงทุนชาวญี่ปุ่นและกลุ่มที่มองว่าจะปล่อยเช่าให้ชาวญี่ปุ่น สุดท้ายคือบริการ นอกจากจะดูแลลูกค้าอย่างอบอุ่นตั้งแต่วันแรกแล้ว เรายังมองถึงบริการในส่วนของ Property Management ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ดูแลสินทรัพย์ของลูกค้าอย่างดีที่สุดในระยะยาว” โครงการดิ เอส สุขุมวิท 36 ราคาเริ่มต้นที่ยูนิตละ 12 ล้านบาท พร้อมต้อนรับให้เข้าชมห้องตัวอย่างที่สำนักงานขาย ติดรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อ ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. 2560 เป็นต้นไป และจะเริ่มพรีเซลวันที่ 18-19 พ.ย. 2560  สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อในช่วงวันดังกล่าว จะได้รับส่วนลดตั้งแต่ 2-8 แสนบาท สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1221 หรือ www.singhaestate.co.th