"แลนดี้ โฮม" ชี้กำลังซื้อกลุ่มบ้านหรูยังสดใส - Forbes Thailand

"แลนดี้ โฮม" ชี้กำลังซื้อกลุ่มบ้านหรูยังสดใส

FORBES THAILAND / ADMIN
06 Sep 2021 | 04:17 PM
READ 1619

"แลนดี้ โฮม" ศูนย์รับสร้างบ้าน โชว์ผลงานปิดยอดขาย 8 เดือน รวมมูลค่า 1.6 พันล้านบาท คาดปิดยอดไตรมาส 3/64 โต 5 % ด้านตลาดรับสร้างบ้านกลุ่มลูกค้าบ้านไฮเอนด์ ราคา 15 ล้านบาทขึ้นไปยังสดใส เหตุจากแนวโน้มการปรับขึ้นค่าแรงและค่าวัสดุก่อสร้างอย่างต่อเนื่องมีผลกระตุ้นการตัดสินใจสร้างบ้าน

พรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า แม้การล็อกดาวน์ประเทศเพื่อยับยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ส่งผลต่อให้ภาคธุรกิจเกิดการชะลอตัว แต่สำหรับแลนดี้ โฮม ยังคงเติบโตสวนทางพิษโควิด ซึ่งพิจารณาได้จากยอดขาย 8 เดือน (มกราคม - สิงหาคม 64) สามารถปิดยอดขายมูลค่ารวม 1,600 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนตามมูลค่าการปลูกสร้าง ดังนี้ บ้านหรูขนาดใหญ่ Brand Landy Grand ราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป สัดส่วน 32% บ้านขนาดกลาง Brand Landy Home ราคา 5 - 10 ล้านบาท สัดส่วน 32% และราคา 10-15 ล้านบาท สัดส่วน 23% ส่วนบ้านหลังเล็ก Brand Trendy Home ราคา 2 - 5 ล้านบาท สัดส่วน 13% โดยพบว่าลูกค้าที่มีงบประมาณปลูกสร้างตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป เป็นกลุ่มที่มีความต้องการปลูกสร้างบ้านสูงสุด  ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านที่พบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  ไม่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีความพร้อมในการตัดสินใจปลูกสร้างบ้าน แลนดี้ โฮม จึงมองเห็นโอกาสในการทำตลาดรับสร้างบ้านหรูขนาดใหญ่ภายใต้แบรนด์ Landy Grand สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทฯ ในกลุ่มบ้านหรูแบรนด์ Landy Grand โตเกินเป้า มาจาก การเปิดสาขาใหม่ในโซนราชพฤกษ์ที่เน้นเจาะกลุ่มตลาดไฮเอนด์ย่านฝั่งธนฯ ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าตลาดไฮเอนด์เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นกลุ่มนิชมาร์เก็ตที่มีกำลังซื้อและความต้องการบ้านหรูในราคาที่คุ้มค่า และ เป็นลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทางการเงินจากสถานการณ์โควิดน้อยกว่ากลุ่มอื่น ประกอบกับการขึ้นราคาของวัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะราคาเหล็กที่ปรับขึ้นแรงในช่วงต้นปี รวมถึงค่าแรงช่างที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้ลูกค้าเร่งตัดสินใจปลูกสร้างบ้าน เพราะมองว่าในอนาคตราคาบ้านจะมีการขึ้นราคาตามวัสดุและค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การอ่อนตัวของค่าเงินบาทยังส่งผลให้ลูกค้าหันมาปลูกสร้างบ้าน เพื่อเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และที่ดิน เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีแต่มูลค่าเพิ่มขึ้น อีกทั้งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป เช่นการ Work from home ในช่วงโควิดทำให้ลูกค้าเห็นถึงความสำคัญของพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านและเทคโนโลยีเพื่อคุณภาพการอยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตวิถีใหม่ รวมถึงลูกค้าหลายรายมองว่าช่วงนี้สามารถบริหารจัดการเวลาในการปรึกษากับทีมสถาปนิกและมีเวลาในการเข้ามาตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้างได้มากขึ้น นับเป็นช่วงเวลาที่ดีในการตัดสินใจปลูกสร้างบ้าน พรรัตน์ มณีรัตนะพร กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มสถานการณ์ตลาดรับสร้างบ้านไตรมาส 3/2564 และ 4/2564 ว่า หากสถานการณ์โควิดมีทิศทางที่ดีขึ้นรัฐคลายมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้กิจการต่างๆ กลับมามีรายได้ ซึ่งลูกค้ากลุ่มเจ้าของธุรกิจที่มีแผนจะปลูกสร้างบ้านจะกล้าตัดสินใจเนื่องจากมีความเชื่อมั่นในสถานการณ์และสามารถวางแผนในอนาคตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามเพื่อให้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งยอดขายปีนี้ (2564) ไว้ที่ 2,400 ล้านบาท ทางบริษัทฯ ทำการตลาดโดยจัดโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 33 ปี แลนดี้ โฮม ระหว่างวันที่ 16-26 กันยายน 2564 ณ แลนดี้ โฮม ทุกสาขา พร้อมพบกับการเปิดตัวแบบบ้านใหม่ล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อการใช้ชีวิตวิถีใหม่กว่า 10 แบบ พร้อมติดตั้ง CAP+ (แค็พพลัส) ระบบเติมอากาศบริสุทธิ์ภายในบ้าน ช่วยกรองฝุ่น PM 2.5, ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ภายในห้องด้วยการสร้าง Positive Pressure ช่วยสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยจากเชื้อโรค นอกจากนี้ทางบริษัทฯ  ยังสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการด้วยการกำหนดนโยบายการป้องกันและปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยแบ่งเป็นส่วนของ Show room สำนักงานขาย ได้มีมาตรการการดูแลรักษาความสะอาด โดยพนักงานทุกสาขาได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 100% สำหรับในส่วนของหน้างานก่อสร้าง ได้กำหนดให้ช่างวัดอุณหภูมิร่างกายพร้อมถ่ายภาพการตรวจสอบทุกเช้า ก่อนเริ่มงานและพนักงานทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา อ่านเพิ่มเติม: จอน เฉลิมวงค์ ปั้น ‘audacity’ ธุรกิจของคนกล้า
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine