พฤกษา ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ ดึง “อุเทน โลหชิตพิทักษ์” นั่งซีอีโอ พฤกษา โฮลดิ้ง ขยายโอกาสการลงทุนธุรกิจใหม่ เตรียมงบ 3,500 ล้านบาท ลงทุนสตาร์ทอัพ เสริมแกร่งความเป็น “เฮลท์ตี้ ลิฟวิ่ง แอนด์ เวลเนส” เชื่อมต่อธุรกิจอสังหาฯ กับรพ.วิมุต พร้อมเปิดตัวโครงการใหม่ 31 โครงการ มูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านบาท คาดปีนี้กวาดรายได้ 3.3 หมื่นล้านบาท
อุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง (มหาชน) ผู้บริหารใหม่ของกลุ่มพฤกษา ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 เปิดเผยว่า พฤกษามุ่งสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ด้วยความร่วมมือระหว่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงพยาบาลวิมุต ซึ่งเป็นสองธุรกิจหลัก โดยล่าสุดคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติเงินลงทุน 10,000 ล้านบาท สำหรับลงทุนในปีนี้ แบ่งเป็นลงทุนใน Corporate Venture Fund หรือสตาร์ทอัพ 3,500 ล้านบาท ในช่วง 3 ปีข้างหน้า และอีก 6,500 ล้านบาท สำหรับลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงพยาบาลวิมุต “งบประมาณ 3,500 ล้านบาท จะเป็นการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตามเทรนด์โลกอนาคต ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการลงทุน การร่วมเป็นพันธมิตร (Partnership) และการทำ Outside-in Innovation โดยมุ่งเน้นใน 2 ด้านที่จะมาสนับสนุนธุรกิจหลัก ได้แก่ PropTech เช่น และ Health Tech มุ่งเน้นแพลตฟอร์ม เกี่ยวกับบริการทางการแพทย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานธุรกิจสุขภาพ (Healthcare Supply Chain) เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดต้องคำนึงถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainability)” อุเทนกล่าวฃ ทั้งนี้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา พฤกษาได้ลงทุนในบริษัทด้านธุรกิจ Clinical Laboratories, Digital Heath และ Genomic Labs ที่สิงคโปร์ อีกทั้งยังมีการจัด Bootcamp เพื่อคัดเลือกทีม External Venture Building จากทีมที่สมัครเข้ามามากกว่า 100 ทีม และขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับการลงทุนสตาร์ทอัพในต่างประเทศ คาดว่าจะเริ่มลงทุนในเดือนมีนาคมนี้ “ทั้งหมดนี้จะเป็นการต่อห่วงโซ่ธุรกิจของพฤกษา โฮลดิ้ง ให้แข็งแกร่งขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่างองค์กรและ Innovation Technology ของบริษัทสตาร์ทอัพได้เป็นอย่างดี เพื่อทำให้พฤกษาเป็นผู้นำในธุรกิจเฮลตี้ ลิฟวิ่ง แอนด์ เวลเนส ที่แข็งแกร่งมากขึ้น” อุเทนกล่าวเปิดอีก 31 โครงการ 1.6 หมื่นล้านบาท
ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลับมาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปีที่ผ่านมาตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่ารวม 296,500 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 10 โดยกลุ่มบ้านเดี่ยวขยายตัวสูงสุดร้อยละ 3% มูลค่า 128,000 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 69,500 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 2 และคอนโดมิเนียม มูลค่า 95,100 ล้านบาท ติดลบ 3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ยอดโอนอยู่ที่ 350,500 ล้านบาท ลดลง 12 เปอร์เซ็นต์ สำหรับพฤกษาฯ มียอดขายได้ 25,400 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 16 ซึ่งกลุ่มบ้านเดี่ยวเติบโตสูงถึงร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับปี 2563 และทำรายได้ 28,000 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการใหม่ตามแผนทั้งสิ้นรวม 31 โครงการ มูลค่า 21,100 ล้านบาท รวมโครงการทั้งหมดของพฤกษาในปัจจุบันมี 145 โครงการ รวมมูลค่า 76,800 ล้านบาท ขณะที่มีที่ดินอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 150 แปลง รวมมูลค่ากว่า 15,400 ล้านบาท ปิยะ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม 31 โครงการ มูลค่าลงทุน 16,300 ล้านบาท โดยเน้นตลาดแนวราบ ในกลุ่มเรียลดีมานด์เซกเม้นต์รายได้ระดับกลางถึงสูงมากขึ้น แบ่งเป็น ทาวน์เฮาส์ 22 โครงการ บ้านเดี่ยว 6 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ตั้งเป้ายอดขายปี 2565 อยู่ที่ 31,000 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 23 จากปีก่อน และยอดโอน 33,000 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 18 โดยจะมีคอนโดมิเนียมอีก 7 โครงการที่จะส่งมอบในปีนี้มูลค่า 29,000 ล้านบาท รองรับเป็นรายได้ในปีนี้ ด้าน นายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า โรงพยาบาลวิมุต เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่พฤษภาคม 2564 คาดว่าจะมีรายได้ 700 ล้านบาทในปีนี้ โดยวิมุตจะมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรม ด้าน Digital Healthtech เช่น Application, Telemedicine และการบริการที่ตอบรับการดูแลผู้ป่วยกลุ่ม NCDs เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ ล่าสุดได้ออกโปรแกรม Total Senior Solution เพื่อดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นบริการดูแลผู้สูงอายุถึงบ้าน โดยแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว นอกจากนี้ จะร่วมกับพฤกษาปรับฟังก์ชั่นบ้านให้เหมาะกับผู้สูงวัย การออกแบบให้มีทางลาดสำหรับรถเข็น การติดตั้งราวจับภายในบ้าน ที่นั่งอาบน้ำ พื้นกันกระแทก โดยเริ่มทำแล้วในโครงการของพฤกษา ขณะที่ความคืบหน้าโครงการ ViMUT Health Center ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 50 เตียง ได้เริ่มดำเนินการแห่งแรกแล้ว ที่โครงการพฤกษา อเวนิว บางนา-วงแหวน จะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม 2565 นอกจากนี้ ยังมีแผนที่พัฒนาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในโครงการคอนโดมิเนียมของพฤกษาทำเลในเมืองที่มีศักยภาพในอนาคต อุเทน กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยังมีโจทย์ที่ท้าทายทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน ทั้งอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีผลต่อราคาวัสดุก่อสร้าง ค่าแรง อัตราดอกเบี้ย รวมทั้งในด้านการปรับองค์กร การเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงในอนาคต และต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับความต้องการของตลาด ซึ่งบริษัทนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาช่วยในการควบคุมปัจจัยภายในทั้งในด้านต้นทุนต่าง ๆ เพื่อรองรับสถานการณ์ “เราจะเพิ่มบทบาทในสังคมมากขึ้น การเปลี่ยนธุรกิจมาสู่เฮลท์ แอนด์ เวลเนส ลิฟ เวล เรียลเอสเตท จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้า ในการใช้บริการที่ถูกลง” อุเทน กล่าวทิ้งท้ายถึงภารกิจในการนำทัพพฤกษาเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อ่านเพิ่มเติม: “เซ็นทรัลพัฒนา” เผยผลประกอบการปี 64 ทำกำไร 7.14 พันล้านบาท พร้อมเดินหน้าโครงการมิกซ์ยูสไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine