งานสมาร์ท ไชน่า เอ็กซ์โป (Smart China Expo หรือ SCE) ประจำปี 2566 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 กันยายน ที่ศูนย์นิทรรศการนานาชาติฉงชิ่ง (Chongqing International Expo Center) โดยข้อมูลจากงานแถลงข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่า หัวข้อสำคัญของปีนี้จะรวมถึงเรื่องรถยนต์พลังงานใหม่อัจฉริยะที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (NEV) และดิจิทัลไชน่า (Digital China)

งานเอ็กซ์โปปีนี้จะสำรวจการปฏิวัติการขนส่งอัจฉริยะ โดยมีความก้าวหน้าต่างๆ เช่น การจัดตารางการจราจรแบบเรียลไทม์ ที่จอดรถอัจฉริยะ และการจัดการยานพาหนะแบบดิจิทัล งานนี้จะครอบคลุม 12 สาขาย่อย ตั้งแต่แบตเตอรี่ไปจนถึงค็อกพิทอัจฉริยะ โดยจะมีผู้นำในอุตสาหกรรมมากกว่า 310 ราย รวมถึงผู้เล่นรายใหญ่อย่างฉางอัน (Changan) และเซเรส (Seres) มาร่วมงาน

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับข้อมูลเชิงลึกจากนักวิชาการชั้นนำของจีนและผู้นำในอุตสาหกรรมจากบริษัทระดับโลก เช่น เอสทีไมโครอีเล็คโทรนิคส์ (STMicroelectronics), ดาสโซลท์ ซิสเทเมส (Dassault Systèmes) และฟอร์ด (Ford) เซสชั่นเสวนาที่มีผู้บริหารระดับสูงจากไมโครซอฟท์ (Microsoft), ไอบีเอ็ม (IBM) และเทนเซ็นต์ (Tencent) จะจัดขึ้นเพื่อเจาะลึกไปที่การเติบโตของอุตสาหกรรมและแอปพลิเคชันเชิงพาณิชย์ของโมเดล AI ในเครือข่ายอัจฉริยะ

เซคชั่นหนึ่งในงานเอ็กซ์โปที่เรียกว่า "อุปกรณ์และการผลิตอัจฉริยะ" (Intelligent Equipment and Manufacturing) จะเน้นที่เทคโนโลยีล้ำสมัยในหุ่นยนต์อัจฉริยะและเซ็นเซอร์ที่มีความแม่นยำสูง ในส่วนนี้จะมีผู้เข้าร่วมเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม 69 ราย รวมถึงบริษัท วิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมการบินและอวกาศแห่งประเทศจีน จำกัด (China Aerospace Science and Industry Corporation Limited) และบริษัท กลุ่มเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์แห่งประเทศจีน (China Electronics Technology Group Corporation)

ในเซคชั่น "ไอทียุคใหม่" (New Generation of IT) จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับบิ๊กดาต้า, AI และการประมวลผลแบบคลาวด์ โดยส่วนนี้จะรวบรวมองค์กรหลัก 43 แห่ง เช่น หัวเว่ย (Huawei), อาลีบาบา (Alibaba) และไชน่า ยูนิคอม (China Unicom) และจะหารือเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในโลกแห่งความเป็นจริงในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การพัฒนาเมือง การดูแลสุขภาพ และการศึกษา

ทั้งนี้ คำเชิญให้มาร่วมงานเอ็กซ์โปนี้ได้ครอบคลุมไปถึงผู้นำระดับโลกด้านชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงบ๊อช (Bosch) และแคทแอล (CATL) ตลอดจนบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน NEV เช่น บีเอ็มดับเบิลยู (BMW), บีวายดี (BYD) และนีโอ (NIO) นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตจาก 27 ประเทศ รวมถึงเม็กซิโกและอาร์เจนตินา ก็มีกำหนดจะเข้าร่วมงานด้วยเช่นกัน โดยหนึ่งในไฮไลท์ของงานคือการแข่งขันบ่มเพาะธุรกิจจีน-สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีทีมจากทั่วโลกลงแข่งมากกว่า 20 ทีม

สิงคโปร์ ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ร่วมกับ SCE มาตั้งแต่ปี 2563 จะสานต่อความร่วมมือนี้ต่อไปตั้งแต่ปี 2566 จนถึง 2568 โดยคุณฉู่ ปิน (Chu Bin) รองผู้อำนวยการโครงการริเริ่มสาธิตจีน-สิงคโปร์ (ฉงชิ่ง) ในสำนักบริหารการเชื่อมต่อเชิงกลยุทธ์ กล่าวว่า "สิงคโปร์ซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วมจัดงานในปีนี้ จะจัดแสดงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้วยบูธขนาด 1,000 ตารางเมตร"

ผู้เยี่ยมชมจะได้สัมผัสกับนวัตกรรมเกือบ 3,000 รายการจากผู้นำอุตสาหกรรมกว่า 480 ราย รวมถึงการเปิดเผยเบื้องหลังของ NEV ทั้งนี้ นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2561 SCE ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามมาเป็นเวลาห้าปีแล้ว

อ่านเพิ่มเติม : เมดิต ปฎิวัติวงการ เตรียมเปิดตัวโซลูชันทันตกรรมประดิษฐ์แบบ Scan-to-Design ทุ่นแรงทันตแพทย์ด้วย AI

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine