เมดิตขอเสนอโซลูชันทันตกรรมประดิษฐ์แบบ Scan-to-Design ที่ปฏิวัติวงการ ช่วยให้ทันตแพทย์สามารถออกแบบครอบฟันและสะพานฟัน อินเลย์ เฝือกสบฟัน และอุปกรณ์ชั่วคราวต่างๆ ได้อย่างแม่นยำด้วยเทคโนโลยี AI

เมดิต (Medit) (www.medit.com) ผู้ให้บริการเครื่องสแกนในช่องปากแบบ 3 มิติและโซลูชันทันตกรรมดิจิทัล ประกาศจัดงาน "วันนวัตกรรมเมดิต ประจำปี 2566"(Medit Innovation Day 2023) ในวันที่ 5 ตุลาคมนี้

วันนวัตกรรมเมดิต ประจำปี 2566 เป็นงานออนไลน์ฟรีสำหรับทันตแพทย์ทั่วโลก ภายในงานนี้ เมดิตเตรียมเปิดตัวแอป Medit ClinicCAD พร้อมซอฟต์แวร์ CAD ทางทันตกรรมที่จะช่วยให้ทันตแพทย์สามารถออกแบบครอบฟันและสะพานฟัน อินเลย์ และอุปกรณ์ชั่วคราวต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโซลูชัน Scan-to-Design (สแกนเพื่อออกแบบ) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ สามารถบูรณาการเข้ากับเทคโนโลยีการสร้างชิ้นงาน 3 มิติขั้นสูง เช่น การกัดและการพิมพ์ 3 มิติ นับเป็นก้าวสำคัญสู่โซลูชันทันตกรรมประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

แอป Medit ClinicCAD มาพร้อมซอฟต์แวร์ CAD ทางทันตกรรมที่ใช้งานง่ายและขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI ซึ่งพร้อมที่จะปฏิวัติวิธีการทำงานของทันตแพทย์ นับได้ว่าเป็นโซลูชันครบวงจรที่สะท้อนถึงแก่นแท้ของทันตกรรมดิจิทัล ดังนั้นทันตกรรมดิจิทัลจึงไม่ใช่อนาคตอันไกลโพ้นอีกต่อไป ทั้งนี้ เมดิตเพิ่งเปิดตัวระบบสแกนสำหรับ Mac และกำลังจะเปิดตัว ClinicCAD ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ CAD ทางทันตกรรมหนึ่งเดียวในปัจจุบันที่ใช้ได้กับ Mac

จีบี โค (GB Ko) ซีอีโอของเมดิต กล่าวว่า วันนวัตกรรมเมดิต ประจำปี 2566 ถือเป็นงานที่มีความสำคัญ เพราะเราพร้อมที่จะเปิดตัว Medit ClinicCAD แล้ว การเปิดตัวครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการสนับสนุนทันตแพทย์ด้วยโซลูชันใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น เร็วขึ้น และดูแลคนไข้ได้ดีขึ้น นับว่าสะท้อนถึงแรงผลักดันที่แข็งแกร่งของเราในการพลิกโฉมเทคโนโลยีทันตกรรม"

งานนี้ประกอบด้วยการบรรยาย 5 รายการ นำโดยผู้นำทางความคิดในวงการทันตกรรมจากทั่วโลก โดยแต่ละคนจะแจกแจงข้อดีของการใช้เครื่องสแกนและซอฟต์แวร์ของเมดิต พร้อมกับอธิบายว่าทันตแพทย์จะได้รับประโยชน์อะไรบ้างจากโซลูชันครบวงจรของเมดิต

ไมเคิล อี (Michael Lee) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของเมดิต กล่าวว่า วันนวัตกรรมเมดิต ประจำปี 2566 ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการผสานความสามารถด้าน AI เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านทันตกรรม Medit ClinicCAD ซึ่งเป็นไฮไลต์ของงานนี้ ไม่เพียงเข้ามาปฏิวัติการออกแบบเท่านั้น แต่ยังบูรณาการเข้ากับเทคโนโลยีการสร้างชิ้นงาน 3 มิติได้อย่างลงตัว ซึ่งการผสานรวมนี้ช่วยเชื่อมช่องว่างระหว่างจินตนาการกับการสร้างสรรค์ผลงาน อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมทางทันตกรรมแห่งอนาคต"

อ่านเพิ่มเติม : "เอ็กซ์เพอร์ลอจิกซ์ ดิจิทัล คอมเมิร์ซ" ขยายตลาดสู่อเมริกาเหนือ

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine