“สกาย กรุ๊ป” กางประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2566 โกยรายได้ 1,762 ล้านบาท โตแกร่ง 39% กำไรสุทธิ 203 ล้านบาท เติบโต 26% หลังรายได้จากโครงการเกี่ยวกับสนามบินโตกระโดด สะท้อนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว เชื่อมั่นครึ่งปีหลังธุรกิจ Aviation Tech-Airport Services โตติดปีก รับอานิสงค์ไฮซีซั่น คาดยอดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศแตะ 27 ล้านคน เร่งแผนเดินหน้าขยายธุรกิจที่เกี่ยวกับ Tech Ecosystem พร้อมลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ เสริมความแข็งแกร่งให้บริษัทต่อเนื่อง

สิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ สกาย กรุ๊ป (SKY Group) เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 (เม.ย.-มิ.ย. 66) บริษัทสามารถทำรายได้รวม 942 ล้านบาท ส่งผลให้ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2566 (ม.ค.-มิ.ย. 66) บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,762 ล้านบาท สร้างการเติบโตคิดเป็น 39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนอยู่ที่ 203 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาประมาณ 26%

ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทสามารถทำรายได้และกำไรสุทธิเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้า-ออกประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้จากโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับท่าอากาศยาน อาทิ ระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (CUPPS) และโครงการการให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ขยายตัวขึ้น ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2/66 บริษัทมีงานที่อยู่ระหว่างการรอส่งมอบ (Backlog) อยู่ทั้งสิ้นประมาณ22,700 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ภายในปีนี้ประมาณ 2,000 ล้านบาท

สิทธิเดช กล่าวอีกว่า จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ใน 6 เดือนแรกของปีนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ 12.87 ล้านคน เพิ่มมากขึ้นกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และคาดการณ์ว่าตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 27.39 ล้านคน หรือเพิ่มอีก 14 ล้านคนในช่วงครึ่งปีหลัง สกาย กรุ๊ปจึงมองว่า สถานการณ์ครึ่งหลังปี 2566 ซึ่งเป็นช่วง High Season ของการท่องเที่ยวไทย กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านการบิน (Aviation Tech) และบริการภายในสนามบิน (Airport Services) ของบริษัท จะมีแนวโน้มเติบโตตามภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วย

ขณะเดียวกัน สกาย กรุ๊ป ยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจในด้าน Aviation Tech และ Tech Ecosystem ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ อาทิ เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ แพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อสร้างความแข็งแกร่งมั่นคงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับที่ผ่านมา บริษัทได้ยังเข้าไปลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทอื่นที่มีศักยภาพ ซึ่งจะช่วยให้สร้างการเติบโตให้กับผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังอย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม : ผู้หาญสู้ Uber

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine