CHIC เผยทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2566 มองแนวโน้มเติบโตโดดเด่นกว่าครึ่งปีแรก ธุรกิจเข้าสู่ช่วง ไฮซีซัน เตรียมออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านคอลเลคชันใหม่ ชูจุดเด่นเน้นดีไซน์และฟังก์ชัน ตอบรับเทรนด์รักษ์โลก-สุขภาพ ผุดบริการเสริมครบวงจร ควบคู่พัฒนาช่องทางจำหน่ายออนไลน์ - ออฟไลน์ เดินหน้าขยายพอร์ตงานโครงการหลากหลาย หนุนธุรกิจ Chic Design Studio เล็งจับมือพันธมิตรเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ดันรายได้โตตามเป้าหมายที่ 20-25%

กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ “CHIC” ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน ที่นอนและเครื่องนอนครบวงจร ในรูปแบบร้านค้าเดี่ยวขนาดใหญ่ ภายใต้แบรนด์หลัก “ชิค รีพับบลิค” (CHIC) และ “ริน่า เฮย์” (RINA HEY) และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศภายใต้ แบรนด์ “แอชลีย์” (Ashley) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2566 คาดเติบโตโดดเด่นกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากธุรกิจเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน อีกทั้ง ทิศทางการฟื้นตัวของภาคอสังหาฯ ทั้งแนวสูง-แนวราบ โดยเฉพาะกลุ่มตลาดบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ระดับไฮเอ็นด์ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หนุนความต้องการใช้เฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้านสูงขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยนำเอานวัตกรรมมาพัฒนาออกแบบและผลิตสินค้าเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน รูปแบบใหม่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งช่วยเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า เตรียมออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านคอลเลคชันใหม่ ชูจุดเด่นเน้นดีไซน์และฟังก์ชัน ตอบรับเทรนด์รักษ์โลก-สุขภาพ ควบคู่กับกลยุทธ์ O2O (Offline to Online และ Online to Offline) เพิ่มศักยภาพช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านออนไลน์ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

นอกจากนี้ บริษัทเดินหน้าขยายฐานลูกค้าธุรกิจงานโครงการ อาทิ โรงพยาบาล โรงแรม บริษัทออกแบบตกแต่งภายใน ที่มีความต้องการใช้เฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งอีกมาก อีกทั้ง สร้างโอกาสเข้ารับงานให้ธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายในครบวงจร “Chic Design Studio” รวมถึง ยังคงเข้าประมูลงานโครงการอสังหาฯ แนวราบ-แนวสูงเข้ามาเพิ่มเติม สร้างยอดขายและโอกาสทำกำไรให้มากขึ้น

สำหรับธุรกิจการให้บริการพื้นที่เช่า บริษัทเดินหน้าตามแผน เร่งเข้าดำเนินการปรับปรุงขยายเพิ่มพื้นที่เช่าสาขาบางนา คาดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 / 66 ขณะที่สาขาราชพฤกษ์ปรังปรุงแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการร้านค้าใหม่ ถือเป็นการสร้างรายได้ประจำเพิ่มขึ้น หนุนรายได้โตตามเป้าหมายที่ 20-25%

“อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงมีเป้าหมายสร้างการเติบโตและเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง มีแผนความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยอยู่ระหว่างศึกษาพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาเพิ่ม สนับสนุนการเติบโต สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันเหนือคู่แข่ง ส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ สนับสนุนให้รายได้ และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” กิจจา กล่าว

อ่านเพิ่มเติม : เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ สร้าง Petscape ecosystem เพื่อคนและสัตว์เลี้ยง

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine