การขับเคลื่อนตลาดทุนภายใต้การกุมบังเหียนของเอ็มดีหญิง พร้อมปรับเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการเงินการลงทุน โชว์ผลงานโค้งสุดท้ายนำตลาดหลักทรัพย์ฯ สู่ความยั่งยืนทุกมิติ เดินหน้าเชื่อมโอกาสการลงทุนระดับโลก
ภายใต้ภารกิจการสานต่อความยั่งยืนให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสามารถยืนหยัดทำหน้าที่สำคัญในฐานะเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจควบคู่กับการพัฒนาสังคมและยกระดับประเทศได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยวิสัยทัศน์ “Towards Sustainable Growth” จากความมุ่งมั่นของ เกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วัย 57 ปี ซึ่งให้ความสำคัญกับการดำเนินงานโดยยึดหลักความยั่งยืน เพื่อสร้างความสมดุลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล บันไดสู่การเป็นผู้นำทัพตลาดทุนไทยเริ่มตั้งแต่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พร้อมเก็บเกี่ยวประสบการณ์หลากหลายด้านการเงินและการลงทุน ทั้งการรับราชการในกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนประจำวันระหว่างทำงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ก่อนจะเดินทางศึกษาต่อปริญญาโททางการเงินที่ Golden Gate University ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังเรียนจบ ทำงานเป็นนักวิเคราะห์ในบริษัทเล็กๆ ก่อนเรียนรู้การทำงานในตำแหน่งต่างๆ จากบริษัทชั้นนำอย่าง Standard Chartered Security Asia บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์สินเอเซีย ก่อนร่วมนำทัพตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้านตลาดตราสารหนี้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2546 ทั้งยังได้รับมอบหมายให้ดูแลตลาดอนุพันธ์และตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ตลอดจนนั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการ บริษัทตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX และนั่งเป็นกรรมการสำคัญๆ หลายตำแหน่งในเวลาต่อมา “ถ้ามองย้อนกลับไป ทุกงานช่วยให้เราสั่งสมประสบการณ์ในตลาดทุนหลากหลายแง่มุม เรารู้และปฏิบัติทุกตลาด โดยเฉพาะการทำงานในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปีนี้เป็นปีที่ 15 เราได้เรียนรู้เรื่องใหม่ทุกวัน เราอาจจะโชคดีที่เป็นผู้จัดการคนในที่ได้รับการโปรโมทเพื่อเข้ามาทำเรื่องใหม่ให้ตลาด โดยเราเห็นการทำงานในหลายส่วนของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้เรารู้ว่าเรื่องไหนควรให้ใครทำ ความเป็นไปได้และระยะเวลาในการดำเนินงาน” ผลงานการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวเนื่องกับการลงทุนทางเลือกใหม่ให้ผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสบการณ์ด้านตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดอนุพันธ์ที่สั่งสมตลอดเส้นทางของเกศรา ทำให้เธอพร้อมสำหรับเก้าอี้กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์คนที่ 12 โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1มิถุนายน 2557 - 31 พฤษภาคม 2561 “ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนมาโดยตลอด แต่เราต้องการโฟกัสที่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมซึ่งนำโดย innovation แบ่งเป็นการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่และการพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ดีขึ้น ไม่เฉพาะผลิตภัณฑ์ทางการลงทุน แต่อาจจะเป็นวิธีบริหารจัดการ” ภายใต้วิสัยทัศน์ตลาดทุนระยะยาวสู่ปี 2563 ได้แก่ “Towards Sustainable Growth” ให้มีความมั่นคง สร้างความมั่งคั่งและเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งผลักดันผู้เกี่ยวข้องให้ร่วมมือกันขับเคลื่อนกรอบการพัฒนาความยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์ (SET Sustainable Stock Exchange Framework) ทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ การบริหารองค์กรอย่างยั่งยืน การสร้างคุณค่าตลาดทุน การพัฒนาและดูแลพนักงาน การพัฒนาและดูแลสังคม และการจัดการสิ่งแวดล้อม ก้าวสู่ตลาดทุนโลก ด้านแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมขยายโอกาสการระดมทุนไปยังกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงสตาร์ทอัพ ด้วยการพัฒนา LIVE Platform ให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือช่วยเพิ่มสภาพคล่อง พร้อมทั้งพัฒนาสินค้าใหม่ TFEX Gold-D สัญญาซื้อขายที่อ้างอิงทองคำแท่งความบริสุทธิ์ 99.99% โดยขยายเวลาซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำ ในช่วงเวลากลางคืนเป็น 19.00-23.55 น. (จากเดิม 19.30-22.30 น.) ให้สอดคล้องกับตลาดทองคำสำคัญของโลก รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมการลงทุนสม่ำเสมอต่อเนื่องในลักษณะ dollar-cost Averaging หรือ DCA ซึ่งในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา DCA มีบัญชีหุ้นกองทุนรวมกว่า 30,000 บัญชี พร้อมเปิดให้บริการ Fund Connext โดยในช่วงเริ่มต้นมี บลจ. 5 แห่ง และ บล. 3 แห่งใช้บริการ และเปิดตัวแอพพลิเคชั่น Settrade Streaming for Fund พร้อมทั้งยังเดินหน้าปรับลดระยะเวลาชำาระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ให้สามารถดำเนินการได้ใน 2 วันทำการ (T+2) ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาระบบงาน เพื่อทดสอบกับสมาชิกก่อนเริ่มใช้จริง 2 มีนาคมในปีหน้า นอกจากนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมุ่งส่งเสริมบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมคำนวณในดัชนี DJSI (Dow Jones Sustainability Index) เพิ่มขึ้น และจัดทำรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI (Thailand Sustainability Investment) จากเดิมที่มี 90 บริษัท และตอกย้ำบทบาทการพัฒนาตลาดทุนที่ ยั่งยืนของประเทศไทยในเวทีระดับโลก ด้วยการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของสหพันธ์ตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (Word Federation of Exchanges) หรือ WFE “ในแง่ความเป็นสากล เราไม่แพ้ใครเราเป็นสมาชิกเกือบทุกองค์กรที่เกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ เช่น เราเป็นสมาชิกเกือบ 10 ปีใน WFE หรือสภาตลาดหลักทรัพย์โลกซึ่งมีสมาชิก 67 ประเทศ เราไปสมัครเป็นบอร์ดและได้รับเลือกเมื่อปีที่ผ่านมา ปีนี้เราเสนอให้เขาเข้ามาจัดการประชุมที่ประเทศไทย รวมถึงตลาด TFEX ที่พร้อมเป็นเจ้าภาพให้ Association of Futures Markets ในปีหน้า” ขณะเดียวกันเกศรายังมุ่งมั่นเชื่อมโอกาสการลงทุนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion หรือ GMS) โดยเข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์และหน่วยงานกำกับดูแลจากประเทศ กัมพูชา เวียดนาม ลาว และเมียนมา รวมถึงผู้บริหารระดับสูงตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง (GMS Focus) เพื่อร่วมมือกันทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และโครงการต่างๆ เชื่อมโยงตลาดทุนภูมิภาคอย่างยั่งยืน “เราให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) มานานแล้ว เช่น เทรนการทำงานให้ตลาดหลักทรัพย์ลาวประมาณ 5 ปีก่อน ตลาดหลักทรัพย์กัมพูชาประมาณ 3-4 ปี ตลาดเวียดนามใช้ระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ไทยมากกว่า 10 ปี และเมียนมาที่เราช่วยเทรนให้ รวมถึงอินโดนีเซียและกลุ่ม GMS” เกศราปิดท้ายถึงเป้าหมายของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มุ่งมั่นเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์การสร้างความยั่งยืน พร้อมให้ความสำคัญในการพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ภายใต้วิสัยทัศน์ “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone” “เราต้องการเห็นตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นประโยชน์ต่อประเทศและทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ทั้งบริษัทสามารถใช้เราเป็นเครื่องมือหรือประชาชนทั่วไปสามารถลงทุนและสร้างความมั่งคั่งได้ โดยเราต้องปรับตัวด้านการสื่อสารให้เข้ากับคนแต่ละกลุ่ม ทำให้ตลาดทุนสามารถจับต้องได้ รวมถึงการตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของทุกกลุ่ม”คลิกเพื่อ "เกศรา มัญชุศรี ดอกไม้เหล็กในสวนลงทุน" จาก Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2560 ในรูปแบบ e-Magazine