ไตรนุภาพ จิระไตรธาร จับจังหวะยุคดิจิทัลสร้างธุรกิจยั่งยืน - Forbes Thailand

ไตรนุภาพ จิระไตรธาร จับจังหวะยุคดิจิทัลสร้างธุรกิจยั่งยืน

ไตรนุภาพ จิระไตรธาร ทายาทธุรกิจ บริษัท ครีเอตุส คอร์โปเรชั่น จำกัด ที่รับช่วงต่อจากธุรกิจครอบครัวมาแล้วกว่า 9 ปี ปัจจุบันเขากำลังนำพารากฐานการทำงานชั้นเยี่ยมของคนรุ่นเก๋าเข้ากับความทันสมัยในเทคโนโลยีผ่านแนวทางการบริหารของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว

ไตรนุภาพ จิระไตรธาร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ครีเอตุส คอร์โปเรชั่น จำกัด ขยายความถึงจุดเริ่มต้นของบริษัทที่กลายมาเป็นวิสัยทัศน์หลักในการทำงานทุกวันนี้ให้ฟังว่า “ครีเอตุสฯ มีหน้าที่นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับโลก พร้อมบริการทั้งก่อนและหลังการขายด้วยความเชี่ยวชาญผ่านประสบการณ์ที่สะสมมาตลอด 39 ปี ภายใต้เป้าหมายหลักคือ การสร้างสรรค์โซลูชั่นต่างๆ ขึ้นเพื่อเพิ่มผลลัพธ์และลดต้นทุน เพื่อเพิ่มความสำเร็จทางธุรกิจให้มากกว่าเดิม” จากรากฐานที่มั่นคงสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ธุรกิจถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ในฐานะของผู้รับไม้ผลัดที่สอง ไตรนุภาพมองการเติบโตของธุรกิจเป็น 2 ช่วงเวลา ช่วงแรกของการก่อตั้งเปรียบเสมือนการวางรากฐาน ถ้ามั่นคงและแข็งแรงก็จะผลักดันให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างทรงพลัง และช่วงที่สองคือช่วงของการต่อยอดเพื่อให้ธุรกิจทันสมัย ครบวงจร และดีที่สุด “ต้องบอกก่อนเลยว่าในช่วงของการวางรากฐาน ป๊ากับม้า (วันชัย และสุทธินี จิระไตรธาร) ทำไว้ได้อย่างแข็งแรง ด้วยการคัดเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ เนื่องจากเขาจะไปตรวจเยี่ยมทุกโรงงานด้วยตัวเองเพื่อจะได้มั่นใจว่าสิ่งที่นำเข้ามาจะมีประโยชน์จริง และไม่สร้างปัญหาให้ลูกค้าในภายหลัง อีกอย่างที่เป็นรากฐานที่ดีมากๆ ก็คือการสร้างเครือข่ายลูกค้าได้อย่างมั่นคงผ่าน “การบริการหลังการขาย” ที่กลายมาเป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักของครีเอตุสฯ และนี่คือสิ่งที่ป๊ายังคงย้ำเสมอในทุกการประชุมว่าเราจะไม่ทิ้งลูกค้า ถึงจะต้องปรับราคาลงมาจนขาดทุนก็ให้ทำเพื่อรักษากลุ่มลูกค้าไว้ให้ได้” “และเมื่อเข้ามาสานต่อ  ผมพยายามหยิบเอาความรู้ใหม่ๆ ที่ได้เห็นหรือเจอจากการเดินทางต่างประเทศมาประยุกต์ใช้ ดังนั้นผมจึงมีการเปลี่ยนโลโก้ เปลี่ยนแท็กไลน์ ปรับปรุงเว็บไซต์ วิธีการทำพรีเซนเทชั่น รวมถึงเอาเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาเพื่อให้ทุกคนทำงานได้ง่ายขึ้น ส่งเสริมช่องทางการตลาดทั้งบนเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และทำโฆษณาทั้งออฟไลน์กับออนไลน์ควบคู่กับการจัดอีเวนต์ที่เข้าถึงคนกลุ่มใหญ่ได้มากกว่าเดิม” จับจุดการทำธุรกิจออนไลน์ผ่านประสบการณ์ออฟไลน์         การเรียนรู้ผ่านทีมงานที่เชี่ยวชาญถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ ไตรนุภาพ พาครีเอตุสเติบโตในธุรกิจยุคดิจิทัลแบบก้าวกระโดด “ต้องยอมรับก่อนว่าวันแรกที่เข้ามารับช่วงต่อ ผมอีโก้สูงมาก เชื่อว่าตัวเองถูกทุกอย่าง ทำให้แทนที่จะได้เรียนรู้กับคนที่เก่งและมีประสบการณ์ในธุรกิจด้านนี้ กลับกลายเป็นว่าเราไปจับยัดอะไรที่ไม่ใช่ลงไปในตัวทีมงาน” แต่เมื่อทุกอย่างถูกปรับจนลงตัว ปัญหาทุกอย่างถูกแก้ไข ผู้ชายคนนี้ก็กลายเป็นคนทำงานมืออาชีพที่บริหารลูกน้องภายใต้แนวคิด See the best in them “เราต้องพยายามดึงจุดเด่นในตัวเขาออกมา และพยายามพัฒนาจุดเด่นตรงนั้นให้เปล่งประกาย พร้อมกับถูกใช้อย่างเต็มศักยภาพที่สุด” เมื่อกล้าที่จะเรียนรู้ ส่งผลให้ไตรนุภาพค้นพบว่าจุดแข็งที่สุดของครีเอตุสฯ คือการมี Know How ที่ครบแทบจะทุกธุรกิจ “ด้วยความที่ธุรกิจเราเปิดมานาน เราจะรู้จักอุตสาหกรรมแทบทุกภาคส่วน มีทีมงานหลายคนที่ได้สัมผัสกับลูกค้าตั้งแต่รุ่นก่อตั้ง เรื่อยมาจนถึงรุ่นลูกที่เข้ามาสืบทอด จึงกลายเป็นข้อมูลที่ลงลึกมากๆ ดังนั้นผมเองจึงมีหน้าที่รวบรวมฐานข้อมูลทั้งหมดนี้ไว้เป็นหนังสือเล่มใหญ่เพื่อแบ่งปันให้กับทีมงาน และที่สำคัญถ้าเรามี Customer Insight เวลาไปขายงาน เราจะไม่ได้ไปในฐานะคนขาย แต่เราจะเข้าไปเพื่อใช้ความเชี่ยวชาญที่มีในการผลักดันให้ธุรกิจของเขาไปถึงเป้าที่ตั้งไว้” ด้วยความเชี่ยวชาญอย่างเต็มกำลังส่งผลให้วันนี้ ครีเอตุสฯ มีโซลูชั่นที่พร้อมให้บริการครบถ้วนทุกอุตสาหกรรม ไล่เรียงตั้งแต่ ธนาคารและสถาบันการเงิน ระบบรักษาความปลอดภัย โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรมและอาคารสำนักงาน และร้านค้าปลีก โดยมีลูกค้ารายใหญ่หลายราย อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคาร ธกส. ธนาคารแห่งประเทศไทย ศูนย์เงินสดทั่วประเทศ รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมายที่เลือกใช้โซลูชั่นระบบรักษาความปลอดภัย “หนึ่งในโซลูชั่นของเราที่เป็นที่นิยมอย่างมากคือเครื่องนับเงิน ผมมองว่าถ้าเครื่องนับเงินที่ขายไปสามารถช่วยให้ทีมงานของธนาคาร ห้างสรรพสินค้า หรือในศูนย์แลกเปลี่ยนเงินสดประหยัดเวลาและความยุ่งยาก รวมถึงช่วยลดความเครียดในการจับเงินสดได้ นั่นคือความสำเร็จที่สุดในการทำงานของผมแล้ว เนื่องจากถ้าเขาสบายใจ เขาก็จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข มีเวลาให้ครอบครัวมากกว่าเดิม ได้ยิ้มให้กัน ได้หัวเราะให้กัน ซึ่งนั่นก็จะเป็นการสร้างพื้นฐานที่ดีให้กับประเทศ เพราะเมื่อครอบครัวแข็งแรง ประเทศก็จะเติบโตได้ “นอกเหนือจากนี้ยังมีในเรื่องธุรกิจความปลอดภัยที่ถูกนำไปใช้ในสนามบินขนาดใหญ่เพื่อตรวจจับโลหะ อันนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่ผมรู้สึกภูมิใจมากที่โซลูชั่นของทีมถูกเลือกใช้ในระดับนานาชาติเพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่และประชาชนรู้สึกสบายใจเมื่อเข้ามาใช้บริการ ส่วนเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ขึ้นแท่นเป็นปัญหา เราก็เดินหน้าเรื่องนี้มาพักใหญ่ ทำให้เรามีตัวเลือกค่อนข้างครบ ทั้งระบบอัดเศษวัสดุเหลือใช้เพื่อเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นเงิน หรือเครื่องทำลายเอกสาร” “อีกหนึ่งระบบที่ผมค่อนข้างภูมิใจมากก็คือ Access Control System หรือระบบควบคุมการเข้าออกแบบอัตโนมัติ โดยจะลิงก์ระบบเข้ากับฐานข้อมูลของฝ่ายบุคคลและตึก ดังนั้น จะสามารถเช็กย้อนหลังได้ทั้งหมดว่ามีใครเข้าออกเวลาไหนบ้าง และเมื่อลูกค้ามาถึงก็สามารถแลกบัตรเข้าอาคารได้เองเลย และผมก็ตั้งใจจะพัฒนาสู่อีกขั้นคือทำให้เป็น Mobile Application นั่นคือก่อนเข้าตึกก็สามารถลงทะเบียนผ่านอีเมลไว้ก่อนได้ เมื่อมาถึงก็สแกนเข้าตึกเองได้เลย ประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากร” “สิ่งที่ทำให้ผมมองว่าครีเอตุสฯ แตกต่างก็คือ “ความต่าง” เนื่องจากเราเป็นธุรกิจที่ครบวงจร คุณสามารถซื้อได้ทั้งเครื่องนับเงิน เครื่องตรวจโลหะ หรือซื้อระบบควบคุมการเข้าออกตึกจากครีเอตุสได้ทั้งหมด โดยไม่จำเป็นต้องแยกซื้อหลายที่ให้ยุ่งยาก ที่สำคัญเมื่อซื้อเทคโนโลยีจากเรา คุณจะได้ทั้งเรื่องของการจัดการกับการบริหารที่เหมาะกับองค์กรไปใช้ด้วย ซึ่งผมเชื่อว่าในประเทศมีแค่เราเท่านั้นที่ทำได้” ปรับมายเซ็ตธุรกิจ จากคำที่เคยได้ยินจนคุ้นหู Thinks of Solution, Thinks of Creatus  เมื่อครีเอตุสฯ เปลี่ยนผ่านมาอยู่ในการดูแลของไตรนุภาพ เขาได้ทำการเปลี่ยนแท็กไลน์เป็น Creating Innovation for your Success “เพราะวันนี้ครีเอตุสฯ ไม่ใช่แค่บริษัทที่มุ่งหาแค่โซลูชั่นเพียงอย่างเดียว แต่เรายังรวบรวมไอเดียที่ดีที่สุด หาทางที่ใช่ที่สุด พร้อมกับอัพเดตตัวเองตลอดเวลาจึงคิดว่าการปรับมาเป็น Creating Innovation for your Success น่าจะชี้เฉพาะได้ตรงจุดมากกว่าเดิม เนื่องจากทุกนวัตกรรมเราสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อความสำเร็จของคุณ” ไม่ใช่แค่แนวคิดในการตอบโจทย์ลูกค้าเท่านั้นที่ถูกปรับเปลี่ยนเพื่อให้ทุกการบริการสมบูรณ์แบบที่สุด ทว่าการทำงานภายในองค์กรของครีเอตุสฯ ก็ต้องขยับตามไปด้วย “แน่นอนว่าเพราะผมมีพื้นฐานทางด้านวิศวะ จึงถนัดทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ผมจึงตั้งทีม Innovation ขึ้นมาเพื่อ Add Value ให้กับของที่เรามีพร้อมกับบูรณาการให้เป็นโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้แบบจริงจัง” มองเทคโนโลยีผ่านสายตาคนรุ่นใหม่ เมื่อได้ฟังมุมมองการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีผ่านทัศนะของไตรนุภาพ เราได้ค้นพบว่าเขาไม่ได้กลัวธุรกิจจะถูก Disrupt ด้วยเทคโนโลยีเลยแม้แต่น้อย รวมถึงเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่เขานำเข้ามาก็ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อลดจำนวนคน ตรงกันข้ามกลับเป็นการเพิ่มศักยภาพให้ทีมงาน “ผมจะย้ำกับทีมงานเสมอว่างานของเราไม่ได้ทำมาเพื่อลดคนนะ แต่เป็นการออกแบบเพื่อให้เขามีเวลาไปเรียนรู้หรือทำสิ่งอื่นที่เหมาะสมกับศักยภาพของตัวเอง เนื่องจากถ้าเราสามารถลดทอนขั้นตอนจิปาถะให้เขาได้ เขาจะมีพื้นที่เพื่อพัฒนาตัวเองมากขึ้น” ทิศทางของครีเอตุสฯ ภายใต้การคุมหางเสือของไตรนุภาพ “ช่วง 3-5 ปีนี้ ผมอยากทำให้ครีเอตุสฯเป็นภาพแรกที่คนทำธุรกิจค้าปลีกนึกถึง เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญเป็นทีมกำลังสำคัญ และที่สำคัญเราได้รับความไว้วางใจจากธุรกิจขนาดใหญ่มาแล้ว ดังนั้นจึงวางใจได้ในเรื่องของบริการและระบบต่างๆ รวมถึงผมอยากทำให้ทุกบ้านติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยจากครีเอตุสฯ สักบ้านละชิ้นก็ยังดี” “ส่วนในภาพรวมของการพัฒนาธุรกิจ ผมตั้งใจจะหาโซลูชั่นที่ดีต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” สำหรับการทำงานของตัวเอง ไตรนุภาพยังคงขอยึดมั่นในแนวคิดเดิมอย่างต่อเนื่อง นั่นคือ “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” ดังนั้นทุกสถานการณ์ตรงหน้าไม่ว่าจะยากหรือท้าทายแค่ไหน ผมจะเชื่อก่อนเลยว่าเราทำได้ แต่นั่นก็ต้องอยู่ภายใต้การพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน เพราะขนาดวินโดว์กับระบบไอโอเอสยังต้องอัพเดตอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นผมจึงเชื่อว่าเราก็ต้องต่อยอดตัวเองไปเรื่อยๆ และที่สำคัญอย่าตีกรอบให้ความคิดและชีวิตตัวเองเด็ดขาด   ภาพ: กิตติเดช เจริญพร
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine