รุ่นที่ 2 ของหนุ่มสาวทัวร์ ในมือ "โชติช่วง" และ "ชัชวาล" - Forbes Thailand

รุ่นที่ 2 ของหนุ่มสาวทัวร์ ในมือ "โชติช่วง" และ "ชัชวาล"

จุดเริ่มจากกิจกรรมนำเที่ยวเพื่อหาทุนของนักศึกษามหาวิทยาลัยเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน กลายมาเป็นธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมมูลค่าหลายพันล้านบาทของตระกูล  “ศุภฤกษ์ ศูรางกูร” กำลังหล่อหลอม ฝึกปรือ ลูกชายฝาแฝด “โชติช่วง” และ “ชัชวาล” ให้ขับเคลื่อนอาณาจักรให้สว่างไสว ขจรไกลไปทั่วโลก

จากกิจกรรมนักศึกษาในยุค “ฉันจึงมาหาความหมาย” เมื่อกว่า 4 ทศวรรษก่อน เพื่อหารายได้ทำมากิจกรรมเพื่อมวลชน จนต่อยอดเป็นกิจการจริงจังในนาม “หนุ่มสาวทัวร์” ของ “ศุภฤกษ์ ศูรางกูร” ในปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัทหนุ่มสาวทัวร์ จำกัด และนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) ปัจจุบัน “หนุ่มสาวทัวร์” ได้ขยายเป็นธุรกิจท่องเที่ยวครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นทัวร์ในและต่างประเทศ รถเช่า ร้านอาหาร โรงแรม และอื่นๆ อีกมากมาย มาวันนี้ได้เวลาผ่องถ่ายจากรุ่นพ่อผู้ก่อตั้งมาสู่รุ่นลูก ให้สืบทอดกิจการให้แข็งแกร่งต่อไป สองทายาทแฝดในวัย 31 ปี “โชติช่วง” กับ “ชัชวาล” ซึ่งกำเนิดมาพร้อมกับการค้นพบแก๊สธรรมชาติในอ่าวไทย ทั้งคู่แบ่งงานกันรับผิดชอบ โชติช่วงให้ความสำคัญกับพบปะและร่วมงานกับผู้คนที่หลากหลาย ชัชวาลสนใจงานออกแบบตกแต่ง และพบปะลูกค้าต่างชาติ “พ่อปล่อยอิสระทุกอย่าง  ถ้าชอบก็ทำ ไม่ชอบก็ไม่ต้องทำ ถ้าไม่มีใครทำก็ขายทิ้ง ท่านไม่ยึดติด เพราะผู้กำหนดชีวิตคือเราเอง ซึ่งเราเห็นในสิ่งที่พ่อทำ ความขยัน บวกกับความชอบส่วนตัวของพวกเราที่ซึมซับมาตั้งแต่เด็ก” ชัชวาลกล่าวถึงบิดา เมื่อธุรกิจทัวร์ตกอยู่ในมือคนรุ่นใหม่ วัย 30 ต้นๆ โชติช่วงจึงเปลี่ยนหนุ่มสาวทัวร์สร้างเป็นแบรนด์ N.S. Travel & Tour พร้อมสร้าง Brand Identity ให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่จะก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ ปรับโฉมเว็บไซต์ สร้างช่องทางงานออนไลน์ให้ทันสมัย ปรับลุคให้เป็นหนุ่มสาวเสมอ แต่ภายในอาณาจักรหนุ่มสาวทัวร์ปัจจุบัน รายได้หลักกว่า 65% มาจากกิจการโรงแรมในเครือ “เซเรนนาต้า” ซึ่งเป็นดำเนินการมากว่า 20 ปี มีโรงแรมและรีสอร์ตทั่วประเทศรวม 16 แห่ง โดยปรับใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย สร้างระบบออนไลน์ในการจองห้องพัก จนทำให้รายได้ขยับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เฉพาะปีแรกรายได้เพิ่มถึง 300% และโตต่อเนี่อง 60% ในปีล่าสุด ก้าวต่อไปก็คือเดินหน้าขยายสาขาในต่างประเทศ โดยวางแผนไว้ในสามปีข้างหน้าจะปักหมุดลงที่เมียนมาร์ ความแตกต่างในความเหมือนของฝาแฝดอยู่ที่สไตล์การบริหาร ในธุรกิจทัวร์ที่เต็มไปด้วยรุ่นพี่มากประสบการณ์ โชติช่วงจึงเน้นรับฟังความคิดเห็น และสร้างความเข้าใจในทิศทางของงานร่วมกัน ขณะที่ธุรกิจโรงแรมของชัชวาลเต็มไปด้วยรายละเอียด และต้องเดินทางเพื่อดูแลความเรียบร้อยอยู่สม่ำเสมอ แต่ท้ายที่สุดแล้วความเหมือนยังจะคงแรงแซงความต่าง เมื่อสองหนุ่มมักจะระดมสมองหาช่องทางธุรกิจใหม่ๆ ที่ปัจจุบันนี้แตกยอดออกไปหลายสิบโครงการแล้ว เป็นความร่วมมือร่วมแรงสร้างงานให้ “โชติช่วงชัชวาล” ไปไกล  
สรุปและตัดตอนจาก “รุ่นที่ 2 ของหนุ่มสาวทัวร์ ในมือ ‘โชติช่วง’ และ ‘ชัชวาล’”, Forbes Thailandฉบับ JULY 2014