สมหวัง ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ จูง “เด็กสมบูรณ์” บุกครัวโลก - Forbes Thailand

สมหวัง ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ จูง “เด็กสมบูรณ์” บุกครัวโลก

เมื่อซีอิ๊วขาวตรา “เด็กสมบูรณ์” เข้าไปอยู่ในครัวเกือบจะทุกบ้านของคนไทย ทำให้เจ้าเด็กอ้วนพีคิดการใหญ่ด้วยแผนบุกครัวโลก ภายใต้การนำของคลื่นลูกที่ 3 อย่าง สมหวัง ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ ผู้มุ่งมั่นต่อยอดธุรกิจของตระกูล ไม่ว่าจะมองหาทางลัดโต อย่างควบรวมกิจการ หรือซื้อกิจการ

พาวิเลี่ยนของ บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด พร้อมกับโลโก้ตราเด็กสมบูรณ์ยืนโดดเด่นอย่างสง่างามในงาน THAIFEX- World of Food Asia 2016 ที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี บรรยากาศภายในพื้นที่จัดงาน เต็มไปด้วยความคึกคัก และบนพื้นที่เจรจาการค้าพลุกพล่านไปด้วยผู้ซื้อต่างชาติจากทั่วโลก ทั้งหมดสนใจเข้าพูดคุยเพื่อซิ้อสินค้า ไม่ว่าจะเป็นซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส ไปจำหน่าย นี่คืออีกความพยายามหนึ่งของ สมหวัง ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของหยั่น หว่อ หยุ่น ทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล ผู้มุ่งมั่นสืบทอดตำนานซีอิ๊วขาวและต่อยอดตราแบรนด์เด็กสมบูรณ์ไปตลาดโลก หลังแบรนด์กำเนิดขึ้นในปี 2493 ปัจจุบันแทบไม่มีใครไม่รู้จักซีอิ๊วขาวและเต้าเจี้ยวตราเด็กสมบูรณ์ ปรากฏการณ์ที่ว่านี้ ทำให้ตลาดไทยดูเหมือนจะเล็กเกินไปแล้วสำหรับบริษัทเครื่องปรุงรสอายุเก่าแก่นี้ ซีอิ๊วของตระกูลตั้งสมบัติวิสิทธิ์ถือกำเนิดขึ้นในปี 2490 ผลิตโดยปู่ของสมบัติที่ชื่อ ถ่ง แซ่ตั้ง ซึ่งย้ายถิ่นฐานมาจากประเทศจีนพร้อมสูตรเด็ดการทำซีอิ๊ว ถ่งเปิดโรงผลิตซีอิ๊วเล็กๆ เนื้อที่ราว 100-200 ตารางวาในซอยวัดไผ่เงิน เขตสาธร เขาพิถีพิถันกับการผลิตมาก เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ จนถึงระยะเวลาการหมัก เพื่อให้ได้รสชาติออกมากล่อมกล่อม ขณะที่วิธีการขาย ก็เป็นการบอกปากต่อปากกรอกใส่ขวดขาย ไม่มีตราสินค้าเพื่อโฆษณาชวนซื้อแต่อย่างใด เมื่อถ่งเสียชีวิต วิเชียร ผู้เป็นลูก ในฐานะทายาทรุ่นที่ 2 เข้าดูแลกิจการต่อ โดยวิเชียร พยายามปรับปรุงธุรกิจให้เป็นระบบมากขึ้น ทั้งการผลิตและการจำหน่าย โดยมีภรรยาช่วยอยู่ข้างหลัง ช่วงนั้นเด็กชายสมหวัง ผู้เป็นลูก อายุได้ราว 10 ขวบ เขาเริ่มแบ่งภาระงานจากพ่อแม่โดยรับอาสาตอกจุกปิดขวดซีอิ๊ว พอโตขึ้น ก็รับหน้าที่เก็บเงิน เก็บขวดคืน จนถึงรับจดออร์เดอร์ ทำให้เขามีวุฒิภาวะมากกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน และที่สำคัญที่สุดคือ ได้โอกาสเรียนรู้กิจการของครอบครัวตั้งแต่ฐานรากจนถึงระดับบริหาร ปี 2493 ตราเด็กสมบูรณ์ถูกจดทะเบียนการค้ากับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ง่ายต่อการทำตลาดและการจดจำของผู้บริโภค สมัยนั้น วิเชียรไม่รู้จะออกแบบตราสินค้าอย่างไร และไม่มีนักออกแบบแบรนด์ให้ปรึกษา เขาจึงจ้างจิตรกรมาช่วยวาดตามข้อมูลจริงจากการขายคือ เขาแนะนำลูกค้าให้เหยาะซีอิ๊วลงในข้าวต้มให้เด็กกิน เมื่อเด็กกินได้เยอะ จะได้เจริญอาหารและเด็กคนนั้นจะกลายเป็นเด็กสมบูรณ์ เขาจึงเรียกซีอิ๊วของเขาว่า “เด็กสมบูรณ์” ตั้งแต่นั้น จากนั้นจิตรกรก็วาดสิ่งที่เขาคิด ถอดรหัสข้อมูลได้ เป็นภาพเด็กอ้วนๆ คนหนึ่งนั่งกอดขวด หลังมีแบรนด์ไว้เรียกขาน ซีอิ๊วขาวของตระกูลตั้งสมบัติวิสิทธิ์ก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นในท้องตลาด วิเชียรเป็นคนมีวิสัยทัศน์ แม้เรียนหนังสือมาน้อย เขาพยายามยกระดับการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจบินไปประเทศญี่ปุ่น ดูการผลิตในโรงงานซีอิ๊ว ที่นั่นเขาได้เรียนรู้กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้รสชาติคงที่ ต่างกับวิถีของเขาที่ใช้วิธีการหมักแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยใช้ตุ่มในการหมัก ไม่มีการคุมอุณหภูมิแต่อย่างใดทำให้รสชาติซีอิ๊วไม่คงที่ในฤดูกาลต่างๆ ปี 2528 เขาจึงตัดสินใจตั้งโรงงานแห่งแรกที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยใช้เทคโนโลยี จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อยกระดับการผลิตของโรงงาน ถือเป็นจุดเปลี่ยนการผลิตสินค้าของหยั่น หว่อ หยุ่น ครั้งสำคัญ จนสามารถก้าวขึ้นครองสัดส่วนอันดับ 3 ของตลาดในขณะนั้น “พ่อเป็นคนมีวิสัยทัศน์ ค่อนข้างทันสมัย แม้ไม่ได้เรียนสูง เขาชอบมองไปข้างหน้า” สมหวังกล่าว การมองการณ์ไกลของพ่อด้านการค้าและการขยายตลาด ทำให้สมหวังถูกส่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อฝึกฝนภาษาและเปิดโลกทัศน์ เขาเรียนระดับมัธยมที่ประเทศอังกฤษอยู่ 3 ปี จากนั้นก็ติดสินใจบินข้ามทวีปไปเรียนต่อปริญญาตรีการตลาดและปริญญาโทที่ Azusa Pacific University สหรัฐฯ อีก 5 ปี เขาเลือกเรียนที่สหรัฐฯ เพราะชอบการตลาดถึงลูกถึงคนสไตล์อเมริกัน หลังจบ ก็มาช่วยงานพ่อ จนเมื่อ วิเชียรในวัย 67 ปี ได้เสียชีวิตลง ขณะนั้นสมหวังอายุราว 30 ต้นๆ แต่งงานแล้ว ต้องเข้ามารับช่วงกิจการต่อ ตอนนั้นราวปี 2544 หยั่น หว่อ หยุ่น มียอดขายประมาณ 800-900 ล้านบาทและแบรนด์เด็กสมบูรณ์ได้หยั่งรากลงอย่างมั่นคงในตลาดเครื่องปรุงรสเป็นที่เรียบร้อยและมี สมหวัง เข้ามาสืบทอดกิจการต่อ ความท้าทายของเขาคือ จะทำให้แบรนด์เด็กสมบูรณ์เติบโตได้แข็งแกร่งในระยะยาวได้อย่างไรและดีกว่ารุ่นพ่อที่สร้างไว้ ท่ามกลางการเปลี่ยนทางสังคมและวิถีการบริโภคของคนไทยที่มีแนวโน้มเน้นอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น เขาค้นพบว่า แบรนด์เด็กสมบูรณ์สามารถต่อยอดทางธุรกิจได้อีกมากในอนาคต นอกจากนี้ ยังเรียนรู้ว่า การพึ่งพากับสินค้าใด้สินค้าหนึ่งมากเกินไป จะเกิดความเสี่ยงต่อบริษัทตามมา ประกอบกับแนวทางการผลิตสินค้าให้ “ครบวงจร” ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อที่ริเริ่มไว้ ดังนั้น เขาจึงเน้นการผลิตสินค้าเครื่องปรุงรสอื่นๆ เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นซอสหอยนางรม น้ำปลา ผงปรุงรส น้ำจิ้มประเภทต่างๆ น้ำส้มสายชู ซอสพริก ซอสปลาเค็ม พริกไทยป่น หรือเต้าหู้ยี้แดง และสินค้าเหล่านี้ต้องตอบโจทย์เรื่องสุขภาพของผู้บริโภคในเวลาเดียวกัน ปัจจุบัน หยั่น หว่อ หยุ่น มีสินค้า 6 กลุ่ม มีสินค้ามากกว่า 1,000 ชนิด อย่างไรก็ตาม สินค้าบางรายการผู้บริโภคยังไม่ค่อยรู้จักมากนัก  เพราะคนส่วนใหญ่ยังคุ้นเคยกับซีอิ้วขาวเด็กสมบูรณ์มากกว่า เขาคาดว่า คงต้องใช้เวลาในการทำตลาดอีกระยะหนึ่ง ผ่านการทำกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ให้ผู้บริโภคได้รับรู้ อาทิ ไอ-เชฟ(i-Chef) เป็นเครื่องปรุงสำเร็จ “รุ่นที่ 3 ต้องทำธุรกิจให้สอดคล้องกับสังคม ไม่ว่าเรื่อง innovation หรือ branding อย่างหลังจะทันสมัยหรือไม่ ก็ต้องมีสินค้าออกมาสม่ำเสมอ” ความขยันของสมหวังทำให้หยั่น หว่อ หยุ่น เติบโตขึ้นตามลำดับ ในปี 2540 บริษัทได้ตั้งโรงงานแห่งที่ 2 ที่จังหวัดระยอง ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่นและยังให้ความสำคัญเรื่องการวิจัยเพิ่มมากขึ้น เป็นผลให้บริษัทกลายเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมการผลิตซีอิ๊วและเต้าเจี้ยวที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชีย ปัจจุบันซีอิ๊วขาวตราเด็กสมบูรณ์เป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย มีสัดส่วนทางการตลาดถึง 87% จากตลาดรวม 1,000 ล้านบาท สำหรับตลาดรวมของเครื่องปรุงรสทั้งหมดในประเทศ ไม่รวมน้ำปลา มีมูลค่าราว 4,000 ล้านบาท แบรนด์เด็กสมบูรณ์มีสัดส่วนทางการตลาดราว 34% ตามด้วย รายได้ทั้งหมด โดยปีที่แล้ว บริษัทมียอดขายรวมเกือบ 3,000 ล้านบาท สำหรับอนาคต สมหวังตั้งเป้าจะให้สัดส่วนรายได้ภายในประเทศกับต่างประเทศเท่าๆ กัน เพื่อไม่ให้พึ่งพาตลาดไทยมากเกินไป จนเกิดความเสี่ยงตามมา อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สามารถตอบได้ว่า เมื่อไรจะบรรลุถึงเป้าหมายนี้ ปัจจุบันสินค้าของบริษัทส่งออกไปขายมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก และคาดว่ายังสามารถโตได้อีก เนื่องจากสินค้าเครื่องปรุงของไทยมีความต้องการในตลาดโลก เพราะเป็นสินค้าคุณภาพและได้มาตรฐานสากล ตลาดที่บริษัทสนใจคือ ประเทศในทวีปอเมริกาใต้   เรื่อง: บำรุง อำนาจเจริญฤทธิ์ ภาพ: จันทร์กลาง กันทอง
คลิ๊กอ่านฉบับเต็ม "สมหวัง ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ จูง “เด็กสมบูรณ์” บุกครัวโลก" ได้ที่ Forbes Thailand ฉบับ AUGUST 2016 ในรูปแบบ e-Magazine