จาก พีเอ็ม กรุ๊ป ธุรกิจของครอบครัว "เฉลิมชัย มหากิจศิริ" ขอแตกแขนงพิสูจน์ฝีมือ พลิกฟื้น TTA ปรับภาพลักษณ์สู่การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ พร้อมขึ้นแท่นกลุ่มบริษัทเพื่อการลงทุนชั้นนำแห่งเอเชียในปี 2020
ในวัย 36 ปี
เฉลิมชัย มหากิจศิริ รั้งตำแหน่งสูงสุดในหลายองค์กร ทั้ง
president & CEO บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (TTA), CEO บริษัท เมอร์เมด แมริไทม์ จำกัด (มหาชน) ในเครือ TTA และ CEO บริษัท พีเอ็ม กรุ๊ป จำกัด จากบทบาทของนักแสดง “กึ้ง-เฉลิมชัย” เมื่อวันวาน มาวันนี้เขาสวมบทนักธุรกิจเต็มตัว
ในวัยเด็ก ประยุทธ มหากิจศิริ บิดาผู้สร้างอาณาจักรธุรกิจ พาเขาเข้าร่วมประชุมตั้งแต่อายุ 9-10 ขวบ เพื่อให้เรียนรู้บรรยากาศการประชุม จนได้แง่คิด “ถกให้น้อย ทำการบ้านให้เยอะ” ออกมาจากห้อง ที่ยังนำมาใช้จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ประยุทธยังฝึกการตัดสินใจให้ลูกชาย ในดีลที่ไม่ใหญ่อีกด้วย
หลังเรียนจบ เฉลิมชัยกลับมาช่วยบริหารกิจการของครอบครัวในหลายองค์กร จนราว 3 ปีก่อน ตัวเขาขอพิสูจน์ความสามารถด้วยการเข้าซื้อกิจการ
TTA โดยได้ศึกษาโครงสร้างธุรกิจซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2447 อย่างละเอียด แม้
TTA มีธุรกิจหลายแขนงในมือ แต่คนส่วนใหญ่มักจำได้แต่ธุรกิจเกี่ยวกับการเดินเรือ เฉลิมชัยจึงปรับภาพลักษณ์
TTA ให้เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้น เพื่อการลงทุนเชิงกลยุทธ์
หุ้น
TTA เคยสูงเกิน 50 บาท แต่เมื่อตกลง หลายคนจึงตื่นตระหนก แต่กลับเป็น
“โอกาสในวิกฤติ” ที่จะซื้อในราคาถูก เหตุผลอีกข้อคือ
TTA มีระบบที่ดีและมีขนาดใหญ่ ไม่มี majority shareholder แต่ดำเนินการโดยนักบริหารมืออาชีพ
“ผมขอทำหน้าที่รับผิดชอบพาองค์กรพลิกฟื้นกลับมาให้มีกำไรให้ได้” เขาให้คำมั่นในฐานะผู้นำ และผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด 15.92%
หลังก้าวสู่ตำแหน่งสูงสุดเมื่อต้นปี เฉลิมชัยลงมือปรับโครงสร้างองค์กร จบประสบความสำเร็จเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market cap) ของ TTA ให้เพิ่มขึ้น 50% เป้าหมายต่อไปคือเพิ่ม market cap ขึ้นอีก 2 เท่าใน 2 ปี ให้ได้อย่างน้อย 5 หมื่นล้านบาท ส่วนแผนระยะยาวคือต้องเป็นบริษัทที่ทำกำไร และต้องลงทุนในอุตสาหกรรมที่เจริญเติบโต เพื่อก้าวขึ้นเป็นกลุ่มบริษัทเพื่อการลงทุนชั้นนำของเอเชียในปี 2020
“ถ้ามองไกลกว่านี้ ผมอยากให้มี successor มารองรับ และขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างที่เราอยากให้เป็น ถ้าระบบดีก็ไม่จำเป็นต้องเป็นมหากิจศิริ จะเป็นใครก็ได้ แต่ผมขอให้ยึดถือประโยชน์ของทุกคนเป็นสำคัญ”